รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำ 18 - 20 ก.ค. ขอเกษตรกรงดการสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรโดยเด็ดขาด หวั่นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงมาก ขาดน้ำจืดผลักดันกระทบระบบการผลิตน้ำประปาทั้งระบบ พื้นที่ไหนเก็บเกี่ยวทันจะส่งรถน้ำไปให้ แต่ถ้าไม่ทันก็มีแผนเยียวยา
วันนี้ (17 ก.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์น้ำไหลเติมเขื่อนจะดีขึ้น แต่รายงานล่าสุด พบว่า นับจากวันนี้จนถึงวันจันทร์จะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูงมาก ซึ่งหากไม่มีการปล่อยน้ำไปผลักดันจะส่งผลต่อระบบการผลิตน้ำประปาทั้งระบบ ทำให้น้ำบริโภคกลายเป็นน้ำกร่อย ซึ่งไม่เหมาะแก่การบริโภคของเด็กและผู้ป่วย ตลอดจนประชาชนทั่วไป
“ขอประกาศย้ำว่า ในช่วงระหว่างวันเสาร์ อาทิตย์ และวันจันทร์ ที่จะถึงนี้ คือ วันที่ 18 - 20 ก.ค. ขอเกษตรกรงดการสูบน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรโดยเด็ดขาด เพราะต้องใช้น้ำปริมาณมากพอในการผลักดันน้ำทะเลไม่ให้ทะลักเข้าสู่ระบบประปาได้ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องการวินัย และการปฏิบัติตามคำประกาศอย่างเคร่งครัด” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าราชการปกครองท้องถิ่น ท้องที่ และหน่วยทหารจะเดินเท้าเข้าสำรวจพื้นที่การเกษตร เพื่อควบคุมให้ทุกอย่างเป็นตามระบบที่วางไว้ รวมทั้งจะตรวจสอบประเมินพื้นที่การเพาะปลูกไปพร้อมกัน เพื่อเตรียมส่งน้ำไปช่วยเหลือเป็นจุด ๆ ที่พืชผลยังมีโอกาสเก็บเกี่ยวได้ทัน ขณะที่พื้นที่เกษตรที่แน่ชัดว่าจะเกิดความเสียหาย รัฐบาลจะมีแผนช่วยเหลือเยียวยาอย่างเหมาะสม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป โดยมาตรการพิเศษเพิ่มเติมเหล่านี้จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีโดยเร็วที่สุด
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ถือว่าพี่น้องเกษตรกรได้ร่วมเสียสละรายได้ของผลผลิตของตน เพื่อร่วมฝ่าวิกฤตครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ประกอบอาชีพการเกษตร ไม่ว่าจะอยู่ส่วนใด พื้นที่ใดของประเทศ ควรแสดงความขอบคุณ และต้องขมีขมันในการประหยัด ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และให้ถือว่าน้ำเป็นทรัพยากรที่ต้องสงวนรักษาและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
