xs
xsm
sm
md
lg

ผักแพงไม่ต้องกลัว! “พาณิชย์” สั่งค้าภายในจังหวัดสำรวจ หากพบพื้นที่ใดขาดแคลนเชื่อมโยงแหล่งอื่นไปขาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” สั่งค้าภายในจังหวัดสำรวจการเพาะปลูกปริมาณผลผลิตผักทั่วประเทศ หากพบพื้นที่ใดขาดแคลนและได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเตรียมเชื่อมโยงผลผลิตจากพื้นที่อื่นเข้าไปจำหน่ายทันที ป้องกันราคาดีดตัวสูงขึ้นจนประชาชนเดือดร้อน

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศทำการสำรวจภาวะการเพาะปลูก และปริมาณผลผลิตผักในแต่ละพื้นที่ว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งมากน้อยแค่ไหน และผลผลิตมีเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ หรือไม่ รวมทั้งให้สำรวจด้วยว่าพื้นที่ใดเริ่มมีปัญหาการขาดแคลน หลังจากที่ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งได้ทำให้ผลผลิตเสียหาย ออกสู่ตลาดน้อย และประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ทั้งนี้ หากพบว่าในพื้นที่ใดมีปัญหาก็จะทำการเชื่อมโยงผักจากแหล่งผลิตอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค โดยจะเน้นกระจายเข้าสู่ตลาดกลางผักและผลไม้ที่มีอยู่กว่า 20 แห่งใน 10 จังหวัด เพื่อให้ประชาชนหาซื้อได้ง่ายขึ้น และช่วยดึงราคาไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้น

“ตอนนี้แม้แหล่งเพาะปลูกผักในหลายจังหวัดจะประสบปัญหาภัยแล้งจนผลผลิตได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังมีอีกหลายจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบ เช่น แหล่งเพาะปลูกตามริมแม่น้ำโขง หรือผักบนดอย เช่น กะหล่ำปลี และผักในพื้นที่ราบที่ใช้น้ำน้อยและอายุเพาะปลูกสั้น เช่น คะน้า ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ฟักชนิดต่างๆ ซึ่งกรมฯ จะเชื่อมโยงผักจากแหล่งผลิตเหล่านี้มาสู่ประชาชนให้มากขึ้น”

สำหรับสินค้าอื่นๆ โดยเฉพาะในหมวดเนื้อสัตว์ ยังไม่พบว่ามีราคาปรับตัวสูงขึ้น ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ โดยเฉพาะเนื้อไก่พบว่ามีราคาถูกสุดในรอบหลายปี

อย่างไรก็ตาม กรมฯ คาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะผ่านพ้นไปเร็วๆ นี้ เพราะกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าพายุคูจิระจะเคลื่อนตัวเข้าเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค. หรือสัปดาห์แรกของเดือน ส.ค.เป็นต้นไปจะเข้าสู่หน้าฝน ซึ่งจะทำให้ปัญหาภัยแล้งหมดไป และผลผลิตผักจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาภัยแล้งได้ส่งผลกระทบทำให้ราคาผักสดปรับตัวสูงขึ้น เช่น คะน้า ผักบุ้งจีน ผักกาดหอม แตงกวา ผักกาดขาว กะหล่ำปลี ผักกวางตุ้ง พริกสด มะละกอดิบ ถั่วฝักยาว ต้นหอม ขึ้นฉ่าย และผักชี เป็นต้น โดยบางรายการมีราคาสูงขึ้นกว่า 100% เช่น คะน้า จากกิโลกรัม (กก.) ละ 16 บาท เป็น 38 บาท ผักชี จาก กก.ละ 90 บาท เป็น 180 บาท และมะละกอ จาก กก.ละ 6 บาท เป็น 13 บาท

ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ออกตรวจสอบภาวะราคาสินค้าในตลาด ทั้งในตลาดสด และห้างสรรพสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามภาวะราคา และสอดส่องดูแลให้มีการจำหน่ายสินค้าเป็นไปตามปกติ และป้องกันการฉกฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า


กำลังโหลดความคิดเห็น