น.ส.สมหญิง ชัยรัตนมโนกร ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าน้ำมัน จังหวัดยะลา เปิดแถลงข่าวว่า ตั้งแต่เดือน ต.ค.2557 ที่ผ่านมา อบจ. 3 จังหวัด จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ได้ออกข้อบัญญัติเกี่ยวกับการค้าน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียม เพื่อเก็บภาษีจากปั๊มน้ำมันทุกแห่ง 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ โดยให้ทางปั๊มบวกราคาหน้าปั๊มอีก 5 สตางค์ เพื่อเป็นค่าภาษีส่งให้กับ อบจ.ทำให้ราคาน้ำมันหน้าปั๊มแพงขึ้นกว่าเดิม ทางชมรมผู้ประกอบการค้าน้ำมันขอคัดค้านภาษีนี้ และเสนอแนะ วิธีการจัดเก็บใหม่ ซึ่งนายก อบจ. แต่ละจังหวัด สามารถใช้อำนาจชะลอการเก็บภาษีนี้ออกไปก่อน จนกว่าจะหาข้อยุติร่วมกัน ทางชมรมผู้ค้าน้ำมันได้ ชี้แจง อบจ. และหน่วยงานในพื้นที่ได้รับทราบมา อย่างต่อเนื่อง แต่ อบจ.ทั้ง 3 จังหวัด ไม่รับฟังและ ยืนยันว่าจะเก็บภาษี โดย อบจ.นราธิวาส ได้แจ้งความ ดำเนินคดีปั๊มน้ำมันที่ อ.รือเสาะ จำนวน 3 ปั๊ม ในข้อหาไม่จดทะเบียนสถานการค้า และไม่ยื่นแบบ รายการภาษี เพื่อหลีกเลี่ยงหรือเจตนาหลีกเลี่ยงการเสียภาษี
น.ส.สมหญิงเปิดเผยอีกว่า ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ชมรมผู้ค้าน้ำมัน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด จึงขอเรียกร้องดังนี้ 1.ขอให้ อบจ.นราธิวาส ถอนการแจ้งความดำเนินคดีกับปั๊มน้ำมันทั้ง 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.รือเสาะ โดยเร็ว 2.ขอให้ชะลอการจัดเก็บ ภาษีน้ำมันออกไปก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขการจัดเก็บภาษีให้เหมาะสม และ 3.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาน้ำมันเถื่อนอย่างยั่งยืน ตลอดจน ศึกษาความอยู่รอดของผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันใน 3 จังหวัด เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้าในกลุ่มอาเซียนต้นปีหน้า และให้หาแนวทางแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่ประเทศมาเลเซีย มีราคาต่ำกว่าประเทศไทย เพราะหลังจากเปิดเสรีทางการค้า อาจทำให้น้ำมันจากมาเลเซียทะลักเข้าไทย ทำให้ปั๊มน้ำมันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจต้องปิดกิจการลง
“ผู้ค้าน้ำมันจะขึ้นป้ายคัดค้านทุกปั๊ม หาก อบจ.นราธิวาส ไม่ถอนแจ้งความดำเนินคดีปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.รือเสาะ และไม่ชะลอการเก็บภาษีออกไปก่อน ทางชมรมผู้ค้าน้ำมันจะปิดปั๊มน้ำมันทั้ง 3 จังหวัด ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ และจะไปยื่นหนังสือเรียกร้องนายกรัฐมนตรีต่อไป” ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าน้ำมันจังหวัดยะลากล่าวในที่สุด
น.ส.สมหญิงเปิดเผยอีกว่า ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ชมรมผู้ค้าน้ำมัน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่มีเจตนาทำผิดกฎหมาย หรือหลีกเลี่ยงภาษีแต่อย่างใด จึงขอเรียกร้องดังนี้ 1.ขอให้ อบจ.นราธิวาส ถอนการแจ้งความดำเนินคดีกับปั๊มน้ำมันทั้ง 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.รือเสาะ โดยเร็ว 2.ขอให้ชะลอการจัดเก็บ ภาษีน้ำมันออกไปก่อนจนกว่าจะมีการแก้ไขการจัดเก็บภาษีให้เหมาะสม และ 3.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาน้ำมันเถื่อนอย่างยั่งยืน ตลอดจน ศึกษาความอยู่รอดของผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันใน 3 จังหวัด เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการค้าในกลุ่มอาเซียนต้นปีหน้า และให้หาแนวทางแก้ปัญหาราคาน้ำมันที่ประเทศมาเลเซีย มีราคาต่ำกว่าประเทศไทย เพราะหลังจากเปิดเสรีทางการค้า อาจทำให้น้ำมันจากมาเลเซียทะลักเข้าไทย ทำให้ปั๊มน้ำมันใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจต้องปิดกิจการลง
“ผู้ค้าน้ำมันจะขึ้นป้ายคัดค้านทุกปั๊ม หาก อบจ.นราธิวาส ไม่ถอนแจ้งความดำเนินคดีปั๊มน้ำมันในพื้นที่ อ.รือเสาะ และไม่ชะลอการเก็บภาษีออกไปก่อน ทางชมรมผู้ค้าน้ำมันจะปิดปั๊มน้ำมันทั้ง 3 จังหวัด ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ และจะไปยื่นหนังสือเรียกร้องนายกรัฐมนตรีต่อไป” ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าน้ำมันจังหวัดยะลากล่าวในที่สุด