xs
xsm
sm
md
lg

คนร.เห็นชอบปรับเกณฑ์จัดตั้ง/ร่วมทุน รสก.ย้ำเร่งลดสิทธิประโยชน์บอร์ด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันนี้ (17 ก.ค.) เวลา 09.00 น. ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 6/2558 โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม

นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 6/2558 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุม คนร.เห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดตั้ง/ร่วมทุนและกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ และได้กำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่มีบริษัทในเครือทบทวนสถานภาพการคงอยู่ของบริษัทในเครือที่มีการจัดตั้งขึ้นแล้ว โดยให้รายงานผ่านกระทรวงเจ้าสังกัดและนำเสนอ คนร.ภายใน 3 เดือน หากจำเป็นต้องคงอยู่ แต่มีผลการดำเนินงานขาดทุน ให้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงการดำเนินงานด้วย

สำหรับหลักเกณฑ์การจัดตั้ง/ร่วมทุน และกำกับดูแลบริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจ ได้มีการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในสาระสำคัญ ได้แก่ การให้หลักเกณฑ์ดังกล่าวครอบคลุมรัฐวิสาหกิจทั้ง 56 แห่ง การปรับปรุงข้อมูลประกอบการขออนุมัติการจัดตั้ง/ร่วมลงทุนในบริษัทในเครือที่มีความรอบคอบและมุ่งหวังผลสำเร็จของบริษัทในเครือ และการปรับปรุงระบบกำกับดูแลบริษัทในเครือที่รัดกุมยิ่งขึ้น โดยให้มีการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทในเครือต่อ คนร. รวมทั้งกำหนดให้การส่งพนักงานเข้าไปทำงานในบริษัทในเครือ ให้พนักงานรับค่าตอบแทนทางใดทางหนึ่งเท่านั้น และให้มีการกำหนดระยะเวลาการทำงานที่ชัดเจน

นอกจากนี้ คนร.เห็นชอบหลักการของร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจที่จะจัดทำขึ้น ตามที่ คนร.ได้มอบหมายในคราวประชุมครั้งที่ 4/2558 โดยมีสาระสำคัญคือ กำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจในกฎหมาย ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน กำหนดให้มีการจัดทำแผนพัฒนาระบบรัฐวิสาหกิจ กำหนดให้มีระบบกำกับดูแลของรัฐวิสาหกิจ เช่น ระบบสรรหาและแต่งตั้งกรรมการ ระบบประเมินผลงาน ระบบการเปิดเผยข้อมูล และระบบการแก้ไขรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหา และกำหนดให้มีการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติโดยมีกระทรวงการคลังเป็นเจ้าของ เพื่อทำหน้าที่บริหารรัฐวิสาหกิจที่มีสถานะเป็นบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด ที่มีลักษณะการดำเนินการในเชิงพาณิชย์

ทั้งนี้ คนร.มอบหมายให้คณะอนุกรรมการกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจฯ ที่มีผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นประธานอนุกรรมการ จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ รวมทั้งหารือกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการโอนหุ้นของรัฐวิสาหกิจไปยังบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติ และประชาสัมพันธ์เพื่อทำความเข้าใจกับสาธารณชนก่อนนำเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเดือนกันยายน 2558 ต่อไป โดยการจัดตั้งบรรษัทวิสาหกิจแห่งชาติจะไม่ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ แต่จะเป็นเครื่องมือของรัฐในการบริหารจัดการรัฐวิสาหกิจให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และไม่ใช่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หรือการขายรัฐวิสาหกิจแต่อย่างใด เป็นการตั้งบรรษัทฯ ขึ้นมาเพื่อเป็นองค์กรเจ้าของ เพื่อทำหน้าที่ในการสร้างมูลค่าเพิ่มในการทำงานและสร้างประสิทธิภาพในการทำงานให้กับรัฐวิสาหกิจ

พร้อมกันนี้ ตามที่ คนร.ได้มีมติให้รัฐวิสาหกิจปรับลดสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจและปรับลดวงเงินบริจาค และกำหนดให้รัฐวิสาหกิจมีการเปิดเผยข้อมูลให้ได้มาตรฐาน โดยในการประชุมครั้งนี้ คนร.ได้ติดตามผลการดำเนินการตามมติ คนร.ดังกล่าว และ คนร.ได้กำชับให้รัฐวิสาหกิจเร่งลดสิทธิประโยชน์ของคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจและเงินบริจาค และเปิดเผยข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ตามมติ คนร.ภายใน 1 เดือน รวมทั้งให้รัฐวิสาหกิจสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะถึงผลงานของรัฐวิสาหกิจตามสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ส่วนในเรื่องการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ หรือแอร์พอร์ตเรลลิงก์ คนร.มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการซ่อมบำรุงและจัดหาขบวนรถใหม่ เพื่อให้เพียงพอต่อการให้บริการประชาชน และเห็นชอบให้ดำเนินการจัดหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ที่จะขยายไปยังสนามบินดอนเมืองควบคู่กันต่อไป

ขณะที่การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานของรัฐวิสาหกิจ จากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน คนร.ได้มอบหมายให้ สคร.หารือร่วมกับรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ เพิ่มเติมถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นแหล่งลงทุนทางเลือกในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น