สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า ในปีนี้ ลาว ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์ และอินเดีย มีผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ โดย นายอันชู กุปตะ ชาวอินเดียผู้ก่อตั้งจิตอาสามูลนิธิหนึ่งเพื่อช่วยเหลือคนจนในอินเดีย เป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซประจำปีนี้ โดยมูลนิธิของเขาผลิตผ้าอนามัยราคาถูก ที่ทำมาจากเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงอินเดียราว 70% ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินค้าดังกล่าวได้ นอกจากนี้ ยังมีนายซันจีฟ จาตุรเวที ที่รณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นก็ได้รับรางวัลนี้ด้วย
นางคำมาลี ชนะทาวง วัย 71 ปี จากประเทศลาว ได้รับรางวัลจากบทบาทการเป็นแกนนำจัดตั้งกลุ่มทอผ้าให้กับหญิงที่ยากจนในชนบทที่ห่างไกล ที่ตอนแรกเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ จนกลายเป็นโครงการขนาดใหญ่
นายจอ ตู จากเมียนมาร์ ดาราภาพยนตร์และผู้กำกับชื่อดังได้รับรางวัลจากงานจิตอาสาที่เขาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 ในการช่วยจัดงานศพให้กับผู้ยากจนในกรุงย่างกุ้ง
นางลิกายา เฟอร์นันโด-อามิลบังสา จากฟิฟิปปินส์ ได้รับรางวัลจากความพยายามส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปะการฟ้อนรำของชาวฟิลิปปินส์มุสลิมที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ
รางวัลแม็กไซไซ หรือ รางวัลรามอน แมกไซไซ (Ramon Magsaysay Award) เป็นรางวัลที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ นายรามอน แม็กไซไซ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งประชาชนยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ เนื่องจากแม็กไซไซเป็นผู้จัดตั้งขบวนการใต้ดิน ต่อสู้กับกองทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งยังเป็นหัวหน้าขบวนการเรียกร้องเอกราชของชาติ และได้ทำงานทุ่มเทแรงงานแรงใจให้กับการช่วยเหลือคนยากไร้
ทั้งนี้ การมอบรางวัลดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อรับรองและประกาศเกียรติคุณของบุคคลที่อยู่ในทวีปเอเชีย ผู้อุทิศตนเพื่อรับใช้มนุษยชาติในทางสร้างสรรค์ โดยแบ่งเป็น 6 สาขาคือ 1.สาขาบริการภาครัฐ (Government Service) 2.สาขาบริการสาธารณะ (Public Service) 3. สาขาผู้นำชุมชน (Community Leaderships) 4. สาขาวารสารศาสตร์,วรรณกรรมและศิลปะการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์(Journalism, Literature and Creative Communication Arts) 5. สาขาสันติภาพและความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ(Peace and International Understanding) และ 6. สาขาผู้นำในภาวะฉุกเฉิน (Emergent Leadership) หากปีใดหาผู้เหมาะสมไม่ครบตามสาขานั้นๆ ก็จะไม่มีการพิจารณามอบรางวัล สำหรับผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเหรียญสดุดีและเงินรางวัลประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,000,000 บาท โดยมีพิธีมอบที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของแม็กไซไซ
นางคำมาลี ชนะทาวง วัย 71 ปี จากประเทศลาว ได้รับรางวัลจากบทบาทการเป็นแกนนำจัดตั้งกลุ่มทอผ้าให้กับหญิงที่ยากจนในชนบทที่ห่างไกล ที่ตอนแรกเริ่มจากกลุ่มเล็ก ๆ จนกลายเป็นโครงการขนาดใหญ่
นายจอ ตู จากเมียนมาร์ ดาราภาพยนตร์และผู้กำกับชื่อดังได้รับรางวัลจากงานจิตอาสาที่เขาก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 ในการช่วยจัดงานศพให้กับผู้ยากจนในกรุงย่างกุ้ง
นางลิกายา เฟอร์นันโด-อามิลบังสา จากฟิฟิปปินส์ ได้รับรางวัลจากความพยายามส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปะการฟ้อนรำของชาวฟิลิปปินส์มุสลิมที่อาศัยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ
รางวัลแม็กไซไซ หรือ รางวัลรามอน แมกไซไซ (Ramon Magsaysay Award) เป็นรางวัลที่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ นายรามอน แม็กไซไซ อดีตประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งประชาชนยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ เนื่องจากแม็กไซไซเป็นผู้จัดตั้งขบวนการใต้ดิน ต่อสู้กับกองทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งยังเป็นหัวหน้าขบวนการเรียกร้องเอกราชของชาติ และได้ทำงานทุ่มเทแรงงานแรงใจให้กับการช่วยเหลือคนยากไร้
ทั้งนี้ การมอบรางวัลดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อรับรองและประกาศเกียรติคุณของบุคคลที่อยู่ในทวีปเอเชีย ผู้อุทิศตนเพื่อรับใช้มนุษยชาติในทางสร้างสรรค์ โดยแบ่งเป็น 6 สาขาคือ 1.สาขาบริการภาครัฐ (Government Service) 2.สาขาบริการสาธารณะ (Public Service) 3. สาขาผู้นำชุมชน (Community Leaderships) 4. สาขาวารสารศาสตร์,วรรณกรรมและศิลปะการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์(Journalism, Literature and Creative Communication Arts) 5. สาขาสันติภาพและความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ(Peace and International Understanding) และ 6. สาขาผู้นำในภาวะฉุกเฉิน (Emergent Leadership) หากปีใดหาผู้เหมาะสมไม่ครบตามสาขานั้นๆ ก็จะไม่มีการพิจารณามอบรางวัล สำหรับผู้ได้รับรางวัลจะได้รับเหรียญสดุดีและเงินรางวัลประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,000,000 บาท โดยมีพิธีมอบที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของแม็กไซไซ