นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย ประกาศปรับคณะรัฐมนตรีในวันอังคาร (28 ก.ค.) โดยที่มีการปลดรองนายกฯผู้วิจารณ์กรณีอื้อฉาวกองทุน 1MDB แถมยังสั่งปลดอัยการสูงสุดซึ่งทำคดีนี้และพบหลักฐานกองทุนดังกล่าวโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของนาจิบ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์อื้ออึงว่าผู้นำแดนเสือเหลืองกำลังอับจนหนทาง และพยายามใช้อำนาจสยบฝ่ายตรงข้ามภายในพรรครัฐบาล เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสาวไส้และฟ้องร้องคดีอาญา
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีนาจิบถูกกดดันอย่างหนักจากข้อกล่าวหาที่ว่า ได้มีการผ่องถ่ายเงินก้อนโตออกมาจากกองทุนพัฒนาของรัฐ “1มาเลเซีย ดิเวลอปเมนท์ เบอร์ฮัด” (1MDB) ที่ตัวเขาก่อตั้งขึ้นในปี 2009
เมื่อต้นเดือนนี้ แรงกดดันดังกล่าวก็แปรเป็นเสียงเรียกร้องดังกระหึ่มให้นาจิบลาออก หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ทีมสอบสวนพบเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ถูกโอนจาก 1MDB ผ่านหน่วยงานรัฐ ธนาคาร และบริษัทหลายแห่ง ไปสิ้นสุดที่บัญชีธนาคารส่วนตัวของนาจิบ
ผู้นำมาเลเซียไม่ได้โต้แย้งเรื่องบัญชีธนาคารหรือการรับเงิน แต่ยืนกรานแค่ว่าไม่เคยนำเงินของรัฐไปใช้ส่วนตัว ซ้ำระบุว่า ข้อกล่าวหานี้เป็นความพยายามโค่นล้มตน ขณะที่เจ้าหน้าที่ 1MDB ปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ได้กระทำผิด ซ้ำทีมตรวจสอบชั่วคราวของรัฐบาลยังไม่พบพฤติกรรมน่าสงสัยใดๆ
ทว่า รายงานการสอบสวนหลายชุดที่ออกมาตลอดปีที่แล้วฟ้องว่า เงินของ 1MDB หลายร้อยล้านดอลลาร์หายวับไปกับการทำธุรกรรมซับซ้อนมีเงื่อนงำนอกประเทศ และขณะนี้ กองทุนแห่งนี้มีหนี้ถึง 11,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากการกว้านซื้อสินทรัพย์ที่น่าสงสัยในอุตสาหกรรมพลังงาน
ในวันอังคาร (28) นาจิบประกาศทางทีวีปลดรองนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน และแต่งตั้ง ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีมหาดไทยทำหน้าที่แทน ตลอดจนมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีรวมทั้งหมด 9 คน โดยให้เหตุผลว่า เพื่อสร้างทีมที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2018
ผู้นำมาเลเซียอธิบายเหตุผลว่า สมาชิกคณะรัฐมนตรีไม่ควรป่าวประกาศความคิดเห็นที่ขัดแย้งต่อธารกำนัล เนื่องจากอาจส่งผลให้ประชาชนมีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลไปด้วย
ทั้งนี้ มูห์ยิดดินถูกปลดหลังจากที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้นาจิบอธิบายกรณีอื้อฉาวใน 1MDB พร้อมเตือนว่า หากเรื่องนี้ไม่มีความกระจ่าง อาจทำให้ “บาริซัน เนชันแนล” (แนวร่วมแห่งชาติ) ของรัฐบาลที่มีพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) เป็นแกนนำ ต้องสูญเสียอำนาจ ทั้งนี้ นาจิบมีฐานะเป็นหัวหน้าพรรคอัมโน
นอกจากนั้นในวันเดียวกัน รัฐบาลมาเลเซียยังแถลงข่าวการปลดอับดุล กอนี ปาเตล อัยการสูงสุด ซึ่งเป็นคนหนึ่งในทีมสอบสวน 1MDB ที่นอกจากฝ่ายอัยการแล้ว ยังประกอบด้วยตัวแทนจากธนาคารกลาง คณะกรรมการปราบปรามการทุจริต และตำรวจ โดยคำแถลงอ้างว่า ปาเตลมีปัญหาสุขภาพ ขณะที่เจ้าตัวกลับให้สัมภาษณ์มาเลย์ เมล ออนไลน์ว่า ไม่ทราบเรื่องจะถูกปลดนี้มาก่อนเลย
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีนาจิบถูกกดดันอย่างหนักจากข้อกล่าวหาที่ว่า ได้มีการผ่องถ่ายเงินก้อนโตออกมาจากกองทุนพัฒนาของรัฐ “1มาเลเซีย ดิเวลอปเมนท์ เบอร์ฮัด” (1MDB) ที่ตัวเขาก่อตั้งขึ้นในปี 2009
เมื่อต้นเดือนนี้ แรงกดดันดังกล่าวก็แปรเป็นเสียงเรียกร้องดังกระหึ่มให้นาจิบลาออก หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ทีมสอบสวนพบเงินเกือบ 700 ล้านดอลลาร์ถูกโอนจาก 1MDB ผ่านหน่วยงานรัฐ ธนาคาร และบริษัทหลายแห่ง ไปสิ้นสุดที่บัญชีธนาคารส่วนตัวของนาจิบ
ผู้นำมาเลเซียไม่ได้โต้แย้งเรื่องบัญชีธนาคารหรือการรับเงิน แต่ยืนกรานแค่ว่าไม่เคยนำเงินของรัฐไปใช้ส่วนตัว ซ้ำระบุว่า ข้อกล่าวหานี้เป็นความพยายามโค่นล้มตน ขณะที่เจ้าหน้าที่ 1MDB ปฏิเสธเสียงแข็งว่า ไม่ได้กระทำผิด ซ้ำทีมตรวจสอบชั่วคราวของรัฐบาลยังไม่พบพฤติกรรมน่าสงสัยใดๆ
ทว่า รายงานการสอบสวนหลายชุดที่ออกมาตลอดปีที่แล้วฟ้องว่า เงินของ 1MDB หลายร้อยล้านดอลลาร์หายวับไปกับการทำธุรกรรมซับซ้อนมีเงื่อนงำนอกประเทศ และขณะนี้ กองทุนแห่งนี้มีหนี้ถึง 11,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากการกว้านซื้อสินทรัพย์ที่น่าสงสัยในอุตสาหกรรมพลังงาน
ในวันอังคาร (28) นาจิบประกาศทางทีวีปลดรองนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน และแต่งตั้ง ซาฮิด ฮามิดี รัฐมนตรีมหาดไทยทำหน้าที่แทน ตลอดจนมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีรวมทั้งหมด 9 คน โดยให้เหตุผลว่า เพื่อสร้างทีมที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2018
ผู้นำมาเลเซียอธิบายเหตุผลว่า สมาชิกคณะรัฐมนตรีไม่ควรป่าวประกาศความคิดเห็นที่ขัดแย้งต่อธารกำนัล เนื่องจากอาจส่งผลให้ประชาชนมีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลไปด้วย
ทั้งนี้ มูห์ยิดดินถูกปลดหลังจากที่เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้นาจิบอธิบายกรณีอื้อฉาวใน 1MDB พร้อมเตือนว่า หากเรื่องนี้ไม่มีความกระจ่าง อาจทำให้ “บาริซัน เนชันแนล” (แนวร่วมแห่งชาติ) ของรัฐบาลที่มีพรรคสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) เป็นแกนนำ ต้องสูญเสียอำนาจ ทั้งนี้ นาจิบมีฐานะเป็นหัวหน้าพรรคอัมโน
นอกจากนั้นในวันเดียวกัน รัฐบาลมาเลเซียยังแถลงข่าวการปลดอับดุล กอนี ปาเตล อัยการสูงสุด ซึ่งเป็นคนหนึ่งในทีมสอบสวน 1MDB ที่นอกจากฝ่ายอัยการแล้ว ยังประกอบด้วยตัวแทนจากธนาคารกลาง คณะกรรมการปราบปรามการทุจริต และตำรวจ โดยคำแถลงอ้างว่า ปาเตลมีปัญหาสุขภาพ ขณะที่เจ้าตัวกลับให้สัมภาษณ์มาเลย์ เมล ออนไลน์ว่า ไม่ทราบเรื่องจะถูกปลดนี้มาก่อนเลย
