รอยเตอร์ – เอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำกรุงนิวเดลีออกจดหมายติเตียนพฤติกรรมของอาจารย์มหาวิทยาลัยเมืองเบียร์คนหนึ่ง ซึ่งยกเรื่อง “อาชญากรรมทางเพศ” ที่เกิดขึ้นบ่อยในแดนภารตะมาเป็นข้ออ้างปฏิเสธคำร้องขอฝึกงานของนักศึกษาชายชาวอินเดีย
คดีนักศึกษาหญิงวัย 23 ปีถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมข่มขืนและโยนลงจากรถเมล์ที่กรุงนิวเดลีเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2012 เคยจุดกระแสประท้วงการข่มขืนผู้หญิงทั่วอินเดียมาแล้ว และล่าสุดคดีนี้ก็กลับมาเป็นที่กล่าวขวัญอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลอินเดียสั่งแบนสารคดีเรื่อง India’s Daughters ซึ่งผู้สร้างชาวอังกฤษได้ไปขอสัมภาษณ์หนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อคดีนี้ถึงในเรือนจำ
เอกอัครราชทูต ไมเคิล สไตเนอร์ ได้เขียนจดหมายถึง อันแน็ตต์ จี. เบค-ซิกคินเกอร์ อาจารย์ประจำสถาบันชีววิทยาของมหาวิทยาลัยไลพ์ซิก (Leipzig University) สถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่ของเยอรมนี โดยตำหนิที่เธอพิจารณาคำร้องขอฝึกงานของนักศึกษาชาวอินเดียด้วยวิธี “สรุปอะไรง่ายๆ และกีดกันแบบเหมารวม”
“ผมทราบมาว่า คุณไม่รับนักศึกษาชายจากอินเดียคนหนึ่งเข้าฝึกงาน โดยอ้างถึงปัญหาการข่มขืน... ผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเช่นนี้” สไตเนอร์ ระบุในจดหมายซึ่งเขานำมาโพสต์ลงทวิตเตอร์
ทูตเมืองเบียร์ ชี้ว่า การปฏิเสธคำร้องของนักศึกษาด้วยเหตุผลเช่นนี้ เท่ากับดูหมิ่นชาวอินเดียอีกนับล้านๆ คนที่เคารพกฎหมาย
“ขอให้เข้าใจด้วยว่า อินเดียไม่ใช่ประเทศของพวกโจรข่มขืน” เขากล่าว
เว็บไซต์ถาม-ตอบ Quora ได้ตีแผ่ข้อความจากอีเมล์ของเจ้าหน้าที่สถาบันชีววิทยา มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก ซึ่งมีการขีดฆ่าชื่อผู้เขียนทิ้ง เนื้อหาของข้อความระบุว่า “ดิฉันไม่รับนักศึกษาฝึกงานจากอินเดีย เราได้ยินข่าวผู้หญิงที่นั่นถูกข่มขืนบ่อยมาก ซึ่งดิฉันคงสนับสนุนพฤติกรรมอย่างนี้ไม่ได้”
เบค-ซิกคินเกอร์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านทางมหาวิทยาลัย โดยยอมรับผิด และ “ขออภัยทุกคนที่รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่ดิฉันเขียน”
อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่า อีเมล์ที่เขียนไม่ได้มีเนื้อหาเช่นนี้ แต่มีผู้นำข้อความไปตัดต่อในทางที่ไม่ดี
เบค-ซิกคินเกอร์ อธิบายว่า เธอไม่รับนักศึกษาชาวอินเดียคนนี้เข้าฝึกงานเพราะห้องปฏิบัติการมีคนเต็มแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมฟัง และชวนเธอคุยเกี่ยวกับสภาพสังคมในเยอรมนีและอินเดีย ซึ่งระหว่างนั้นเองที่เธอยกปัญหาการข่มขืนขึ้นมาพูด
แม้คดีสะเทือนขวัญเมื่อปี 2012 จะทำให้รัฐบาลอินเดียเพิ่มโทษผู้ก่อคดีทำร้ายทางเพศให้หนักขึ้น แต่ปัจจุบันยังมีผู้หญิงอินเดียถูกข่มขืนเฉลี่ยทุกๆ 21 นาที ขณะที่การสาดน้ำกรด ความรุนแรงในครอบครัว หรือการลวนลามผู้หญิงในที่สาธารณะ ก็ยังเกิดบ่อยจนเป็นเรื่องปกติ