รัฐมนตรีต่างประเทศของหลายชาติสมาชิกอาเซียน เมื่อวันอังคาร (4 ส.ค.) แสดงการหนุนหลังข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ให้ยุติการถมทะเลสร้างเกาะเทียมในทะเลจีนใต้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นความไม่สบายใจในภูมิภาคนี้ ต่อการขยายตัวรุกคืบเข้าสู่ดินแดนพิพาทต่างๆ อย่างแข็งกร้าวต่อเนื่องของแดนมังกร
ฝ่ายจีนแถลงว่าไม่ต้องการให้มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดจากันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์สัปดาห์นี้ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการประชุมของบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกันเองในวันอังคาร (4) แล้วต่อเนื่องด้วยการหารือระหว่างรัฐมนตรี 10 ชาติอาเซียนเหล่านี้กับรัฐมนตรีของพวกประเทศคู่เจรจาต่างๆ โดยไฮไลต์ซึ่งเป็นที่จับตามากที่สุด คือ “การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก” (ASEAN Regional Forum หรือ ARF) ในวันพฤหัสบดี (6)
ทว่า อานิฟาห์ อามาน รัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซียผู้เป็นชาติเจ้าภาพ กล่าวระหว่างการเปิดประชุม 10 รัฐมนตรีอาเซียนในวันอังคารว่า อาเซียนควรต้องมีบทบาทสำคัญในการรับประกันว่า ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้จะได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธี
ภายหลังการประชุม เขายังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ประเด็นเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีใต้นี้ “ได้รับการอภิปรายหารือกันอย่างกว้างขวาง” ระหว่างการประชุมวันอังคาร
“เรายังอภิปรายหารือกันถึงหนทางต่างๆ ในการแก้ไขรับมือกับสภาพที่ความไว้วางใจกันและความเชื่อมั่นกันในระหว่างฝ่ายต่างๆ ได้ถูกกัดกร่อนโยกคลอนลงไป ภายหลังเกิดพัฒนาการช่วงหลังๆ มานี้ในทะเลจีนใต้ ทั้งเรื่องการถมทะเล ตลอดจนความตึงเครียดบนภาคพื้นซึ่งมีการยกระดับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น”
เขาระบุด้วยว่า บรรดาสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องต้องกันว่า จะต้องใช้เพิ่มพูนความยับยั้งชั่งใจในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งอาจจะไปทำให้ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มความซับซ้อนหรือเป็นการยกระดับทวีความรุนแรง
ทางด้านฟิลิปปินส์ ซึ่งหลายๆ ปีที่ผ่านมาเป็นชาติอาเซียนที่แสดงความไม่พอใจปักกิ่งและพรักพร้อมเผชิญหน้ากับจีนมากที่สุดนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ ได้พูดกล่าวหาจีนอย่างตรงไปตรงมาว่า กำลัง “ดำเนินกิจกรรมถมทะเลขนาดใหญ่โตมหึมา” ในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่พิพาทช่วงชิงกับหลายประเทศสมาชิกอาเซียน
เขากล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรายอื่นๆ ในการหารือกันช่วงบ่ายวันอังคารว่า “ขณะที่เรากำลังพูดกันอยู่นี้ เรามองไม่เห็นเลยว่าเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของเรารายนี้ จะมีการยุติหรือผ่อนคลายกิจกรรมอันก้าวร้าวและทำตามอำเภอใจฝ่ายเดียว ในทะเลจีนใต้” ทั้งนี้ตามบันทึกคำพูดของเขาซึ่งมีการนำออกเผยแพร่สู่มือผู้สื่อข่าวหลายราย
“กิจกรรมการถมทะเลขนาดมหึมา … ได้บ่อนทำลายสันติภาพ, ความมั่นคง, และเสถียรภาพในทะเลจีนใต้” รัฐมนตรีฟิลิปปินส์บอก พร้อมกับเรียกร้องให้ชาติอาเซียนต้องออกมารับมือแก้ไขประเด็นเรื่องนี้กับทางจีน
ฝ่ายจีนแถลงว่าไม่ต้องการให้มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดจากันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์สัปดาห์นี้ ซึ่งเริ่มต้นด้วยการประชุมของบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกันเองในวันอังคาร (4) แล้วต่อเนื่องด้วยการหารือระหว่างรัฐมนตรี 10 ชาติอาเซียนเหล่านี้กับรัฐมนตรีของพวกประเทศคู่เจรจาต่างๆ โดยไฮไลต์ซึ่งเป็นที่จับตามากที่สุด คือ “การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก” (ASEAN Regional Forum หรือ ARF) ในวันพฤหัสบดี (6)
ทว่า อานิฟาห์ อามาน รัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซียผู้เป็นชาติเจ้าภาพ กล่าวระหว่างการเปิดประชุม 10 รัฐมนตรีอาเซียนในวันอังคารว่า อาเซียนควรต้องมีบทบาทสำคัญในการรับประกันว่า ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้จะได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธี
ภายหลังการประชุม เขายังแถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ประเด็นเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีใต้นี้ “ได้รับการอภิปรายหารือกันอย่างกว้างขวาง” ระหว่างการประชุมวันอังคาร
“เรายังอภิปรายหารือกันถึงหนทางต่างๆ ในการแก้ไขรับมือกับสภาพที่ความไว้วางใจกันและความเชื่อมั่นกันในระหว่างฝ่ายต่างๆ ได้ถูกกัดกร่อนโยกคลอนลงไป ภายหลังเกิดพัฒนาการช่วงหลังๆ มานี้ในทะเลจีนใต้ ทั้งเรื่องการถมทะเล ตลอดจนความตึงเครียดบนภาคพื้นซึ่งมีการยกระดับทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น”
เขาระบุด้วยว่า บรรดาสมาชิกอาเซียนเห็นพ้องต้องกันว่า จะต้องใช้เพิ่มพูนความยับยั้งชั่งใจในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในทะเลจีนใต้ ซึ่งอาจจะไปทำให้ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มความซับซ้อนหรือเป็นการยกระดับทวีความรุนแรง
ทางด้านฟิลิปปินส์ ซึ่งหลายๆ ปีที่ผ่านมาเป็นชาติอาเซียนที่แสดงความไม่พอใจปักกิ่งและพรักพร้อมเผชิญหน้ากับจีนมากที่สุดนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ ได้พูดกล่าวหาจีนอย่างตรงไปตรงมาว่า กำลัง “ดำเนินกิจกรรมถมทะเลขนาดใหญ่โตมหึมา” ในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่พิพาทช่วงชิงกับหลายประเทศสมาชิกอาเซียน
เขากล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนรายอื่นๆ ในการหารือกันช่วงบ่ายวันอังคารว่า “ขณะที่เรากำลังพูดกันอยู่นี้ เรามองไม่เห็นเลยว่าเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของเรารายนี้ จะมีการยุติหรือผ่อนคลายกิจกรรมอันก้าวร้าวและทำตามอำเภอใจฝ่ายเดียว ในทะเลจีนใต้” ทั้งนี้ตามบันทึกคำพูดของเขาซึ่งมีการนำออกเผยแพร่สู่มือผู้สื่อข่าวหลายราย
“กิจกรรมการถมทะเลขนาดมหึมา … ได้บ่อนทำลายสันติภาพ, ความมั่นคง, และเสถียรภาพในทะเลจีนใต้” รัฐมนตรีฟิลิปปินส์บอก พร้อมกับเรียกร้องให้ชาติอาเซียนต้องออกมารับมือแก้ไขประเด็นเรื่องนี้กับทางจีน