ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสาร รายงานสถานการณ์น้ำ วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคมว่า สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลาง ภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์น้อย มีปริมาตรน้ำกักเก็บ 33,838 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 45 สำหรับปริมาณน้ำในเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ยกเว้นเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ อยู่ในเกณฑ์น้อย 18 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล จ.เชียงใหม่ เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนภูมิพล จ.ตาก เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก เขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนน้ำพุง จ.สกลนคร เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา เขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี เขื่อนบางพระ จ.ชลบุรี และเขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยส่วนใหญ่ เขื่อนและแม่น้ำสายหลักหลายแห่ง มีปริมาณน้ำใช้เพื่อการเกษตรอยู่ในเกณฑ์น้อย
ส่วนภาพรวมสถานการณ์ภัยแล้ง ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 จังหวัด 15 อำเภอ 98 ตำบล 896 หมู่บ้าน คือภาคเหนือที่ จ.น่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.นครราชสีมา โดยในระยะนี้ มีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ ประกอบกับกรมฝนหลวง และการบินเกษตร ได้ปฏิบัติการทำฝนเทียมในทุกภาค ทำให้ภาวะความแห้งแล้งคลี่คลายในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด
ส่วนภาพรวมสถานการณ์ภัยแล้ง ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 จังหวัด 15 อำเภอ 98 ตำบล 896 หมู่บ้าน คือภาคเหนือที่ จ.น่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.นครราชสีมา โดยในระยะนี้ มีฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ ประกอบกับกรมฝนหลวง และการบินเกษตร ได้ปฏิบัติการทำฝนเทียมในทุกภาค ทำให้ภาวะความแห้งแล้งคลี่คลายในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยังต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด