สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสัญญาทองคำ โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งกว่าไตรมาสแรก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ระดับ 1,088.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.45% แตะที่ 97.60 เมื่อคืนนี้
รวมไปถึงสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 53.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นนั้น มาจากรายงานที่ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐ ขยายตัว 2.3% ซึ่งดีกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัวเพียง 0.6% เนื่องจากยอดส่งออกและการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเฟซบุ๊ก และพร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 31 ก.ค. แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 5.41 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 17,745.98 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.06 จุด หรือไม่ถึง 0.01% ปิดที่ 2,108.63 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 17.06 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 5,128.79 จุด
ดาวโจนส์ปรับตัวลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ และเคลื่อนตัวผันผวนจนกกระทั่งปิดในแดนลบ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีประจำไตรมาส 2 ปีนี้ ขยายตัว 2.3% หลังจากที่ขยายตัวเพียง 0.6% ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ค.อยู่ที่ 267,000 ราย เพิ่มขึ้น 12,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ระดับ 1,088.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.45% แตะที่ 97.60 เมื่อคืนนี้
รวมไปถึงสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 53.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นนั้น มาจากรายงานที่ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐ ขยายตัว 2.3% ซึ่งดีกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัวเพียง 0.6% เนื่องจากยอดส่งออกและการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ด้านดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ที่ขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของเฟซบุ๊ก และพร็อกเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 31 ก.ค. แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 5.41 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 17,745.98 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 0.06 จุด หรือไม่ถึง 0.01% ปิดที่ 2,108.63 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 17.06 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 5,128.79 จุด
ดาวโจนส์ปรับตัวลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ และเคลื่อนตัวผันผวนจนกกระทั่งปิดในแดนลบ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีประจำไตรมาส 2 ปีนี้ ขยายตัว 2.3% หลังจากที่ขยายตัวเพียง 0.6% ในไตรมาสแรก อย่างไรก็ตาม จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 2.5%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ก.ค.อยู่ที่ 267,000 ราย เพิ่มขึ้น 12,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า