นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ค้าภายในจังหวัดติดตามสถานการณ์น้ำดื่ม เพื่อการบริโภคอย่างใกล้ชิด จากผลกระทบของภัยแล้ง และเท่าที่ได้รับรายงานยังไม่พบการขาดแคลนน้ำดื่มบริการบริโภค แต่ได้กำชับให้แต่ละพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกักตุนน้ำดื่มไว้ โดยยืนยันว่าน้ำดื่มบรรจุขวดยังมีอยู่อย่างเพียงพอ หากประชาชนวิตกซื้อเก็บไ ว้อาจทำให้ปริมาณน้ำดื่มบรรจุขวดขาดแคลนได้
ทั้งนี้ กระแสข่าวว่าน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่งขาดตลาดนั้น จากรายงาน และติดตามของเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ยังไม่พบว่ามีการขาดแคลน แต่เป็นไปได้ในบางพื้นที่อาจมีปัญหาการขนส่ง และมีเหตุจำเป็น แต่ยืนยันว่าการหยุดจ่ายน้ำประปาในบางพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีนั้น ไม่กระทบต่อปริมาณน้ำดื่มบรรจุขวดในตลาด และหากพบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าให้แจ้งที่ สายด่วน 1569 ซึ่งผู้กระทำผิด มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานยืนยันว่าน้ำในการอุปโภคและบริโภคจะไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงมาก และได้สั่งการให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำดูแลภาพรวมทั้งประเทศ ไม่ให้เกิดผลกระทบจากภัยแล้ง โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหา คือ พื้นที่ใดขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จะส่งน้ำบาดาลเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งจะมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทำงานด้วยกัน
“กระแสข่าวที่บอกว่า จ.ปทุมธานี ขาดแคลนน้ำประปา เพราะน้ำไม่พอผลิตนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้วิกฤติอย่างที่เป็นข่าว เพราะวันนี้ทราบว่ามีการปล่อยน้ำลงคลองปกติ ทำให้ผลิตน้ำประปาได้ตามปกติแล้ว ซึ่งไม่อยากให้กังวลเกินไป และเชื่อว่าจะไม่เกิดการกักตุนน้ำดื่มอย่างแน่นอน”
รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในลงพื้นที่ติดตามการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง เช่น ราคาพืชผัก และผลไม้ ซึ่งจะต้องเข้าไปดูว่าราคาผัก ผลไม้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปหรือไม่ หรือขายเกินระดับราคาที่เหมาะสม ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นจนผิดปกติ
ทั้งนี้ กระแสข่าวว่าน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่งขาดตลาดนั้น จากรายงาน และติดตามของเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน ยังไม่พบว่ามีการขาดแคลน แต่เป็นไปได้ในบางพื้นที่อาจมีปัญหาการขนส่ง และมีเหตุจำเป็น แต่ยืนยันว่าการหยุดจ่ายน้ำประปาในบางพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานีนั้น ไม่กระทบต่อปริมาณน้ำดื่มบรรจุขวดในตลาด และหากพบการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าให้แจ้งที่ สายด่วน 1569 ซึ่งผู้กระทำผิด มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำ กรมชลประทานยืนยันว่าน้ำในการอุปโภคและบริโภคจะไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงมาก และได้สั่งการให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำดูแลภาพรวมทั้งประเทศ ไม่ให้เกิดผลกระทบจากภัยแล้ง โดยแนวทางในการแก้ไขปัญหา คือ พื้นที่ใดขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค จะส่งน้ำบาดาลเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งจะมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทำงานด้วยกัน
“กระแสข่าวที่บอกว่า จ.ปทุมธานี ขาดแคลนน้ำประปา เพราะน้ำไม่พอผลิตนั้น จริงๆ แล้วไม่ได้วิกฤติอย่างที่เป็นข่าว เพราะวันนี้ทราบว่ามีการปล่อยน้ำลงคลองปกติ ทำให้ผลิตน้ำประปาได้ตามปกติแล้ว ซึ่งไม่อยากให้กังวลเกินไป และเชื่อว่าจะไม่เกิดการกักตุนน้ำดื่มอย่างแน่นอน”
รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในลงพื้นที่ติดตามการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่อาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง เช่น ราคาพืชผัก และผลไม้ ซึ่งจะต้องเข้าไปดูว่าราคาผัก ผลไม้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไปหรือไม่ หรือขายเกินระดับราคาที่เหมาะสม ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่า ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นจนผิดปกติ