ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยวซุกปืนในร่มบังแดด เข้าไปกราดยิงนักท่องเที่ยวบริเวณชายหาดของโรงแรมแห่งหนึ่งของตูนีเซียเมื่อวันศุกร์(26มิ.ย.) เพิ่มเป็น 39 ศพ ในนั้นมีทั้งชาวอังกฤษ เยอรมนีและเบลเยียม ขณะที่สื่อต่างประเทศอ้างผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าฉากต่อฉากวินาทีมือปืนเข่นฆ่าผู้คนไม่เลือกหน้า
เหล่านักท่องเที่ยวผู้ตื่นตระหนกต้องวิ่งหาสิ่งกำบังกันอลหม่าน หลังเสียงกราดยิงและระเบิดดังขึ้นที่โรงแรมอิมพีเรียล มาร์ฮาบา ในซูสส์ เมืองตากอากาศนิยม ห่างจากกรุงตูนิส ไปทางใต้ราว 140 กิโลเมตร ก่อนตำรวจจะยิงคนร้ายเสียชีวิต "มันเคยเป็นที่ที่ปลอดภัยมาตลอด แต่วันนี้มันน่าสยดสยองมาก" นักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์คนหนึ่งบอก "เขาเริ่มต้นที่ชายหาด จากนั้นก็ไปยังล็อบบี้ ลงมือฆ่าอย่างเลือดเย็น"
ราฟิก เชลวี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเผยว่ามือปืนที่อยู่เบื้องหลังโจมตีโรงแรมในเมืองซูสส์วันศุกร์(26มิ.ย.) เป็นนักศึกษาชาวตูนิเซีย ซึ่งไม่เคยอยู่ในบัญชีดำบุคคลที่มีโอกาสเป็นพวกญิฮัดมาก่อน
ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมด 39 คน มีชาวอังกฤษ เยอรมนีและเบลเยียม รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 36 คน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศไอร์แลนด์ บอกว่ามีชาวไอร์แลนด์เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน ด้านนายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ยืนยันมีชาวอังกฤษเสียชีวิตในเหตุกราดยิง 5 คน
ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่พวกญิฮัดอิสลามิสต์เคยโจมตีแหล่งท่องเที่ยงในประเทศแถบแอฟริกาเหนือแห่งนี้มาก่อน โดยพวกเขามองว่าสถานที่เหล่านั้นเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมเพราะเปิดรับวิถีชีวิตชาวตะวันตกและยอมให้มีการดื่มแอลกอฮอล์
เหล่านักท่องเที่ยวผู้ตื่นตระหนกต้องวิ่งหาสิ่งกำบังกันอลหม่าน หลังเสียงกราดยิงและระเบิดดังขึ้นที่โรงแรมอิมพีเรียล มาร์ฮาบา ในซูสส์ เมืองตากอากาศนิยม ห่างจากกรุงตูนิส ไปทางใต้ราว 140 กิโลเมตร ก่อนตำรวจจะยิงคนร้ายเสียชีวิต "มันเคยเป็นที่ที่ปลอดภัยมาตลอด แต่วันนี้มันน่าสยดสยองมาก" นักท่องเที่ยวชาวไอร์แลนด์คนหนึ่งบอก "เขาเริ่มต้นที่ชายหาด จากนั้นก็ไปยังล็อบบี้ ลงมือฆ่าอย่างเลือดเย็น"
ราฟิก เชลวี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยเผยว่ามือปืนที่อยู่เบื้องหลังโจมตีโรงแรมในเมืองซูสส์วันศุกร์(26มิ.ย.) เป็นนักศึกษาชาวตูนิเซีย ซึ่งไม่เคยอยู่ในบัญชีดำบุคคลที่มีโอกาสเป็นพวกญิฮัดมาก่อน
ถ้อยแถลงของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมด 39 คน มีชาวอังกฤษ เยอรมนีและเบลเยียม รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 36 คน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศไอร์แลนด์ บอกว่ามีชาวไอร์แลนด์เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คน ด้านนายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ยืนยันมีชาวอังกฤษเสียชีวิตในเหตุกราดยิง 5 คน
ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่พวกญิฮัดอิสลามิสต์เคยโจมตีแหล่งท่องเที่ยงในประเทศแถบแอฟริกาเหนือแห่งนี้มาก่อน โดยพวกเขามองว่าสถานที่เหล่านั้นเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมเพราะเปิดรับวิถีชีวิตชาวตะวันตกและยอมให้มีการดื่มแอลกอฮอล์