ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน และผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 4 ส.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 47.51 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 17,550.69 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.72 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 2,093.32 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 9.83 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 5,105.55 จุด
การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 1.1% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.9% หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี ปรับตัวลง 2% และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ดิ่งลง 5.2%
บริษัท แอปเปิล หุ้นตก 3.2% รวมลดลงแล้วมากกว่า 12% หากนับตั้งประกาศผลประกอบการเมื่อวันที่ 21 ก.ค. โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าเป็นผลจากการเติบโตที่ช้าลงของแอปเปิล โดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญ
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาร่วงลงติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 49.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 0.1 ปิดที่ 1,090.70 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์ จากท่าทีของนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าเปิดเผยกับวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า เดือนก.ย.อาจจะเป็นช่วงที่ดีที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 4 ส.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 47.51 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 17,550.69 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.72 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 2,093.32 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 9.83 จุด หรือ 0.19% ปิดที่ 5,105.55 จุด
การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 1.1% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ร่วงลง 1.9% หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี ปรับตัวลง 2% และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ดิ่งลง 5.2%
บริษัท แอปเปิล หุ้นตก 3.2% รวมลดลงแล้วมากกว่า 12% หากนับตั้งประกาศผลประกอบการเมื่อวันที่ 21 ก.ค. โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าเป็นผลจากการเติบโตที่ช้าลงของแอปเปิล โดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญ
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ราคาร่วงลงติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 49.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
ด้านราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือร้อยละ 0.1 ปิดที่ 1,090.70 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ ออนซ์ จากท่าทีของนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้าเปิดเผยกับวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า เดือนก.ย.อาจจะเป็นช่วงที่ดีที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก