พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดผยว่า กรมชลประทานระบายน้ำเพื่อการเกษตร การอุปโภคบริโภค และการดูแลระบบนิเวศบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด เพิ่มเป็นวันละ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร หลังมีปริมาณน้ำลงเขื่อนหลักมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจุบันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน ได้ปรับปริมาณการระบายน้ำจากเดิมที่เคยกำหนดไว้ที่ 18 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็นกว่า 19 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้มีปริมาณน้ำเข้าไปดูแลพื้นที่การเพาะปลูกมากขึ้น ประกอบการหลายพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาวะการขาดน้ำลดลงอย่างมาก
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (30 กค.) เพียงวันเดียวมีปริมาณน้ำลงเขื่อน 51.28 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำที่น่าพอใจมาก เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนตลอดทั้งสัปดาห์ 202.73 ล้านลูกบาศก์เมตร และเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนในช่วงต้นเดือน ซึ่งตลอด 2 สัปดาห์มีน้ำไหลลงเขื่อนประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 7-8 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์น้ำในเขื่อนจะดีขึ้นมาก แต่รัฐบาลยังขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกครัวเรือน ให้ช่วยกันประหยัดน้ำต่อไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการประหยัดน้ำเป็นสิ่งที่ควรประพฤติปฏิบัติตลอดเวลา ไม่ว่าสถานการณ์น้ำในประเทศจะเป็นเช่นไร เพราะน้ำถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อทุกคนที่ควรใช้อย่างรู้ค่า
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (30 กค.) เพียงวันเดียวมีปริมาณน้ำลงเขื่อน 51.28 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำที่น่าพอใจมาก เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนตลอดทั้งสัปดาห์ 202.73 ล้านลูกบาศก์เมตร และเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนในช่วงต้นเดือน ซึ่งตลอด 2 สัปดาห์มีน้ำไหลลงเขื่อนประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 7-8 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์น้ำในเขื่อนจะดีขึ้นมาก แต่รัฐบาลยังขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกครัวเรือน ให้ช่วยกันประหยัดน้ำต่อไป ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการประหยัดน้ำเป็นสิ่งที่ควรประพฤติปฏิบัติตลอดเวลา ไม่ว่าสถานการณ์น้ำในประเทศจะเป็นเช่นไร เพราะน้ำถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าต่อทุกคนที่ควรใช้อย่างรู้ค่า
