ชมรมผู้ค้าน้ำมัน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีหยุดจำหน่ายน้ำมันทุกปั้มในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยข้อความในแถลงการณ์ระบุว่า
เรียนพี่น้องประชาชนชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่เคารพ ชมรมผู้ค้าน้ำมันต้องกราบขออภัยทุกท่าน ที่จำเป็นต้องปิดปั๊มน้ำมันทั้ง 3 จังหวัดในช่วงเช้าของวันที่ 13 ก.ค.2558 ซึ่งเป็นไปตามมติชมรมฯ เพื่อเรียกร้องให้ อบจ.นราธิวาส ถอนแจ้งความปั๊มที่ อ.รือเสาะ 3 ปั๊ม และขอให้แก้ไขการเก็บภาษีน้ำมัน อบจ.ที่เก็บจากผู้ใช้รายย่อยที่ซื้อน้ำมันผ่านปั๊ม แต่ไม่เก็บจากผู้ใช้รายใหญ่ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันมาก ๆ ทำให้การเก็บภาษีเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศได้เงินน้อยมาก เพราะถ้าเปลี่ยนวิธีเก็บใหม่ เก็บภาษีจากผู้ใช้รายใหญ่ด้วยจะได้จำนวนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 4-5 เท่า
ชมรมฯ ได้ใช้เวลาหลายเดือน เพื่อแจ้งขอเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษีให้ อบจ.ทั้ง 3 จังหวัด และหน่วยงานทุกหน่วยงานทราบปัญหานี้ แต่ไม่มีความคืบหน้า เมื่อ อบจ.นราธิวาส แจ้งความปั๊มทั้ง 3 ปั๊มที่อำเภอรือเสาะ ชมรมฯ จึงไม่มีทางเลือก หากพวกเราไม่แสดงพลัง กฎหมายนี้ก็คงแก้ไขไม่ได้ ชมรมฯ ทราบดีว่าการปิดปั๊มน้ำมันทั้ง 3 จังหวัด ไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดเลย แม้แต่เจ้าของปั๊มเองก็ไม่มีใครอยากปิดปั๊ม แต่การเสียสละของทุกฝ่ายในครั้งนี้ เป็นผลแก่ประเทศไทยแล้ว คือ ขณะนี้ทางราชการได้นำเสนอเพื่อขอแก้ไขวิธีการเก็บภาษีใหม่ไปยังส่วนกลางอย่างเร่งด่วน วิธีการเก็บภาษีแบบใหม่น่าจะประกาศใช้ได้ภายใน 2-6 เดือน เมื่อวิธีการเก็บภาษีใหม่ได้รับการอนุมัติ น้ำมันทุกลิตร ไม่ว่าจะเอาไปใช้ที่ไหน จะต้องเสียภาษีอย่างเท่าเทียมกัน ขณะนี้เป้าหมายของชมรมฯ บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว จึงกราบขออภัยในความเดือดร้อนและขอขอบคุณที่ทุกฝ่ายยอมเสียสละในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (14 ก.ค.) ปั้มน้ำมันต่างๆ ได้กลับมาเปิดให้บริการจำหน่ายแล้วทุกแห่งตามปกติ
เรียนพี่น้องประชาชนชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ที่เคารพ ชมรมผู้ค้าน้ำมันต้องกราบขออภัยทุกท่าน ที่จำเป็นต้องปิดปั๊มน้ำมันทั้ง 3 จังหวัดในช่วงเช้าของวันที่ 13 ก.ค.2558 ซึ่งเป็นไปตามมติชมรมฯ เพื่อเรียกร้องให้ อบจ.นราธิวาส ถอนแจ้งความปั๊มที่ อ.รือเสาะ 3 ปั๊ม และขอให้แก้ไขการเก็บภาษีน้ำมัน อบจ.ที่เก็บจากผู้ใช้รายย่อยที่ซื้อน้ำมันผ่านปั๊ม แต่ไม่เก็บจากผู้ใช้รายใหญ่ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันมาก ๆ ทำให้การเก็บภาษีเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศได้เงินน้อยมาก เพราะถ้าเปลี่ยนวิธีเก็บใหม่ เก็บภาษีจากผู้ใช้รายใหญ่ด้วยจะได้จำนวนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 4-5 เท่า
ชมรมฯ ได้ใช้เวลาหลายเดือน เพื่อแจ้งขอเปลี่ยนวิธีการเก็บภาษีให้ อบจ.ทั้ง 3 จังหวัด และหน่วยงานทุกหน่วยงานทราบปัญหานี้ แต่ไม่มีความคืบหน้า เมื่อ อบจ.นราธิวาส แจ้งความปั๊มทั้ง 3 ปั๊มที่อำเภอรือเสาะ ชมรมฯ จึงไม่มีทางเลือก หากพวกเราไม่แสดงพลัง กฎหมายนี้ก็คงแก้ไขไม่ได้ ชมรมฯ ทราบดีว่าการปิดปั๊มน้ำมันทั้ง 3 จังหวัด ไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดเลย แม้แต่เจ้าของปั๊มเองก็ไม่มีใครอยากปิดปั๊ม แต่การเสียสละของทุกฝ่ายในครั้งนี้ เป็นผลแก่ประเทศไทยแล้ว คือ ขณะนี้ทางราชการได้นำเสนอเพื่อขอแก้ไขวิธีการเก็บภาษีใหม่ไปยังส่วนกลางอย่างเร่งด่วน วิธีการเก็บภาษีแบบใหม่น่าจะประกาศใช้ได้ภายใน 2-6 เดือน เมื่อวิธีการเก็บภาษีใหม่ได้รับการอนุมัติ น้ำมันทุกลิตร ไม่ว่าจะเอาไปใช้ที่ไหน จะต้องเสียภาษีอย่างเท่าเทียมกัน ขณะนี้เป้าหมายของชมรมฯ บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว จึงกราบขออภัยในความเดือดร้อนและขอขอบคุณที่ทุกฝ่ายยอมเสียสละในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (14 ก.ค.) ปั้มน้ำมันต่างๆ ได้กลับมาเปิดให้บริการจำหน่ายแล้วทุกแห่งตามปกติ
