แกนนำการประท้วงขับไล่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในคำกล่าวหาพัวพันกับเรื่องฉ้อฉลอื้อฉาว เปิดเผยเมื่อวันอังคาร(1ก.ย.) ว่าพวกเขาถูกตำรวจเรียกไปรายงานตัว ชี้เป็นความพยายามข่มขู่แต่คงไม่ได้ผล ขณะที่องค์กรความโปร่งใสนานาชาติเตือนประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญวิกฤตคอรัปชันใหญ่หลวง
มาเรีย ชิน อับดุลเลาะห์ ประธานกลุ่มเบอเซะ (Bersih) พันธมิตรเพื่อการเลือกตั้งเสรีและยุติธรรม อันประกอบด้วยเหล่าเอ็นจีโอและกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆของมาเลเซีย ที่จัดการชุมนุม 2 วันและมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผยว่าแกนนำหลายคนได้รับคำสั่งให้ไปรายงานตัวและให้ปากคำกับตำรวจในวันพุธ(2ก.ย.) "แน่นอนว่าเสียเวลาเปล่า พวกเขาต้องการข่มขู่เรา แต่คงไม่ประสบผลสำเร็จ" เธอบอกกับเอเอฟพี
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักนับตั้งแต่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เผยแพร่รายงานเมื่อเดือนกรกฎาคม อ้างเอกสารของคณะสืบสวนของมาเลเซียพบว่ามีการโอนเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ เข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2013
เบื้องต้นนายนาจิบ ปฏฺิเสธด้วยอารมณ์โมโหต่อรายงานดังกล่าว ทว่านับตั้งแต่นั้นคณะรัฐมนตรีของเขายอมรับว่ามีการโอนเงินจริง โดยอ้างว่าเป็นเงินบริจาคทางการเมืองมาจากผู้สนับสนุนในตะวันออกกลาง แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ขณะที่ตัวของนายนาจิบ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด
พฤติกรรมดังกล่าวกระตุ้นให้ประชาชนหลายหมื่นคนหลั่งไหลรวมตัวกันใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์และเมืองต่างๆของมาเลเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ เรียกร้องให้นายนาจิบลาออกและปฏิรูปรัฐบาลอย่างกว้างขวาง แต่ทางตำรวจประกาศว่ามันเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย
มาเรีย ชิน อับดุลเลาะห์ ประธานกลุ่มเบอเซะ (Bersih) พันธมิตรเพื่อการเลือกตั้งเสรีและยุติธรรม อันประกอบด้วยเหล่าเอ็นจีโอและกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆของมาเลเซีย ที่จัดการชุมนุม 2 วันและมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เผยว่าแกนนำหลายคนได้รับคำสั่งให้ไปรายงานตัวและให้ปากคำกับตำรวจในวันพุธ(2ก.ย.) "แน่นอนว่าเสียเวลาเปล่า พวกเขาต้องการข่มขู่เรา แต่คงไม่ประสบผลสำเร็จ" เธอบอกกับเอเอฟพี
นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักนับตั้งแต่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล เผยแพร่รายงานเมื่อเดือนกรกฎาคม อ้างเอกสารของคณะสืบสวนของมาเลเซียพบว่ามีการโอนเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ เข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2013
เบื้องต้นนายนาจิบ ปฏฺิเสธด้วยอารมณ์โมโหต่อรายงานดังกล่าว ทว่านับตั้งแต่นั้นคณะรัฐมนตรีของเขายอมรับว่ามีการโอนเงินจริง โดยอ้างว่าเป็นเงินบริจาคทางการเมืองมาจากผู้สนับสนุนในตะวันออกกลาง แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ขณะที่ตัวของนายนาจิบ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด
พฤติกรรมดังกล่าวกระตุ้นให้ประชาชนหลายหมื่นคนหลั่งไหลรวมตัวกันใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์และเมืองต่างๆของมาเลเซียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ เรียกร้องให้นายนาจิบลาออกและปฏิรูปรัฐบาลอย่างกว้างขวาง แต่ทางตำรวจประกาศว่ามันเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย