สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน ในวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีนั้น จะเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ในปีนี้องค์การสหประชาชาติได้กำหนดประเด็นหลักในการรณรงค์เรื่อง "7 พันล้านฝัน 7 พันล้านใจ คิดห่วงใยในผืนโลก" ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการผลิต การบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับประเทศไทยนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ดำเนินการรณรงค์ในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ในวันสิ่งแวดล้อมโลกนั้นได้จัดกิจกรรมหลายอย่างด้วยกัน อาทิเช่น โครงการความร่วมมือบัตรเดียวเขียวทั่วไทย เพื่อสะสมคะแนน แลกสิทธิประโยชน์ จากการซื้อสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในห้างสรรพสินค้านำร่อง ทั้งนี้ เพื่อสร้างจิตสำนึก ปลุกกระแสเลือกซื้อ เลือกใช้สินค้าสีเขียว ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน อีกทั้งเป็นการกระตุ้นให้เยาวชน ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และให้ผู้ประกอบการได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรื่องต่อไปคือการรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายยาก โดยศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ ได้งดการให้บริการถุงพลาสติกในทุกวันที่ 15 ของเดือน จริงๆ แล้วอยากให้ทุกคนปรับตัวนะครับ หยิบถุงผ้ามาใช้เวลาออกมาจับจ่าย หรือตะกร้าก็ได้ เชื่อว่าเกือบทุกครัวเรือนต้องมีถุงผ้า หรือตะกร้า เพราะจะมีการรณรงค์ให้ใช้มาโดยตลอด วันนี้ก็เห็นมีแจกมีจำหน่ายทั่วไป จนกลายเป็นแฟชั่นรับมา ซื้อมาแล้วอย่าลืมนำไปใช้นะครับ มีแล้ว อะไรก็ตามถ้ามีแล้วถ้าไม่ใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ซื้อไปสิ้นเปลืองเปล่าๆ การผลิตวัตถุดิบต่างๆ เสียเปล่าอีก เพราะฉะนั้นต้องใช้ให้ถูกวิธี
บางครั้งการไปซื้อของต้องแยกประเภทให้ชัดนะครับ ผมมีความกังวล ถ้าจะยกเลิกถุงพลาสติกท่านก็ต้องแก้ปัญหาการใช้ถุงพลาสติกในกรณีที่เขาซื้อเครื่องดื่ม ขายเครื่องดื่มใส่น้ำแข็งอะไรเหล่านี้ อันนั้นก็ถุงพลาสติกอยู่แล้วนะครับ ถ้าเขาไม่ใส่ถุงพลาสติกจะให้ใส่อะไร เขาจะขายได้หรือไม่ คนซื้อจะเตรียมาหรือเปล่า อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันด้วยนะครับ ผมคิดว่ามันมีถุงพลาสติกอีกแบบหนึ่งที่ย่อยสลายได้ มีการผลิตออกมาแล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าราคามันยังสูงอยู่หรือเปล่า อยากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปติดตามในเรื่องนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์เคยนำเสนอผมดูถุงพลาสติกที่ย่อยสลายง่ายนะครับ และก็จากนั้นก็ใช้ถุงผ้า หรือตะกร้าจักสานอะไรก็ได้ ก็จะทำให้โลกไม่ร้อนกว่านี้ และถ้าไทยยังใช้ถุงพลาสติกอยู่ มันอยู่เป็น 100 ปี นะครับ มันไม่สลายได้ในธรรมชาติ เผาก็เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์นะครับ
ส่วนของกิจกรรมการปลุกจิตสำนึก รักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนของชาติ เช่น ตาวิเศษ การจัดการขยะยั่งยืน การประกวดโรงเรียนปลอดขยะ เป็นต้นนะครับ ทั้งนี้ ผมอยากให้ทำอย่างต่อเนื่องนะครับ ไม่อยากให้ทำแบบไฟไหม้ฟาง ทำเป็นวันๆ ไป และหายเงียบ ต้องทำจนเป็นนิสัยให้ได้นะครับ เพราะวันนี้ บ่นกันว่าอากาศร้อนเหลือเกิน ฝนตกผิดฤดูบ้าง ฝนไม่ตกบ้าง ท่อตัน น้ำท่วม น้ำแล้ง ขยะเยอะไปหมด ก็เป็นผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายทั้งสิ้น โลกใบนี้มีคนกว่า 7 พันล้านคน เมื่อสักครู่ที่เขาบอก 7 พันล้านฝัน ทั้งโลกมีคนอยู่ 7 พันล้านคน ถ้าใช้ถุงพลาสติกกันหมด ทุกวันๆ โลกเราก็จะไม่ปลอดภัย อากาศก็จะเปลี่ยนแปลง ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน อย่าลืมถุงที่ใส่เครื่องดื่ม ชา กาแฟ หรือถุงพลาสติกที่ใส่อาหาร แบบที่คนใช้แรงงาน หรือผู้มีรายได้น้อยเขาซื้อกับข้าวถุงพลาสติกไปจะทำอย่างไร จะใช้วัสดุอะไรต่างๆมาแทน อุปกรณ์อะไรแทน คิดให้เขาด้วย คนขาย คนซื้อต้องร่วมมือกันด้วย
อีกเรื่องคือเรื่องของการแยกขยะ วันนี้เรามีปัญหาขยะมูลฝอยมากมาย ทั้งของเดิมที่สะสมไว้และของใหม่ที่มีทุกวัน สะสม ไปเรื่อยๆ มันต้องเริ่มต้นจากการแยกขยะให้ได้เสียก่อนในชุมชน ในบ้านก็ตาม ทั้งในเรื่องของการทิ้งขยะแยกขยะ จากนั้นก็นำไปสู่การนำมาใช้เป็นพลังงาน เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ฉะนั้นก็อย่าขัดแย้งกันนักเลย ถ้าเราไม่มีกระบวนการ ขยะไม่มีวันหมดสิ้นไปจากประเทศไทยได้ แล้ววันหน้ามันก็สร้างปัญหาเยอะแยะ ทั้งเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ รกรุงรัง เป็นพิษเป็นภัยต่อระบบการหายใจ ขอให้ทุกคนเข้าใจกันด้วยนะ
โรงไฟฟ้าจากขยะมูลฝอยเป็นสิ่งสำคัญนะครับ อย่าขัดแย้งกันอีกเลย ถ้าเราแก้ต้นเหตุได้แล้ว ต้นเหตุก็คือขยะที่บ้าน แล้วก็การขนย้ายขยะไป บางแหล่งก็น้อยก็ทำที่ต้นทางเลย ถ้ามันเยอะ ... มันยิ่งเยอะอยู่แล้ว เพราะมันจะกองไว้ที่บริเวณที่ทิ้งขยะปัจจุบัน แต่ไม่มีระบบการขจัดขยะที่มีประสิทธิภาพ ก็ต้องแก้ด้วยการเอาขยะหลายร้อยตัน ในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี มาใช้ประโยชน์ ก็ต้องไปทำเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่เกิดจากขยะ ก็จะช่วยลดเรื่องการผลิตด้วยแก๊ส ด้วยน้ำมัน ไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องแก้ทั้งต้นเหตุ กลางเหตุ และปลายเหตุด้วย ตรงกลางที่สำคัญก็คือการให้ความรู้กับประชาชนก่อน สร้างความเข้าใจ ร่วมมือกันในการบริหารจัดการขยะ และไปเรื่องของปลายทาง สนับสนุนการขจัดขยะที่รัฐบาลกำลังเริ่มดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นโรงกำจัดขยะที่ทุกคนเป็นห่วงว่าจะไม่ดี ไม่ปลอดภัย อยากให้บริเวณที่กำหนดไว้เป็นจุดตั้งโรงงานขยะที่จะก่อให้พลังงาน ไปช่วยกันดูที่อยุธยานะครับ วันนี้ทำไปหลายเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เห็นประชานก็มีความสุขดีอยู่ พื้นที่ก็สะอาดสวยงาม วันหน้าจะเป็นสวนสาธารณะ ปลูกต้นไม้ได้อะไรได้ เป็นที่พักผ่อนได้ ขยะก็บริหารไปในโรงขยะ ก็ผลิตพลังงานออกมาได้ มันได้ตั้งหลายอย่างครับ อย่าขัดแย้งกันเลย ต้องเสียสละกันบ้าง เราคงต้องดูแลประชาชนที่อยู่ใกล้ๆ รอบๆ โรงงานขยะอย่าให้มีปัญหาอีก อันนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าอยากจะสั่งอะไรก็สั่ง ต้องนึกถึงคน ประชาชนอยู่ก่อนด้วยนะครับ แต่ประชาชนต้องนึกถึงรัฐ ถึงประเทศชาติด้วยว่า เราจะต้องทำกันอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องขยะ
รัฐบาลปัจจุบันนั้นได้ประกาศให้ขยะมูลฝอยนั้นเป็นวาระแห่งชาติ ให้ความสำคัญมากที่สุด วันนี้ก็มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำโรดแมปการจัดการขยะมูลฝอยของเสียอันตรายนะครับ และขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมดำเนินการอย่างบูรณาการ ในเรื่องนี้ผมได้จัดระเบียบใหม่นิดหนึ่งนะครับ คือว่าให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก เพราะว่าเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด และเป็นผู้ที่ดูแลพื้นที่ทุกพื้นที่
เพราะฉะนั้นก็เป็นการทำงานร่วมกัน ในเรื่องที่จะต้องทำงานอย่างบูรณาการ เช่น การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ลด ละ เลิกการใช้โฟมบรรจุอาหารภายใน 3 ปี 2558-2560 โดยหันมาใช้ทางเลือกที่เหลือจากกระบวนการอุตสาหกรรม ได้แก่ ชานอ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม ผักตบชวา ฟางข้าง อันนี้เป็นประโยชน์มากเลยกับผักตบชวาที่รกรุงรังเต็มคลอง ถ้าเอามาใช้ประโยชน์ได้ก็จะดีนะ เป็นวัสดุที่หาง่ายนะครับ น่าจะทำให้มันถูกลงนะในการทำบรรจุภัณฑ์ปลอดสารพิษ สิ่งเหล่านี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูซิว่า จะลดราคาการผลิตอย่างไร ต้นทุนการผลิตอย่างไร จะได้ขายในราคาที่ถูก ถูกกว่าที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม อะไรที่ดีแต่แพงกว่าก็ลำบากนะ ทำอะไรต้องนึกถึงประชาชนด้วยคือผู้บริโภคนะครับ ไม่งั้นมันเป็นไปไม่ได้ซักอย่าง
เรื่องต่อไปคือ การจัดตั้งศูนย์การวิจัยขยะมูลฝอยรวม และส่งเสริมการตั้งโรงผลิตไฟฟ้าจากการแปรรูปขยะมูลฝอย และเรื่องต่อไปคือเรื่องการผลักดัน พ.ร.บ.การจัดการสร้างผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และสร้างผลิตภัณฑ์อื่นๆ อันนี้ มุ่งหวังให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วย ทั้งนั้น จะทำให้เป็นการกระตุ้นผู้ผลิตปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการลดใช้สารอันตราย และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ง่ายต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ จะเป็นการผลิตอย่างยั่งยืน และจะเกิดธุรกิจต่อเนื่องด้วย ถ้าบริษัทใหญ่ๆ ผลิตมาแล้วขาย มันก็น่าจะมีบริษัทกำจัดซาก หรือส่วนในการกำจัดซากของแต่ละบริษัทเองในการลงทุนดังกล่าวเหล่านั้น ทั้งนี้เพื่อจะรับซื้อของที่หมดยุคไปแล้ว เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เช่น วงจรอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์เก่าๆ ที่ไม่ใช้งานแล้ว พวกนี้เอาไปฝังดินมันก็ยังไม่ย่อยสลาย ฉะนั้นมันต้องมีการกำจัดขยะเหล่านั้น หรือจะนำมารีไซเคิลใช้ใหม่อย่างที่ต่างประเทศเขาทำ รัฐบาลนี้ให้ความสนใจ และสั่งการไปแล้ว เป็นนโยบายไปแล้ว
ในเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์นั้น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนนี้ เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์แห่งชาติ ที่รัฐบาลกำหนดขึ้นให้หน่วยงาน องค์กร และทุกภาคส่วนของสังคมไทย ได้รับรู้ถึงปัญหา ได้มีส่วนร่วม ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม อันนี้คือเราในฐานะที่อยู่กลางทาง ถ้าเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับขบวนการเหล่านี้ ไม่มีคนไปร่วมมือ มันก็ทำไม่ได้หรอก เรื่องของต้นทางก็อีกเรื่อง ก็แก้ปัญหาที่ต้นทางด้วย ปลายทางประเทศที่ 3 ก็ต้องไปดูว่า จะร่วมมือกันได้อย่างไร
วันนี้ก็มีความก้าวหน้า อย่างเป็นรูปธรรม อย่างน้อยก็มีแผนการปฏิบัติในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง ระยะยาว คือต้องพัฒนาต้นทางให้ได้ ไม่ให้มีการอพยพลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญของปัญหาการค้ามนุษย์ ชีวิตใครก็เป็นชีวิตหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ศาสนาใด เขาก็เป็นมนุษย์ ฉะนั้นสิทธิความเป็นมนุษย์มีทุกคน ทุกประเทศ ทุกศาสนา ต้องดูแลกัน รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหานี้อย่างยิ่ง ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเช้านี้ผมได้เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำปี 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มีโอกาสกล่าวเน้นย้ำนโยบาย ของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง โดยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ปรับปรุงกฎหมาย ข้อบังคับที่จำเป็น และเพิ่มความเข้มงวดในการระวังการตรวจสอบ นำผู้กระทำผิดมาลงโทษ ช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อการค้ามนุษย์ รวมทั้งจัดการปัญหาอื่นที่เชื่อมโยงอย่างต่อเนื่องให้เบ็ดเสร็จ
ปัญหาการค้ามนุษย์นั้นมีผลกระทบกับทุกมิติของสังคมและโลกด้วย เป็นปัญหาที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานเอกชน องค์กร มูลนิธิต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไปด้วย
รัฐบาลต้องการที่จะสร้างการรับรู้ ให้ประชาชนเข้าใจว่าปัญหานี้จะมีผลกระทบต่อสังคมอย่างไร หลายท่านอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยวข้อง แต่มันก็ไม่ได้ เพราะถ้าหากมีการค้ามนุษย์แล้วมันทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม และเกิดปัญหาในเรื่องของอาชญากรรมต่างๆ มากมาย เพราะว่าการค้ามนุษย์ ผมอยากทำความเข้าใจว่า มันคงไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของโรฮีนจา หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ เรื่องนี้มันแยกออกมาจากในเรื่องของการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำหรับพวกนั้นก็มีอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว นั่นก็จะลักลอบเข้ามาทำงานบ้างอะไรบ้าง แต่เมื่อไรก็ตามที่มีกระบวนการนำพา นั่นล่ะเรียกว่าค้ามนุษย์ แม้กระทั่งขอทาน ถ้าหากว่ามีการรวมกลุ่มกัน แล้วไปหาที่รับบริจาค แล้วก็ไปรวมกัน แบ่งเงินกันอะไรกัน มันก็ค้ามนุษยืเหมือนกัน หรือผู้หญิง เด็ก ที่เอามาแล้วไปทำงาน หลอกเขามา แล้วไปทำงานโดยผิดกฎหมาย ทุกอย่าง มันเข้าหลักเกณฑ์การค้ามนุษย์ทั้งสิ้น ถ้ามีคนกลางแล้วทำผิดกฎหมาย มาเป็นขบวนการ แต่ถ้าลักลอบผ่านแดนก็แรงงานผิดกฎหมาย ลักลอบข้ามแดน ก็ต้องทำความเข้าใจกัน
คือทั้งสองประเภทมันก็มีปัญหากับบ้านเราทั้งสิ้น แรงงานต่างๆ ที่เข้ามาทำงานวันนี้ก็จดทะเบียนไปแล้ว ก็ต้องดูพวกนี้อีกว่าขบวนการนำพาแรงงานเหล่านั้นมีการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่ เป็นบริษัทที่ถูกต้องหรือไม่ จะได้เป็นหลักประกันของแรงงานต่างๆ เหล่านั้น จะได้เข้าระบบให้ได้ ถ้าไปถูกหลอกมาอะไรมา แล้ววันหน้าเขาก็ทิ้งไปอีก เพราะฉะนั้นจะเอามาทำงานต้องตรวจสอบบริษัท หรือใครก็แล้วแต่ที่ชวนมาทำงานด้วยว่าเขามีหลักฐานทางราชการอะไรหรือไม่ที่ถูกต้อง
ในเรื่องของการให้ทานอะไรเหล่านี้ ผมถือว่าคนไทยเป็นผู้มีเมตตานะครับ เห็นใครลำบากยากเข็น ใครยากจน ใครพิการก็อยากจะให้สตางค์ อันนี้เราเลยเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ชินตา รวมไปถึงสถานบริการต่างๆ ก็จะมีคนเหล่านี้อยู่ทั้งสิ้น ขอให้ทุกคนช่วยกัน มันจะเป็นปัญหาของสังคมต่อไป ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้าเห็นอะไรผิดปกติ ที่มันน่าจะไม่ถูกต้อง ขอให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบตามช่องทางที่มีอยู่แล้ว เช่น ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้นมีโครงการรวมใจไทย ต้านการค้ามนุษย์ โดยมีเรื่องที่จะสื่อมาว่า ในรูปแบบของภาพยนตร์โฆษณาด้วย ให้เห็นถึงความจริงของอุบาย ไม่ว่าจะเป็นงานสบาย งานง่าย ผลตอบแทนสูงเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นอุบายทั้งสิ้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้สิ่งตอบแทนที่มากจนเกินไป ขบวนการค้ามนุษย์จะใช้สิ่งนี้ล่อลวง หลอกล่อเหยื่อนะครับ รวมความไปถึงอย่างเช่นโรฮีนจาก็ถูกหลอกเหมือนกันว่า มานี่เดี๋ยวจะมีงานทำ เดินทางมา ทั้งๆ ที่มันก็ลำบากอันตราย มีโอกาสเสียชีวิตได้ 50% เพราะมาทางทะเล แต่ถูกพวกนี้้ไปเอาเขามาแล้วไปหางานให้ทำ อย่างนี้ไม่ได้ แต่ถ้ามาด้วยอิสระ ด้วยตัวเอง ด้วยไม่มีใครนำพามานั่นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ อันนั้นต้องเป็นการลักลอบเข้าเมือง
เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนนั้นได้ใช้วิจารณญาณให้เหมาะสม เราควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร มีส่วนร่วมในเรื่องนี้อย่างไร อย่าให้เขามีการล่อลวง หลอกล่อ เข้ามาสู่ในวงจรธุรกิจการค้ามนุษย์อีกต่อไปนะครับ ถ้าหากว่าเหยื่อตกเข้ามาในวงการแล้วจะถูกล่วงละเมิด ผู้หญิงก็ลำบากนะครับ ถูกกดขี่ข่มเหงเหยื่อด้วยความรุนแรง มีการเรียกค่าไถ่อีก มันเกิดมาเป็นประจำยาวนานแล้ว พยายามแก้มาตลอด แต่มันแก้ไม่ได้ วันนี้ถือว่าเอาวิกฤตเป็นโอกาสแล้วกัน จะได้ไม่มีการทำร้ายร่างกาย จิตใจกันอีกต่อไปนะครับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะทำภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าว ทุกคนก็ติดตามนะครับ จะได้เห็นความจริง และตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา ความรุนแรงที่จะเกิดจากการค้ามนุษย์ ในภาพยนตร์ต่อไปนี้จะมีการเปิดโปงความไร้มนุษยธรรมของขบวนการเหล่านี้นะครับ ซึ่งมักจะกระทำกับเหยื่อ เพื่อจะเป็นแบบอย่างตัวอย่างให้เข้าใจ และเกิดการระวังป้องกัน เฝ้าระวัง อย่าไปร่วมในขบวนการ สร้างความตระหนักรู้ในปัญหาการค้ามนุษย์ต่อสังคม วันนี้ที่มันมาได้ เพราะปัญหาความยากจนเหลื่อมล้ำด้วย เป็นปัญหาหลัก ถ้าไม่จน คงไม่มาถูกหลอกแบบนี้ เพราะงั้นเราต้องทำให้คนเข้มแข็ง ให้มีรายได้เพียงพอ
นอกจากนั้น โครงการนั้นได้เปิดช่องทางการรับบริจาค ผมบอกแล้ว อยากบริจาคเงิน เพราะฉะนั้นจะมีโครงการรับบริจาค เพื่อนำเงินมากระจายสู่มูลนิธิต่างๆ ที่ช่วยเหลือเรื่องการค้ามนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ดำเนินการรับบริจาคตั้งแต่วันนี้ ไปถึงวันที่ 5 กันยายน 2558 วิธีการรับบริจาคนั้น โครงการจะมีการจัดทำเสื้อยืด และโปสการ์ดที่มีบาร์โค้ดแจก และจำหน่าย และผู้ที่ได้รับสามารถนำบาร์โค้ดดังกล่าวมาสแกน และบริจาคได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสะพานขาว ชื่อบัญชี รวมใจไทยต้านการค้ามนุษย์ โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เลขที่บัญชี 0210176504 นะครับ สำหรับผู้บริจาครายบุคคล หรือบริษัทใหญ่ๆที่มีความประสงค์สนับสนุนโครงการพัฒนาสังคม ร่วมกับรัฐบาล สามารถเก็บสลิปหรือหลักฐานการโอนเงินไว้ใช้ในการลดหย่อนภาษีได้นะครับ ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับกรมสรรพากรกำลังพิจารณาวิธีการสนับสนุนการลดหย่อนภาษีแก่ผู้ร่วมบริจาค เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ได้หรือไม่ กำลังทำอยู่นะครับ โดยทางหน่วยงานจะประชาสัมพันธ์ให้ท่านทราบต่อไปภายหลัง แต่ที่แน่ๆ ผู้บริจาคเป็นพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า บริษัทห้างร้าน ได้รับกุศลผลบุญนะครับ ทำทานให้กับคนมีชีวิตอยู่ถือเป็นบุญเช่นกัน จากการร่วมบริจาคในโครงการนี้ด้วยขอขอบคุณหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ รวมถึงเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่จะร่วมบริจาคโครงการต่อต้านค้ามนุษย์ครั้งนี้ด้วยนะครับ
เรื่องเศรษฐกิจวันนี้ มีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ถ้าการท่องเที่ยวนี่ฟื้นชัดเจนนะครับ มีจำนวนมากได้รับการรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า นักท่องที่ยวเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มกว่าเดิมร้อยละ 30 ก็อย่าไปเชื่อที่พูดว่าเศรษฐกิจตกต่ำ การท่องเที่ยวก็คนเที่ยวน้อยลง เพราะตัวเลขมาอย่างนี้ เช็คที่สนามบิน การเดินทางต่างๆ ทั้งหมดนะครับ ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 จากโรงแรม จากที่พัก การบริการร้านอาหาร นี่เป็นสิ่งที่เป็นสัญญาณว่าบ้านเมืองเราได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยในความมีศักยภาพของรัฐบาล และในการที่บ้านเมืองมีความสงบสุขในขณะนี้ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการไปสู่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ก็ตาม แต่คนก็เชื่อมั่น ก็เว้นแต่บางคนยังพูดจาให้เสียหายอยู่ ก็ระมัดระวังด้วย รัฐบาลยังห่วงใยเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของพี่น้องเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย คงไม่ใช่ที่ผมใช้คำว่าเกษตรกรและรายได้น้อย เพราะการประกอบอาชีพมีหลายอย่างด้วยกัน อาชีพอิสระก็มีค้าขาย ขายของ ขายก๋วยเตี๋ยว มอเตอร์ไซค์รับจ้าง นี่ก็รายได้น้อยเหมือนกัน
ในภาวะเช่นนี้รัฐบาลก็พยายามทุกอย่าง ไมได้นิ่งนอนใจ แต่ขอให้เข้าใจว่า จะต้องปล่อยให้ทำผิดกฎหมายต่อไปให้ขายในที่ไหนก็ได้ มันเป็นไปไม่ได้ กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย จะดูแลคนเหล่านี้อย่างไร หาสถานที่ขาย หรือไปหาให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนอาชีพ ถ้ามีร้านอะไรอยู่แล้ว ก็ขยายไปสู่เอสเอ็มอีได้ไหม ต้องพัฒนาตนเองด้วย ใช้แนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ บางคนบอกว่าเราไม่ใช้ ใช้ทุกอย่าง เวลาสั่งงานอะไรไปแล้ว ผมย้ำทุกอย่าง ว่าเอาหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาทั้งสิ้น มีเหตุมีผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันที่ดี จะทำอะไรต่อไปก็คิดทบทวนให้ดี มีความรู้ มีคุณธรรม แล้วพร้อมหรือยัง พร้อมก็ทำต่อ ถ้าไม่พร้อมก็อย่าเพิ่ง ก็ทำให้พอเพียงไปก่อน โดยใช้เงินอย่างพอประมาณ มีเหตุมีผล ลูกหลานต้องเข้าใจคุณพ่อคุณแม่ด้วย บางทีพ่อแม่เราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนอื่นเขา แต่เราอยากได้ของเหมือนเพื่อน ผมคิดว่าสำคัญที่สุดคือสิ่งแวดล้อม สภาวการณ์โลก โลกมันก้าวหน้าเร็ว ฉะนั้นเรื่องเทคโนโลยีและความทันสมัยมันก็เข้ามาเร็ว บ้านเราคนมีรายได้น้อยยังเยอะอยู่ สิ่งของเหล่านี้ ผู้ขายก็อยากจะขายเยอะๆ มีมาตรการเยอะแยะ ลดราคา ผ่อนส่งได้ นี่คือปัญหาหนี้ครัวเรือน
อีกเรื่องคือการจัดหาที่ดินทำกิน ก็ขอกันก่อน ว่าจัดที่ดินทำกินให้ได้ก่อน วันนี้ยังไม่ครบเลย ก็จะเร่งดำเนินการให้ได้ในปีนี้ปีหน้า ที่เหลือก็ต้องเตรียมการของตัวเองว่าจะให้ลูกหลานทำอะไร เรียนหนังสือจบแล้วจะทำอะไร ต้องเตรียมตัวเองเผื่อเข้าไปทำงานในการเปิดเออีซี สิ้นปีนี้ก็จะเริ่มปีแห่งเออีซี ก็คือ 2560 เต็มๆ ตั้งแต่ต้นปีไป มันจะมีงานแลกเปลี่ยนสัญจรไปมาหางานระหว่างประเทศได้ เพราะฉะนั้นท่านต้องเตรียมคนไว้ด้วย เราจะให้พี่น้องทำการเกษตรมากขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ขนาดที่ดินเรามีเท่านี้ น้ำเรามีเท่านี้มันไม่ได้แล้ว ต้องหาอาชีพอื่นที่มีรายได้รายวัน รายเดือนมาเลี้ยงพ่อแม่ และพ่อแม่อยู่ทำเกษตรกรรมสมัยใหม่ไปได้ มีใช้เครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักร วันนี้เราคิดแบบนี้อยู่นะครับ เพราะฉะนั้นมันต้องเริ่มจากแผนการจัดการที่เกษตรกรรมให้เหมาะสมกับน้ำ แหล่งน้ำ แหล่งน้ำทำมากมันก็โอเคแหละ มันต้องใช้งบประมาณสูง แต่ถ้าทำแล้วไม่มีน้ำลงมา ฝนไม่ตก ทำไปก็ไร้ประโยชน์นะครับ วันนี้หลายแห่ง ได้ทำไปแล้ว แต่เท่าที่แล้วปีนี้ฝนจะน้อย น้ำก็จะน้อย ผมก็บอกว่า ทุกคนช่วยกันสร้างที่กักเก็บกักน้ำมา สื่อบางสื่อก็บอกว่า มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไม่ใช่หรือ ถ้าสื่อยังชี้แจงกันอยู่แบบนี้ ผมว่าไม่ใช่ สอนให้คนพึ่งพาตัวเองด้วย พร้อมกับสนับสนุนรัฐในการทำโครงการขนาดใหญ่ขึ้น และช่วยกันฟังนโยบายเรื่องอื่น
การเตรียมพื้นที่เหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะว่าตรงไหนปลูกอะไร มันต้องกำหนดว่า ท่านจะปลูกข้าว ตรงไหนจะต้องปลูกข้าวคุณภาพดี ตรงไหนปลูกข้าวคุณภาพรองลงมา ตรงไหนจะปลูกข้าวสุขภาพ ตรงไหนจะปลูกเพื่อเป็นการขยายเมล็ดพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวผลิตออกมา มันจะได้ครบทั้งระบบด้วย ในเรื่องของเมล็ดพันธุ์ และไปสู่ในเรื่องของการปลูกคงต้องทำแบบองค์รวม วันนี้ก็ได้ให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย ไปจัดทำองค์รวมตั้งแต่ต้นทาง คือการลดต้นทุนการผลิต การรวมกลุ่มการผลิต การจัดหาพื้นที่ทำกิน การจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมราคาถูก ปุ๋ยด้วยนะครับ ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น ผลิตเอง ทำเอง สหกรณ์ช่วยกันทำ และราคาถูกกว่าที่ไปซื้อข้างนอก
ในส่วนของปุ๋ยเคมี วันนี้เราขอให้ช่วยลดลง และให้ราคาถูกลงจากบริษัทที่ประกอบการ บางพื้นที่อาจจะมีเคยเป็นอยู่บ้าง แต่วันหน้าต้องลดให้หมด กลางทางในเรื่องของการพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ผมคิดว่าเราเคยขายข้าวเป็นกระสอบๆ มา วันหน้าต้องขายเป็นอีกอย่างหนึ่ง ทำอย่างไรให้คุณค่าสูงขึ้น ข้าวกระสอบหนึ่งทำอะไรได้บ้าง ไปทำอาหารสุขภาพได้ไหม ไปทำขนมปังข้าวได้ไหม หรือไปทำเครื่องสำอาง ตั้งหลายอย่างที่เขามานำเสนอให้ผมดูในการจัดงานทุกครั้ง แต่มันนำไปสู่การผลิตและการจำหน่ายได้สักเท่าไร ผมไม่แน่ใจนะ ถ้างั้นช่วยไปดู มีไม่กี่บริษัทหรอกที่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเราทำมากจนเกินไปมันก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันต้องควบคุมปริมาณให้ได้ สำคัญที่สุดเลย ความต้องการทั้งในประเทศ ต่างประเทศ มันจะได้นำย้อนกลับมาสู่ภาคการผลิต และการผลิตก็ต้องไปดูว่าผลิตที่ไหน อย่างไร ต้นทุนควรต่ำสุดเท่าไหร่ ถ้าเรามุ่งดูเฉพาะราคาปลายทาง ยังไงก็คุมไม่ได้ เพราะการแข่งขันมันมากขึ้น แล้วก็เออีซีด้วย การตกลงการค้าต่างๆ ข้อตกลงเยอะแยะไปหมด ทุกประเทศเขาใช้ข้อตกลงทางการค้าทั้งสิ้น เรากำหนดเองอะไรไม่ได้เลย ถ้าเราเรียกร้องราคาสูงๆ แล้วต้นทุนการผลิตก็ยังสูงอยู่ มันไม่มีทางที่ประชาชนจะอยู่ได้ เกษตรกรอยู่ไม่ได้หรอกครับ เพราะฉะนั้นจะต้องเร่งทำตรงนี้ให้ได้ ทุกคนต้องร่วมมือกัน เรื่องการลดต้นทุนการผลิต ตั้งแต่เรื่องเมล็ดพันธุ์ เรื่องเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืช ที่ไม่ทำให้เกิดมลพิษ ไม่อันตรายต่อผู้ใช้ และการหาตลาดที่แตกต่างในการจำหน่ายสินค้าเหล่านั้น
อีกอันคือโครงการที่รัฐบาลตัดสินอยู่ ก็คือโครงการเพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในการที่จะสร้างโอกาส สร้างความสุขให้หมู่บ้านและชุมชนเมือง เราก็จะให้ไปขับเคลื่อนดำเนินการตามนโยบาย เพื่อจะสร้างโอกาส สร้างความสุขให้หมู่บ้านและชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ อันนี้อยากให้ไปสร้างความเข้มแข็งนะ ไม่ใช่ไปใช้ในการที่จะไปซื้อข้าวของที่ไม่เกิดประโยชน์ ทำอะไรก็ให้มันถาวร บางพื้นที่เขาทำได้ดี แม้กระทั่งเงินที่ให้ไปแต่ละตำบล 3 พันกว่าตำบล เขาก็ดีขึ้น เพราะว่าอะไร เขาไปรวมกลุ่มกันแล้วก็คิดว่าจะทำอะไรดี ไม่ใช่ใช้แล้วหายไปเลย ต้องสอนให้เกษตรกร ให้ประชาชนเรียนรู้ ท่านต้องมีส่วน ท่านต้องช่วยตัวเองด้วย อันที่หนึ่ง โดยที่ไม่ต้องใช้เงินมาก เงินน้อย ร่วมมือร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมคิด ร่วมทำ ตามนโยบาย อันที่ 2 ก็คือร่วมในการที่จะทำให้ภาคส่วนเกษตรกรทุกอย่างมันเข้มแข็งขึ้น ในลักษณะเป็นสหกรณ์ ถ้าไม่สหกรณ์ ผมก็มีแนวคิดว่าเมื่อสหกรณ์ไปรับซื้อของมา อะไรต่างๆ มันก็ต้องสร้างตัวเองขึ้นมาให้เป็นเหมือนกับเป็นโซเชียลบิซเนสด้วย คือขายต่อ เอามาขายต่อ ไปสู่วงจรของเอสเอ็มอี ไปสู่เศรษฐกิจพิเศษ ไปสู่การค้าขายชายแดนด้วย
วันนี้เรื่องกองทุนนั้น ก็มีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 17,146 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 21.63 ของกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ อันนี้ก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการจะเพิ่มคุณภาพชีวิตให้หมู่บ้านชุมชน ประชาชนมาโดยตลอด อาทิเช่น เป็นเงินทุนหมุนเวียนประชาชน เพื่อประชาชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชน ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ เสริมรายได้ ไม่ไปใช้หมดไปปล่าวๆ มันต้องเงินต่อเงินนะ อย่างน้อยไม่ทำความเดือดร้อนให้คนทำอาชีพในหมู่บ้าน ก็จัดระเบียบ จัดสัดส่วนให้มันดีชัดเจน ไม่ใช่ใช้สิ้นเปลืองทั้งหมด และจะทำให้เป็นศูนย์กลางอำนวยความสะดวกได้ ก็ออมเงิน เอาเงินไว้ใช้ยามแก่เฒ่า ยามเจ็บป่วย วันนี้ เงินประกันสังคม การจัดสวัสดิภาพชุมชน ความสะอาด ความแหล่งน้ำใช้ในหมู่บ้าน ต้องหาเงินเหล่านี้มาช่วยทำ ปีนี้ไม่เท่าไหร่ ปีหน้าก็ทำต่อ ทำไปเรื่อยๆ ปัจจุบัน กองทุนหมู่บ้านภาคเหนือมีสมาชิกร่วมกันเกือบ 3 ล้านคน มีเงินทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 41,519 ล้านบาท มีเงินออมไม่น้อยกว่า 5,638 ล้านบาท มีเงินสมทบเข้ากองทุนไม่น้อยกว่า 1,398 ล้านบาท และมีดอกผลจากกองทุนเพื่อจัดสวัสดิการไม่น้อยกว่า 323 ล้านบาท
ส่วนภาคอื่น รัฐกำลังเข้าไปตรวจสอบนะครับ และเร่งดำเนินการให้มีความก้าวหน้าเหมือนภาคเหนือ ผมอยากให้ประเทศไทย มีกิจการที่ผมกล่าวเป็นการที่เรียกว่า แบบธุรกิจเพื่อสังคม ที่ผมเรียกว่า โซเชียล บิสซิเนส มีหลายประเทศแล้วนะครับ ท่านศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส Professor Muhammad Yunus เจ้าของรางวัลโนเบล ได้กล่าวไว้ว่า การทำธุรกิจที่มีกำไรแต่พอดี และลงทุนเพื่อสังคมนั้น จะเป็นการทำธุรกิจที่สอดรับกับการช่วยสังคมน่าอยู่ เช่น โครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริของ สมเด็จย่า นะครับ และก็โครงการหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นะครับ ให้ประชาชนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เพราะพระองค์ท่านเล็งเห็นว่า งบประมาณจากรัฐบาลอย่างเดียวนั้น ไม่เป็นการยุติธรรมกับประชาชนชาวไทยที่ไม่ได้อยู่ตามดอย ตามพื้นที่เหล่านั้น ทุกคนรัฐต้องดูแลทั้งหมดนะครับ ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกร ไม่ใช่คนบนดอยอย่างเดียว ท่านทรงคิดแบบนั้นนะครับ เพราะงั้น ท่านต้องสร้างความเข้มแข็ง พระราชทานเงินส่วนพระองค์เบื้องต้นให้ วันนี้ ก็มีการพัฒนาอย่างกว้างขวางและสร้างธุรกิจ ผลกำไรจากพื้นที่เหล่านั้นมาให้ชุมชนได้ใช้ ได้กิน ได้อยู่ มีความเข้มแข็ง มีความรู้ด้วย ได้ทั้งประสบการณ์ และรู้จักกันเผื่อแผ่แบ่งปัน และเข้าร่วมการพัฒนาท้องถิ่น ผลผลิตจริงจังต่อเนื่อง ผลผลิตเพื่อสังคมเหล่านี้ ต้องการสนับสนุนให้ได้โดยเร็ว โดยอาจเริ่มจากพื้นที่ที่รวมกลุ่มเป็นชุมชนอยู่แล้ว หรือเป็นสหกรณ์อยู่แล้ว มีอยู่หลายพื้นที่แล้วหละ มีความพร้อม สหกรณ์การเกษตรมีเยอะมากนะ ผมอยากให้เริ่มจากสหกรณ์การเกษตรก่อนได้ไหม ทำยังไงมันจะเข้าไปในส่วนของธุรกิจการค้า ผลิตผลการเกษตรด้วย แปรรูปอะไรก็ว่าไป มันจะได้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่เหล่านี้มันน่าจะดูแลคนในประเทศนี้ได้เพียงพอ ผลิตเอง ขายเอง แล้วก็รับประทานเอง บริโภคเอง ที่เหลือก็ ในส่วนของบริษัทใหญ่ๆ ก็ว่าไป ข้ามชาติอะไรก็ว่าไปอีกทาง แต่อย่ามารบกวนซึ่งกันและกันมากนัก ทางโน้นใหญ่ ก็ทำเองบ้างอะไรบ้าง contact farming บ้าง หรือจะเลี้ยงครบวงจรก็ว่าไป แต่ส่วนผมอยากให้ซื้อจากตรงนี้ โซเชียบบิซเนสของผมเนี่ย ที่มาจากสหกรณ์ มาจากชุมชน ส่วนหนึ่งด้วย
เรื่องของการวางรากฐานเศรษฐกิจไทย วันนี้เราได้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น อันนี้มันเป็นคลัสเตอร์นะ ต้องอีกทางหนึ่ง มันมีเริ่มตั้งแต่เอาข้างนอกมาข้างในก่อนแล้วกัน ข้างนอกก็เป็นตลาด เป็นตลาดค้าชายแดนอะไรก็ตาม มันคงไม่ได้ผลิตตรงนั้น จากนั้นก็ถอยหลังเข้ามาในฝั่งไทย ก็มีเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น อันนี้เป็นคลัสเตอร์ มีตั้งหลายกิจการนะ ผมบอกไปแล้วตั้ง 13 กิจการมั้ง ให้มันตรงกับความต้องการของพื้นที่ มันอาจจะเหลือ 5-6 แห่ง 5-6 อย่าง เพราะบางอย่างมันต้องผสม กำหนดรวมไว้ 13 อย่าง บางอันก็มี 5 อย่าง บางอันก็มี 6 อย่าง แต่ถ้าอยากจะทำก็เสนอมา ก็มีคณะกรรมการพิจารณาให้อยู่แล้ว นี่คือในเขตที่เป็นพื้นที่การผลิตที่นอกจากนิคมอุตสาหกรรม แล้วก็มีนิคมอุตสาหกรรมด้วยในนี้ มันมีสองอย่าง เขตเศรษฐกิจพิเศษผมให้ทำสองอย่าง คือ หนึ่ง คือนิคมอุตสาหกรรมเข้าไปทำ สอง คือเอกชนเข้าไปทำ ตรงนี้เป็นศูนย์การผลิตที่ตรงความต้องการของพื้นที่ ตรงความต้องการของประเทศในเวลานี้ เทคโนโลยี ความทันสมัย การใช้แรงงาน การพัฒนาฝีมือแรงงานต้องทำตรงนี้
นอกจากนั้น ก็มีพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพ อาจจะต้องหลังเขตเศรษฐกิจเข้ามา เขตเศรษฐกิจพิเศษมันต้องการดูเรื่องแรงงานด้วย พอเข้ามาข้างในมากๆ แรงงานมันก็ต้องมีปัญหา ก็อยู่ตรงนั้น ชายแดน ใกล้ๆ ชายแดนหน่อยมันก็โอเคนะ ที่เราตั้งไว้ 6 แห่ง ปีนี้ ปีหน้าก็อีก 5-6 แห่ง ถ้าทำต่อก็จะเป็นอย่างนี้ แล้วพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพ ที่จำเป็นต้องต่อเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน CMLV มีอีกมั้ย จังหวัดไหนอีก ตรงนั้นมันก็สามารถไปจัดตั้งขึ้นได้อีก ทั้งนี้ มันจะได้เกิดการจ้างงาน และคนก็อยู่ในพื้นที่ แรงงานก็ไม่ขาด แล้วก็เชื่อมต่อกับสหกรณ์ เชื่อมต่อกับโซเชียลบิซเนสที่ว่านี้ได้
ในส่วนกำหนดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 ใน 5 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย นราธิาส เชียงราย นครพนม กาญจนบุรี นั้น มันเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้ชายแดน มีความเหมาะสม เชื่อมโยงอยู่แล้ว รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้เดี๋ยวชี้แจงต่อไปนะครับ วันนี้ก็มีการเดินหน้าไปเยอะนะ มีคนสนใจเยอะแยะไปหมด เรื่องชุมชนเข้มแข็งที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ เราต้องทำให้มันเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ผมบอกแล้วเป้าหมายของเรามีทั้ง 3 ระดับ คนรวยมากๆ มาทำธุรกิจข้ามชาติได้ อันที่ 2 คือปานกลาง ขนาดกลางบ้าง ระดับเงินเดือนอะไรก็แล้วแต่ แต่ในส่วนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือ คนที่มีรายได้น้อย ซึ่งมีถึงประมาณ 50-60% ข้างล่าง หลายอาชีพ หลายการทำงาน เพราะฉะนั้นเขารายได้เป็นวันบ้าง เป็นกะบ้าง เป็นเดือนบ้าง มันน้อย 9,000 12,000 มันอยู่ได้ไหวไหม มีภรรยามีลูกด้วย ต้องทำอย่างไรให้เขาอยู่ได้ แต่ต้องอยู่ได้ด้วยความพอเพียง จะให้เท่ากับคนรวยมันก็ไม่ได้ ลูกหลานต้องเข้าใจพ่อแม่ บัญชีครัวเรือนน่าจะต้องทำ สำหรับผู้มีรายได้น้อย จะได้รู้ว่า ใช้เงินมีเหตุผลหรือเปล่า มันพอประมาณกับตัวเองหรือไม่ ไม่ใช่ผมต้องการจะจำกัดให้คนรวยก็รวยไป คนจนก็จนไป ผมต้องการให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมันลดลง แต่ลดลงมันด้วยอะไร ด้วยรัฐกับด้วยประชาชนต้องร่วมมือกันด้วย เกษตรกรคงต้องช่วยกัน นึกถึงคนอื่นเขาด้วย เกษตรกรก็หลายอย่างนะครับ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว ได้เปรียบนานาประเทศอยู่แล้ว รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ก็อยากให้เข้าใจนะครับ วันนี้เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้อาเซียน ให้อาเซียนเข้มแข็ง ไทยเข้มแข็งด้วยอยู่แล้วแหละ แต่ต้องพึ่งพาอาเซียนด้วยปีหน้า เศรษฐกิจวันนี้ เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอยู่ หลายประเทศใหญ่ๆ ยังมีปัญหาอยู่ ที่ว่าจะดีขึ้นก็ดีไม่เท่าที่คาดไว้ ของเรามันต้องพึ่งคนอื่นอยู่แบบนี้ จนกว่าที่เราจะเข้มแข็ง ถ้าเราดีมานด์ ซัพพลาย ไม่เกินกันมากจนเกินไป มันก็ไม่ได้พอเพียง พอเพียงราคามันอาจจะควบคุมได้บ้าง ขายข้างนอกไม่ได้ก็ขายกินในประเทศนี่แหละ ดีกว่าไปขายข้างนอกเขาถูกๆ วันนี้การค้าขายในประเทศมันเกิดจากบริษัททั้งสิ้น ถ้ามันเกิดจากบริษัทที่เป็นโซเชียล บิซิเนส บ้าง สหกรณ์บ้าง อย่างที่บางสหกรณ์เขาทำอยู่ขณะนี้ จะทำอย่างไรเขาจะขยายให้ใหญ่ขึ้นไปอีก โดยที่ต้องมั่นคงนะครับ ต้องไม่พลั้งพลาดไปอีกทีที่หลังมันก็เสียดาย หลายชุมชน หลายสหกรณ์เข้มแข็งอยู่แล้ว เช่น แหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่ทุ่งกุลาร้องไห้ใช่ไหม ตรงนั้นก็น่าจะปลูกข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดของประเทศไทยได้ไหมทั้งพื้นที่เลย ที่ไหนที่ดินอาจจะดีไม่เท่า น้ำน้อยกว่านั้นก็ปลูกข้าวรอง ข้าวขาว ข้าวคุณภาพนะ ตรงไหนที่มันมีพื้นที่เหมาะสมปลูกไรซ์เบอร์รี่ ก็ปลูกไรซ์เบอร์รี่ แยกเป็นอย่างนี้มันใช้น้ำต่างกัน ใช้ดินต่างกัน และเอาไปผลิตสินค้าที่ต่างกัน มันก็แยกกันขาย ถ้าทุกคนมองเห็นอันนี้ดีก็ปลูก เฮโลกันหมด มันราคามันก็ตก เพราะมันเยอะ มันต้องแข่งขันกันเอง ไปคิดเรื่องของการตลาดด้วย ถึงบอกว่า ชาวไร่ ชาวนา หรือเกษตรกรต้องเรียนรู้การตลาด การเงินการทองด้วยนะ
เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญหาคือ ผู้ที่ประชาชนที่ขาดรายได้จากกลุ่มแรกคือ กลุ่มที่เสียประโยชน์ จากการที่รัฐบาลบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดระเบียบ วางรากฐาน การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม พูดง่ายๆ คือ เงินที่จากการเกิดจากธุรกิจสีเทาๆ นะ ประชาชนไม่ทราบหรอกครับ บางคนไม่ทราบหรอกว่า ผิด หรือถูกด้วยซ้ำไป เห็นเขาขายได้ ก็ขายด้วย ทำนองนี้ เยอะๆๆ ตามถนนหนทางเต็มไปหมด ถูกเปล่า บางคนไม่ทราบ ขายก็ขาย พอไปจับ ก็บอกรังแกประชาชน มันก็ไม่ใช่นะ ต่างประเทศเขาก็มีระเบียบนะ เราต้องช่วยกันหาที่อยู่ให้เขา รัฐก็พยายามหาที่อยู่ไป และมันจะยังไง มันจะอยู่อย่างนี้ วงจรอยู่อย่างนี้ ผมต้องขอโทษ ถ้าบางครั้ง ผู้ปฏิบัติข้างล่างทำไปเกิดความเดือดร้อน บางครั้งทำแรงเกินไป อะไรไม่รู้หล่ะ ผมไม่ได้ลงปฏิบัติเอง แต่นโยบายเป็นเรื่องของผม ความคิดที่ผมสั่งการลงไป และเป็นมติของ ครม. แต่อยู่ที่การปฏิบัติจะทำยังไงให้พี่น้องเข้าใจ และดูแลเขาอย่างไร อันนี้ ผมฝากถึงข้าราชการทุกกระทรวงนะครับ ถึงระดับล่าง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เหล่านี้ ต้องชี้แจงประชาชนให้เข้าใจว่า ถ้ามันจะเกิดตรงนี้ กระทบตรงไหน จะทำยังไง กฎหมายฉบับนี้เขาเขียนมาเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่เขียนออกมาเพื่อบังคับประชาชน มันไม่ใช่ เขียนมาให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข กฎหมายเขามีไว้ให้จัดระเบียบสังคม ให้คนหมู่มากอยู่ร่วมกันได้ ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน และประชาชนต้องไม่ได้รับความเดือดร้อนสำหรับกฎหมายฉบับนั้น ถ้าทำถูกต้อง อันนี้พอทุกคนเดือดร้อน เพราะเคยทำไม่ถูกต้องมาตลอด มันก็เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐ เจ้าหน้าที่ ประชาชน ทำยังไง รัฐก็ต้องแก้ ประชาชนต้องแก้ไขตัวเองกันทั้งคู่
เพราะฉะนั้น ต้องดูแลนะครับ ชาวไร่ ชาวนา ผู้ใช้แรงงาน ผู้ด้อยโอกาสในสังคม รัฐบาลต้องช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนนะครับ สนับสนุนด้วยการสร้างโอกาส สร้างความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับตนเองและชุมชนให้ได้ ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันขาดโอกาสนะ ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงทรัพยากร ทุกอย่างเลย ขาดโอกาส รัฐต้องทำตรงนี้ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ อปท. สำคัญที่สุดนะ อย่าเลือกพวก อย่าเลือกกลุ่ม อย่าเลือกพี่น้อง อย่าเลือกกลุ่มผลประโยชน์ ต้องดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมนะ อปท. ไม่อย่างนั้นจะเรียกร้องกระจายอำนาจแล้วทำไม่ได้ วันนี้ต้องกระจายอำนาจก่อน ดูแลที่ไหนได้ก็รับไป เรื่องไหนทำได้ดีก็รับไป ตรงไหนที่ทำไม่ได้ต้องบอก จะได้ให้ส่วนไหนเขาทำไป วันนี้ต้องยอมรับว่า ยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ มีไม่กี่แห่งที่เข้มแข็งพอ ก็ว่ากันต่อไปในเรื่องการปฏิรูป
ฉะนั้นก็ขอให้ทุกคนมีความสุขอย่างพอเพียงพอก่อน เอาแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมา แก้ไขทุกอย่าง เช่น เกษตรกรที่ปลูกข้าวมากว่า 30 ปี ขาดทุนมาตลอด รายรับไม่เพียงพอในการเลี้ยงดูครอบครัว ก็เปลี่ยนมาทำแปลงมะลิบ้าง หารายได้เป็นการเพิ่มเติม หรือปลูกพืชอะไรก็แล้วแต่ พบว่ามีรายได้ที่มีกว่าการทำนา เช่น ดอกมะลิ ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 100 บาท โดยเฉลี่ยวันหนึ่งขายได้ประมาณ 8- 10 กิโลกรัม รายได้ต่อวัน 800 บาท เก็บผลได้ทุกวัน ราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท ก็ได้ 1,600 บาท ก็มีการอบรมเกษตรกรในตำบลประมาณ 5 ครอบครัว เป็นตัวอย่างที่ดีต่อเกษตรกร ไม่ใช่ปลูกมะลิตามกันหมดนะ เดี๋ยวก็ราคาตกอีก ไปทำอย่างอื่น เช่น ปลูกผัก ปลูกมะนาว มีคนต่อว่า ว่าแก้ปัญหาโดยการให้ชาวบ้านขุดบ่อเอง บางอย่างท่านต้องช่วยตัวเอง รัฐไปทำให้ท่านไม่ได้หรอก เพราะเป็นกติกาการค้าเสรี เราเป็นประเทศประชาธิปไตย วันนี้ผมก็ใช้ประชาธิปไตยขับเคลื่อนอยู่ ประชาธิปไตยบังคับใครไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องการค้าขาย ต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ก่อน แบ่งปัน ค้าขาย ตั้งบริษัท ตั้งห้างหุ้นส่วน มีขั้นตอนอยู่แล้ว
ขอชมเชยทุกกลุ่ม ทุกสหกรณ์ และเกษตกร ที่เห็นในทีวีมีทุกวัน ช่อง 11 ก็มี ช่อง 5 ก็เอามาออก ไทยพีบีเอสก็มี อย่าดูละครกันอย่างเดียว ดูสิ่งที่เป็นประโยชน์นี้บ้าง เอาตัวอย่างเขาไป อปท.ก็ต้องพัฒนาตัวเอง หากระบวนการเรียนรู้ว่าที่ไหนมี พาลูกบ้านไปดูเขา คิดอย่างนี้บ้าง ก็จะเปิดโลกทัศน์ของตัวเอง คิดว่าทำอย่างไรพื้นที่เราจะเป็นอย่างนี้ มันอยู่ไม่ได้หรอกวันหน้าเพราะค่าครองชีพสูงขึ้น โลกเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยี แล้วท่านจะไปอยู่กับสิ่งที่เป็นเกษตรกรอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ ท่านต้องทำทั้ง 2 อย่างด้วย ไม่งั้นก็ต้องรอขายผลิตผลปีละไม่กี่ครั้ง แล้วราคาก็ตก ต้องมีงานเสริม มีอาชีพ มีรายได้ให้ลูกหลานท่าน ท่านต้องเตรียมการแต่ละครอบครัว
เรื่องการจัดงานไม้ดอกไม้ประดับ ปลาสวยงาม ที่ตลาดเก่าของเรา ตลาดคลองผดุงฯ มีทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ และปลาสวยงาม มีทั้งการจัดแจกัน มีทั้งพันธุ์ดอกไม้ กระถาง ราคาถูก จากวันนี้ถึงวันที่ 28 มิถุนายน 10.00 น.-19.00 น. เชิญชวนผที่รักธรรมชาติ รักการทำสวนเป็นงานอดิเรก แลาไทยสวยงามเยอะ วันนี้ปลากัดเป็นสิ้นค้าส่งออก ปลากัดไทย ปลากัดจีน เราเพาะพันธุ์เก่งมาก ก็ให้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะหาความรู้ในการดูแลต้นไม้ เลี้ยงปลา อยากให้เป็นตลาดแห่งความรู้ด้วย ไม่ใช่การค้าขายอย่างเดียว ให้ กทม.เร่งเรื่องพาคนมาเที่ยว น้ำจะน้อยก็พร่องน้ำไว้ไง ไม่เป็นไร เรือลอยน้ำอยู่แล้ว น้ำจะมากน้อยเรือก็มาได้ จะมารอน้ำมากๆ ก็รอกันไปเรื่อย ทุกเรื่องก็รอกันหมด ก็ไม่ทันที่สั่งไปแล้ว ที่สั่งไปแล้วคิดใคร่ครวญแล้วต้องทำ ถือว่าเป็นโยบาย เป็นคำสั่ง ถ้าไม่ทำก็มีปัญหา ทำให้ได้ ไม่ใช่สั่งไปแล้วก็ติดนู่นนี่ ถ้าไม่ได้เอาเรือกินน้ำลึกมา มันติดตรงไหนก็ไปแก้ตรงนั้น แค่นั้นเอง คิดแบบนี้จะไปได้ ให้เร่งทำภายในเดือนนี้
เรื่องงานถนนสายวัฒนธรรมเช่นเดียวกัน ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีความสำเร็จอย่างดี รายได้สุทธิประมาณ 25 ล้าน และคืนนี้จะมีการเริ่มมหกรรมกีฬาของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 มีสิงคโปร์ จะมีตั้งแต่วันที่ 5-16 มิถุนายน วันนี้จะมีการถ่ายทอดพิธีเปิด ช่อง 3 หลังรายนี้ผมเลื่อนขึ้นมาก่อน อยากให้พี่น้องได้ดู ได้ส่งแรงใจ เวลา 18.30 น.-22.00 น.ให้ร่วมกันส่งแรงใจ กำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทย ผมพบเขามาแล้ว เขามีใจเต็ม 100 ผมบอกทุกคนต้องตั้งใจเป็นที่ 1 หมด แต่ผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ผมก็ให้กำลังใจเขาอยู่แล้ว ต้องเรียกว่าเป็นสู้ศึกกีฬานะ และในประเทศก็สู้ศึกกับความยากจนอยู่ขณะนี้ กับเศรษฐกิจ ทุกคนอยู่ในท่ามกลางศึกทั้งสิ้น ผมขอนำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานไว้ กับคนไทย ประเทศไทยมาใช้ ประโยชน์อย่าให้คนอื่นเขาเอาไปใช้มาก มากกว่าเราใช้เองเลย ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ สำหรับวันนี้ ขอบพระคุณครับ
บางครั้งการไปซื้อของต้องแยกประเภทให้ชัดนะครับ ผมมีความกังวล ถ้าจะยกเลิกถุงพลาสติกท่านก็ต้องแก้ปัญหาการใช้ถุงพลาสติกในกรณีที่เขาซื้อเครื่องดื่ม ขายเครื่องดื่มใส่น้ำแข็งอะไรเหล่านี้ อันนั้นก็ถุงพลาสติกอยู่แล้วนะครับ ถ้าเขาไม่ใส่ถุงพลาสติกจะให้ใส่อะไร เขาจะขายได้หรือไม่ คนซื้อจะเตรียมาหรือเปล่า อันนี้ต้องทำความเข้าใจกันด้วยนะครับ ผมคิดว่ามันมีถุงพลาสติกอีกแบบหนึ่งที่ย่อยสลายได้ มีการผลิตออกมาแล้ว แต่ผมไม่แน่ใจว่าราคามันยังสูงอยู่หรือเปล่า อยากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปติดตามในเรื่องนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์เคยนำเสนอผมดูถุงพลาสติกที่ย่อยสลายง่ายนะครับ และก็จากนั้นก็ใช้ถุงผ้า หรือตะกร้าจักสานอะไรก็ได้ ก็จะทำให้โลกไม่ร้อนกว่านี้ และถ้าไทยยังใช้ถุงพลาสติกอยู่ มันอยู่เป็น 100 ปี นะครับ มันไม่สลายได้ในธรรมชาติ เผาก็เป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์นะครับ
ส่วนของกิจกรรมการปลุกจิตสำนึก รักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนของชาติ เช่น ตาวิเศษ การจัดการขยะยั่งยืน การประกวดโรงเรียนปลอดขยะ เป็นต้นนะครับ ทั้งนี้ ผมอยากให้ทำอย่างต่อเนื่องนะครับ ไม่อยากให้ทำแบบไฟไหม้ฟาง ทำเป็นวันๆ ไป และหายเงียบ ต้องทำจนเป็นนิสัยให้ได้นะครับ เพราะวันนี้ บ่นกันว่าอากาศร้อนเหลือเกิน ฝนตกผิดฤดูบ้าง ฝนไม่ตกบ้าง ท่อตัน น้ำท่วม น้ำแล้ง ขยะเยอะไปหมด ก็เป็นผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายทั้งสิ้น โลกใบนี้มีคนกว่า 7 พันล้านคน เมื่อสักครู่ที่เขาบอก 7 พันล้านฝัน ทั้งโลกมีคนอยู่ 7 พันล้านคน ถ้าใช้ถุงพลาสติกกันหมด ทุกวันๆ โลกเราก็จะไม่ปลอดภัย อากาศก็จะเปลี่ยนแปลง ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน อย่าลืมถุงที่ใส่เครื่องดื่ม ชา กาแฟ หรือถุงพลาสติกที่ใส่อาหาร แบบที่คนใช้แรงงาน หรือผู้มีรายได้น้อยเขาซื้อกับข้าวถุงพลาสติกไปจะทำอย่างไร จะใช้วัสดุอะไรต่างๆมาแทน อุปกรณ์อะไรแทน คิดให้เขาด้วย คนขาย คนซื้อต้องร่วมมือกันด้วย
อีกเรื่องคือเรื่องของการแยกขยะ วันนี้เรามีปัญหาขยะมูลฝอยมากมาย ทั้งของเดิมที่สะสมไว้และของใหม่ที่มีทุกวัน สะสม ไปเรื่อยๆ มันต้องเริ่มต้นจากการแยกขยะให้ได้เสียก่อนในชุมชน ในบ้านก็ตาม ทั้งในเรื่องของการทิ้งขยะแยกขยะ จากนั้นก็นำไปสู่การนำมาใช้เป็นพลังงาน เป็นกระบวนการต่อเนื่อง ฉะนั้นก็อย่าขัดแย้งกันนักเลย ถ้าเราไม่มีกระบวนการ ขยะไม่มีวันหมดสิ้นไปจากประเทศไทยได้ แล้ววันหน้ามันก็สร้างปัญหาเยอะแยะ ทั้งเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ รกรุงรัง เป็นพิษเป็นภัยต่อระบบการหายใจ ขอให้ทุกคนเข้าใจกันด้วยนะ
โรงไฟฟ้าจากขยะมูลฝอยเป็นสิ่งสำคัญนะครับ อย่าขัดแย้งกันอีกเลย ถ้าเราแก้ต้นเหตุได้แล้ว ต้นเหตุก็คือขยะที่บ้าน แล้วก็การขนย้ายขยะไป บางแหล่งก็น้อยก็ทำที่ต้นทางเลย ถ้ามันเยอะ ... มันยิ่งเยอะอยู่แล้ว เพราะมันจะกองไว้ที่บริเวณที่ทิ้งขยะปัจจุบัน แต่ไม่มีระบบการขจัดขยะที่มีประสิทธิภาพ ก็ต้องแก้ด้วยการเอาขยะหลายร้อยตัน ในแต่ละวัน แต่ละเดือน แต่ละปี มาใช้ประโยชน์ ก็ต้องไปทำเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่เกิดจากขยะ ก็จะช่วยลดเรื่องการผลิตด้วยแก๊ส ด้วยน้ำมัน ไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องแก้ทั้งต้นเหตุ กลางเหตุ และปลายเหตุด้วย ตรงกลางที่สำคัญก็คือการให้ความรู้กับประชาชนก่อน สร้างความเข้าใจ ร่วมมือกันในการบริหารจัดการขยะ และไปเรื่องของปลายทาง สนับสนุนการขจัดขยะที่รัฐบาลกำลังเริ่มดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นโรงกำจัดขยะที่ทุกคนเป็นห่วงว่าจะไม่ดี ไม่ปลอดภัย อยากให้บริเวณที่กำหนดไว้เป็นจุดตั้งโรงงานขยะที่จะก่อให้พลังงาน ไปช่วยกันดูที่อยุธยานะครับ วันนี้ทำไปหลายเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เห็นประชานก็มีความสุขดีอยู่ พื้นที่ก็สะอาดสวยงาม วันหน้าจะเป็นสวนสาธารณะ ปลูกต้นไม้ได้อะไรได้ เป็นที่พักผ่อนได้ ขยะก็บริหารไปในโรงขยะ ก็ผลิตพลังงานออกมาได้ มันได้ตั้งหลายอย่างครับ อย่าขัดแย้งกันเลย ต้องเสียสละกันบ้าง เราคงต้องดูแลประชาชนที่อยู่ใกล้ๆ รอบๆ โรงงานขยะอย่าให้มีปัญหาอีก อันนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าอยากจะสั่งอะไรก็สั่ง ต้องนึกถึงคน ประชาชนอยู่ก่อนด้วยนะครับ แต่ประชาชนต้องนึกถึงรัฐ ถึงประเทศชาติด้วยว่า เราจะต้องทำกันอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องขยะ
รัฐบาลปัจจุบันนั้นได้ประกาศให้ขยะมูลฝอยนั้นเป็นวาระแห่งชาติ ให้ความสำคัญมากที่สุด วันนี้ก็มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำโรดแมปการจัดการขยะมูลฝอยของเสียอันตรายนะครับ และขับเคลื่อนให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมดำเนินการอย่างบูรณาการ ในเรื่องนี้ผมได้จัดระเบียบใหม่นิดหนึ่งนะครับ คือว่าให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหลัก เพราะว่าเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนที่สุด และเป็นผู้ที่ดูแลพื้นที่ทุกพื้นที่
เพราะฉะนั้นก็เป็นการทำงานร่วมกัน ในเรื่องที่จะต้องทำงานอย่างบูรณาการ เช่น การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ ลด ละ เลิกการใช้โฟมบรรจุอาหารภายใน 3 ปี 2558-2560 โดยหันมาใช้ทางเลือกที่เหลือจากกระบวนการอุตสาหกรรม ได้แก่ ชานอ้อย มันสำปะหลัง ปาล์ม ผักตบชวา ฟางข้าง อันนี้เป็นประโยชน์มากเลยกับผักตบชวาที่รกรุงรังเต็มคลอง ถ้าเอามาใช้ประโยชน์ได้ก็จะดีนะ เป็นวัสดุที่หาง่ายนะครับ น่าจะทำให้มันถูกลงนะในการทำบรรจุภัณฑ์ปลอดสารพิษ สิ่งเหล่านี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูซิว่า จะลดราคาการผลิตอย่างไร ต้นทุนการผลิตอย่างไร จะได้ขายในราคาที่ถูก ถูกกว่าที่ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม อะไรที่ดีแต่แพงกว่าก็ลำบากนะ ทำอะไรต้องนึกถึงประชาชนด้วยคือผู้บริโภคนะครับ ไม่งั้นมันเป็นไปไม่ได้ซักอย่าง
เรื่องต่อไปคือ การจัดตั้งศูนย์การวิจัยขยะมูลฝอยรวม และส่งเสริมการตั้งโรงผลิตไฟฟ้าจากการแปรรูปขยะมูลฝอย และเรื่องต่อไปคือเรื่องการผลักดัน พ.ร.บ.การจัดการสร้างผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และสร้างผลิตภัณฑ์อื่นๆ อันนี้ มุ่งหวังให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวด้วย ทั้งนั้น จะทำให้เป็นการกระตุ้นผู้ผลิตปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการลดใช้สารอันตราย และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ง่ายต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ จะเป็นการผลิตอย่างยั่งยืน และจะเกิดธุรกิจต่อเนื่องด้วย ถ้าบริษัทใหญ่ๆ ผลิตมาแล้วขาย มันก็น่าจะมีบริษัทกำจัดซาก หรือส่วนในการกำจัดซากของแต่ละบริษัทเองในการลงทุนดังกล่าวเหล่านั้น ทั้งนี้เพื่อจะรับซื้อของที่หมดยุคไปแล้ว เช่น แผงโซลาร์เซลล์ เช่น วงจรอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์เก่าๆ ที่ไม่ใช้งานแล้ว พวกนี้เอาไปฝังดินมันก็ยังไม่ย่อยสลาย ฉะนั้นมันต้องมีการกำจัดขยะเหล่านั้น หรือจะนำมารีไซเคิลใช้ใหม่อย่างที่ต่างประเทศเขาทำ รัฐบาลนี้ให้ความสนใจ และสั่งการไปแล้ว เป็นนโยบายไปแล้ว
ในเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์นั้น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนนี้ เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์แห่งชาติ ที่รัฐบาลกำหนดขึ้นให้หน่วยงาน องค์กร และทุกภาคส่วนของสังคมไทย ได้รับรู้ถึงปัญหา ได้มีส่วนร่วม ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ อย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม อันนี้คือเราในฐานะที่อยู่กลางทาง ถ้าเราไม่ยุ่งเกี่ยวกับขบวนการเหล่านี้ ไม่มีคนไปร่วมมือ มันก็ทำไม่ได้หรอก เรื่องของต้นทางก็อีกเรื่อง ก็แก้ปัญหาที่ต้นทางด้วย ปลายทางประเทศที่ 3 ก็ต้องไปดูว่า จะร่วมมือกันได้อย่างไร
วันนี้ก็มีความก้าวหน้า อย่างเป็นรูปธรรม อย่างน้อยก็มีแผนการปฏิบัติในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง ระยะยาว คือต้องพัฒนาต้นทางให้ได้ ไม่ให้มีการอพยพลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญของปัญหาการค้ามนุษย์ ชีวิตใครก็เป็นชีวิตหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ศาสนาใด เขาก็เป็นมนุษย์ ฉะนั้นสิทธิความเป็นมนุษย์มีทุกคน ทุกประเทศ ทุกศาสนา ต้องดูแลกัน รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหานี้อย่างยิ่ง ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ โดยเช้านี้ผมได้เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำปี 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้มีโอกาสกล่าวเน้นย้ำนโยบาย ของรัฐบาลในการป้องกันและแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง โดยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด ปรับปรุงกฎหมาย ข้อบังคับที่จำเป็น และเพิ่มความเข้มงวดในการระวังการตรวจสอบ นำผู้กระทำผิดมาลงโทษ ช่วยเหลือเยียวยาเหยื่อการค้ามนุษย์ รวมทั้งจัดการปัญหาอื่นที่เชื่อมโยงอย่างต่อเนื่องให้เบ็ดเสร็จ
ปัญหาการค้ามนุษย์นั้นมีผลกระทบกับทุกมิติของสังคมและโลกด้วย เป็นปัญหาที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัฐ เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานเอกชน องค์กร มูลนิธิต่างๆ รวมทั้งประชาชนทั่วไปด้วย
รัฐบาลต้องการที่จะสร้างการรับรู้ ให้ประชาชนเข้าใจว่าปัญหานี้จะมีผลกระทบต่อสังคมอย่างไร หลายท่านอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ไม่เกี่ยวข้อง แต่มันก็ไม่ได้ เพราะถ้าหากมีการค้ามนุษย์แล้วมันทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม และเกิดปัญหาในเรื่องของอาชญากรรมต่างๆ มากมาย เพราะว่าการค้ามนุษย์ ผมอยากทำความเข้าใจว่า มันคงไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของโรฮีนจา หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ เรื่องนี้มันแยกออกมาจากในเรื่องของการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำหรับพวกนั้นก็มีอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว นั่นก็จะลักลอบเข้ามาทำงานบ้างอะไรบ้าง แต่เมื่อไรก็ตามที่มีกระบวนการนำพา นั่นล่ะเรียกว่าค้ามนุษย์ แม้กระทั่งขอทาน ถ้าหากว่ามีการรวมกลุ่มกัน แล้วไปหาที่รับบริจาค แล้วก็ไปรวมกัน แบ่งเงินกันอะไรกัน มันก็ค้ามนุษยืเหมือนกัน หรือผู้หญิง เด็ก ที่เอามาแล้วไปทำงาน หลอกเขามา แล้วไปทำงานโดยผิดกฎหมาย ทุกอย่าง มันเข้าหลักเกณฑ์การค้ามนุษย์ทั้งสิ้น ถ้ามีคนกลางแล้วทำผิดกฎหมาย มาเป็นขบวนการ แต่ถ้าลักลอบผ่านแดนก็แรงงานผิดกฎหมาย ลักลอบข้ามแดน ก็ต้องทำความเข้าใจกัน
คือทั้งสองประเภทมันก็มีปัญหากับบ้านเราทั้งสิ้น แรงงานต่างๆ ที่เข้ามาทำงานวันนี้ก็จดทะเบียนไปแล้ว ก็ต้องดูพวกนี้อีกว่าขบวนการนำพาแรงงานเหล่านั้นมีการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่ เป็นบริษัทที่ถูกต้องหรือไม่ จะได้เป็นหลักประกันของแรงงานต่างๆ เหล่านั้น จะได้เข้าระบบให้ได้ ถ้าไปถูกหลอกมาอะไรมา แล้ววันหน้าเขาก็ทิ้งไปอีก เพราะฉะนั้นจะเอามาทำงานต้องตรวจสอบบริษัท หรือใครก็แล้วแต่ที่ชวนมาทำงานด้วยว่าเขามีหลักฐานทางราชการอะไรหรือไม่ที่ถูกต้อง
ในเรื่องของการให้ทานอะไรเหล่านี้ ผมถือว่าคนไทยเป็นผู้มีเมตตานะครับ เห็นใครลำบากยากเข็น ใครยากจน ใครพิการก็อยากจะให้สตางค์ อันนี้เราเลยเห็นสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ชินตา รวมไปถึงสถานบริการต่างๆ ก็จะมีคนเหล่านี้อยู่ทั้งสิ้น ขอให้ทุกคนช่วยกัน มันจะเป็นปัญหาของสังคมต่อไป ผมอยากให้ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้าเห็นอะไรผิดปกติ ที่มันน่าจะไม่ถูกต้อง ขอให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบตามช่องทางที่มีอยู่แล้ว เช่น ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้นมีโครงการรวมใจไทย ต้านการค้ามนุษย์ โดยมีเรื่องที่จะสื่อมาว่า ในรูปแบบของภาพยนตร์โฆษณาด้วย ให้เห็นถึงความจริงของอุบาย ไม่ว่าจะเป็นงานสบาย งานง่าย ผลตอบแทนสูงเหล่านั้น ล้วนแล้วแต่เป็นอุบายทั้งสิ้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้สิ่งตอบแทนที่มากจนเกินไป ขบวนการค้ามนุษย์จะใช้สิ่งนี้ล่อลวง หลอกล่อเหยื่อนะครับ รวมความไปถึงอย่างเช่นโรฮีนจาก็ถูกหลอกเหมือนกันว่า มานี่เดี๋ยวจะมีงานทำ เดินทางมา ทั้งๆ ที่มันก็ลำบากอันตราย มีโอกาสเสียชีวิตได้ 50% เพราะมาทางทะเล แต่ถูกพวกนี้้ไปเอาเขามาแล้วไปหางานให้ทำ อย่างนี้ไม่ได้ แต่ถ้ามาด้วยอิสระ ด้วยตัวเอง ด้วยไม่มีใครนำพามานั่นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ อันนั้นต้องเป็นการลักลอบเข้าเมือง
เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนนั้นได้ใช้วิจารณญาณให้เหมาะสม เราควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร มีส่วนร่วมในเรื่องนี้อย่างไร อย่าให้เขามีการล่อลวง หลอกล่อ เข้ามาสู่ในวงจรธุรกิจการค้ามนุษย์อีกต่อไปนะครับ ถ้าหากว่าเหยื่อตกเข้ามาในวงการแล้วจะถูกล่วงละเมิด ผู้หญิงก็ลำบากนะครับ ถูกกดขี่ข่มเหงเหยื่อด้วยความรุนแรง มีการเรียกค่าไถ่อีก มันเกิดมาเป็นประจำยาวนานแล้ว พยายามแก้มาตลอด แต่มันแก้ไม่ได้ วันนี้ถือว่าเอาวิกฤตเป็นโอกาสแล้วกัน จะได้ไม่มีการทำร้ายร่างกาย จิตใจกันอีกต่อไปนะครับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะทำภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าว ทุกคนก็ติดตามนะครับ จะได้เห็นความจริง และตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา ความรุนแรงที่จะเกิดจากการค้ามนุษย์ ในภาพยนตร์ต่อไปนี้จะมีการเปิดโปงความไร้มนุษยธรรมของขบวนการเหล่านี้นะครับ ซึ่งมักจะกระทำกับเหยื่อ เพื่อจะเป็นแบบอย่างตัวอย่างให้เข้าใจ และเกิดการระวังป้องกัน เฝ้าระวัง อย่าไปร่วมในขบวนการ สร้างความตระหนักรู้ในปัญหาการค้ามนุษย์ต่อสังคม วันนี้ที่มันมาได้ เพราะปัญหาความยากจนเหลื่อมล้ำด้วย เป็นปัญหาหลัก ถ้าไม่จน คงไม่มาถูกหลอกแบบนี้ เพราะงั้นเราต้องทำให้คนเข้มแข็ง ให้มีรายได้เพียงพอ
นอกจากนั้น โครงการนั้นได้เปิดช่องทางการรับบริจาค ผมบอกแล้ว อยากบริจาคเงิน เพราะฉะนั้นจะมีโครงการรับบริจาค เพื่อนำเงินมากระจายสู่มูลนิธิต่างๆ ที่ช่วยเหลือเรื่องการค้ามนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ดำเนินการรับบริจาคตั้งแต่วันนี้ ไปถึงวันที่ 5 กันยายน 2558 วิธีการรับบริจาคนั้น โครงการจะมีการจัดทำเสื้อยืด และโปสการ์ดที่มีบาร์โค้ดแจก และจำหน่าย และผู้ที่ได้รับสามารถนำบาร์โค้ดดังกล่าวมาสแกน และบริจาคได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส หรือโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสะพานขาว ชื่อบัญชี รวมใจไทยต้านการค้ามนุษย์ โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เลขที่บัญชี 0210176504 นะครับ สำหรับผู้บริจาครายบุคคล หรือบริษัทใหญ่ๆที่มีความประสงค์สนับสนุนโครงการพัฒนาสังคม ร่วมกับรัฐบาล สามารถเก็บสลิปหรือหลักฐานการโอนเงินไว้ใช้ในการลดหย่อนภาษีได้นะครับ ทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ร่วมกับกรมสรรพากรกำลังพิจารณาวิธีการสนับสนุนการลดหย่อนภาษีแก่ผู้ร่วมบริจาค เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ได้หรือไม่ กำลังทำอยู่นะครับ โดยทางหน่วยงานจะประชาสัมพันธ์ให้ท่านทราบต่อไปภายหลัง แต่ที่แน่ๆ ผู้บริจาคเป็นพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า บริษัทห้างร้าน ได้รับกุศลผลบุญนะครับ ทำทานให้กับคนมีชีวิตอยู่ถือเป็นบุญเช่นกัน จากการร่วมบริจาคในโครงการนี้ด้วยขอขอบคุณหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ รวมถึงเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่จะร่วมบริจาคโครงการต่อต้านค้ามนุษย์ครั้งนี้ด้วยนะครับ
เรื่องเศรษฐกิจวันนี้ มีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ ถ้าการท่องเที่ยวนี่ฟื้นชัดเจนนะครับ มีจำนวนมากได้รับการรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า นักท่องที่ยวเดือนพฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มกว่าเดิมร้อยละ 30 ก็อย่าไปเชื่อที่พูดว่าเศรษฐกิจตกต่ำ การท่องเที่ยวก็คนเที่ยวน้อยลง เพราะตัวเลขมาอย่างนี้ เช็คที่สนามบิน การเดินทางต่างๆ ทั้งหมดนะครับ ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 จากโรงแรม จากที่พัก การบริการร้านอาหาร นี่เป็นสิ่งที่เป็นสัญญาณว่าบ้านเมืองเราได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยในความมีศักยภาพของรัฐบาล และในการที่บ้านเมืองมีความสงบสุขในขณะนี้ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในขั้นตอนการเตรียมการไปสู่ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ก็ตาม แต่คนก็เชื่อมั่น ก็เว้นแต่บางคนยังพูดจาให้เสียหายอยู่ ก็ระมัดระวังด้วย รัฐบาลยังห่วงใยเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของพี่น้องเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย คงไม่ใช่ที่ผมใช้คำว่าเกษตรกรและรายได้น้อย เพราะการประกอบอาชีพมีหลายอย่างด้วยกัน อาชีพอิสระก็มีค้าขาย ขายของ ขายก๋วยเตี๋ยว มอเตอร์ไซค์รับจ้าง นี่ก็รายได้น้อยเหมือนกัน
ในภาวะเช่นนี้รัฐบาลก็พยายามทุกอย่าง ไมได้นิ่งนอนใจ แต่ขอให้เข้าใจว่า จะต้องปล่อยให้ทำผิดกฎหมายต่อไปให้ขายในที่ไหนก็ได้ มันเป็นไปไม่ได้ กฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย จะดูแลคนเหล่านี้อย่างไร หาสถานที่ขาย หรือไปหาให้ความรู้ ปรับเปลี่ยนอาชีพ ถ้ามีร้านอะไรอยู่แล้ว ก็ขยายไปสู่เอสเอ็มอีได้ไหม ต้องพัฒนาตนเองด้วย ใช้แนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ บางคนบอกว่าเราไม่ใช้ ใช้ทุกอย่าง เวลาสั่งงานอะไรไปแล้ว ผมย้ำทุกอย่าง ว่าเอาหลักการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คือปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาทั้งสิ้น มีเหตุมีผล พอประมาณ และมีภูมิคุ้มกันที่ดี จะทำอะไรต่อไปก็คิดทบทวนให้ดี มีความรู้ มีคุณธรรม แล้วพร้อมหรือยัง พร้อมก็ทำต่อ ถ้าไม่พร้อมก็อย่าเพิ่ง ก็ทำให้พอเพียงไปก่อน โดยใช้เงินอย่างพอประมาณ มีเหตุมีผล ลูกหลานต้องเข้าใจคุณพ่อคุณแม่ด้วย บางทีพ่อแม่เราก็ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนอื่นเขา แต่เราอยากได้ของเหมือนเพื่อน ผมคิดว่าสำคัญที่สุดคือสิ่งแวดล้อม สภาวการณ์โลก โลกมันก้าวหน้าเร็ว ฉะนั้นเรื่องเทคโนโลยีและความทันสมัยมันก็เข้ามาเร็ว บ้านเราคนมีรายได้น้อยยังเยอะอยู่ สิ่งของเหล่านี้ ผู้ขายก็อยากจะขายเยอะๆ มีมาตรการเยอะแยะ ลดราคา ผ่อนส่งได้ นี่คือปัญหาหนี้ครัวเรือน
อีกเรื่องคือการจัดหาที่ดินทำกิน ก็ขอกันก่อน ว่าจัดที่ดินทำกินให้ได้ก่อน วันนี้ยังไม่ครบเลย ก็จะเร่งดำเนินการให้ได้ในปีนี้ปีหน้า ที่เหลือก็ต้องเตรียมการของตัวเองว่าจะให้ลูกหลานทำอะไร เรียนหนังสือจบแล้วจะทำอะไร ต้องเตรียมตัวเองเผื่อเข้าไปทำงานในการเปิดเออีซี สิ้นปีนี้ก็จะเริ่มปีแห่งเออีซี ก็คือ 2560 เต็มๆ ตั้งแต่ต้นปีไป มันจะมีงานแลกเปลี่ยนสัญจรไปมาหางานระหว่างประเทศได้ เพราะฉะนั้นท่านต้องเตรียมคนไว้ด้วย เราจะให้พี่น้องทำการเกษตรมากขึ้นๆ ไปเรื่อยๆ ขนาดที่ดินเรามีเท่านี้ น้ำเรามีเท่านี้มันไม่ได้แล้ว ต้องหาอาชีพอื่นที่มีรายได้รายวัน รายเดือนมาเลี้ยงพ่อแม่ และพ่อแม่อยู่ทำเกษตรกรรมสมัยใหม่ไปได้ มีใช้เครื่องไม้เครื่องมือเครื่องจักร วันนี้เราคิดแบบนี้อยู่นะครับ เพราะฉะนั้นมันต้องเริ่มจากแผนการจัดการที่เกษตรกรรมให้เหมาะสมกับน้ำ แหล่งน้ำ แหล่งน้ำทำมากมันก็โอเคแหละ มันต้องใช้งบประมาณสูง แต่ถ้าทำแล้วไม่มีน้ำลงมา ฝนไม่ตก ทำไปก็ไร้ประโยชน์นะครับ วันนี้หลายแห่ง ได้ทำไปแล้ว แต่เท่าที่แล้วปีนี้ฝนจะน้อย น้ำก็จะน้อย ผมก็บอกว่า ทุกคนช่วยกันสร้างที่กักเก็บกักน้ำมา สื่อบางสื่อก็บอกว่า มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลไม่ใช่หรือ ถ้าสื่อยังชี้แจงกันอยู่แบบนี้ ผมว่าไม่ใช่ สอนให้คนพึ่งพาตัวเองด้วย พร้อมกับสนับสนุนรัฐในการทำโครงการขนาดใหญ่ขึ้น และช่วยกันฟังนโยบายเรื่องอื่น
การเตรียมพื้นที่เหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะว่าตรงไหนปลูกอะไร มันต้องกำหนดว่า ท่านจะปลูกข้าว ตรงไหนจะต้องปลูกข้าวคุณภาพดี ตรงไหนปลูกข้าวคุณภาพรองลงมา ตรงไหนจะปลูกข้าวสุขภาพ ตรงไหนจะปลูกเพื่อเป็นการขยายเมล็ดพันธุ์ข้าวที่กรมการข้าวผลิตออกมา มันจะได้ครบทั้งระบบด้วย ในเรื่องของเมล็ดพันธุ์ และไปสู่ในเรื่องของการปลูกคงต้องทำแบบองค์รวม วันนี้ก็ได้ให้กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย ไปจัดทำองค์รวมตั้งแต่ต้นทาง คือการลดต้นทุนการผลิต การรวมกลุ่มการผลิต การจัดหาพื้นที่ทำกิน การจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร เมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมราคาถูก ปุ๋ยด้วยนะครับ ปุ๋ยอินทรีย์ให้มากขึ้น ผลิตเอง ทำเอง สหกรณ์ช่วยกันทำ และราคาถูกกว่าที่ไปซื้อข้างนอก
ในส่วนของปุ๋ยเคมี วันนี้เราขอให้ช่วยลดลง และให้ราคาถูกลงจากบริษัทที่ประกอบการ บางพื้นที่อาจจะมีเคยเป็นอยู่บ้าง แต่วันหน้าต้องลดให้หมด กลางทางในเรื่องของการพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ผมคิดว่าเราเคยขายข้าวเป็นกระสอบๆ มา วันหน้าต้องขายเป็นอีกอย่างหนึ่ง ทำอย่างไรให้คุณค่าสูงขึ้น ข้าวกระสอบหนึ่งทำอะไรได้บ้าง ไปทำอาหารสุขภาพได้ไหม ไปทำขนมปังข้าวได้ไหม หรือไปทำเครื่องสำอาง ตั้งหลายอย่างที่เขามานำเสนอให้ผมดูในการจัดงานทุกครั้ง แต่มันนำไปสู่การผลิตและการจำหน่ายได้สักเท่าไร ผมไม่แน่ใจนะ ถ้างั้นช่วยไปดู มีไม่กี่บริษัทหรอกที่ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเราทำมากจนเกินไปมันก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันต้องควบคุมปริมาณให้ได้ สำคัญที่สุดเลย ความต้องการทั้งในประเทศ ต่างประเทศ มันจะได้นำย้อนกลับมาสู่ภาคการผลิต และการผลิตก็ต้องไปดูว่าผลิตที่ไหน อย่างไร ต้นทุนควรต่ำสุดเท่าไหร่ ถ้าเรามุ่งดูเฉพาะราคาปลายทาง ยังไงก็คุมไม่ได้ เพราะการแข่งขันมันมากขึ้น แล้วก็เออีซีด้วย การตกลงการค้าต่างๆ ข้อตกลงเยอะแยะไปหมด ทุกประเทศเขาใช้ข้อตกลงทางการค้าทั้งสิ้น เรากำหนดเองอะไรไม่ได้เลย ถ้าเราเรียกร้องราคาสูงๆ แล้วต้นทุนการผลิตก็ยังสูงอยู่ มันไม่มีทางที่ประชาชนจะอยู่ได้ เกษตรกรอยู่ไม่ได้หรอกครับ เพราะฉะนั้นจะต้องเร่งทำตรงนี้ให้ได้ ทุกคนต้องร่วมมือกัน เรื่องการลดต้นทุนการผลิต ตั้งแต่เรื่องเมล็ดพันธุ์ เรื่องเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือ ปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืช ที่ไม่ทำให้เกิดมลพิษ ไม่อันตรายต่อผู้ใช้ และการหาตลาดที่แตกต่างในการจำหน่ายสินค้าเหล่านั้น
อีกอันคือโครงการที่รัฐบาลตัดสินอยู่ ก็คือโครงการเพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในการที่จะสร้างโอกาส สร้างความสุขให้หมู่บ้านและชุมชนเมือง เราก็จะให้ไปขับเคลื่อนดำเนินการตามนโยบาย เพื่อจะสร้างโอกาส สร้างความสุขให้หมู่บ้านและชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ อันนี้อยากให้ไปสร้างความเข้มแข็งนะ ไม่ใช่ไปใช้ในการที่จะไปซื้อข้าวของที่ไม่เกิดประโยชน์ ทำอะไรก็ให้มันถาวร บางพื้นที่เขาทำได้ดี แม้กระทั่งเงินที่ให้ไปแต่ละตำบล 3 พันกว่าตำบล เขาก็ดีขึ้น เพราะว่าอะไร เขาไปรวมกลุ่มกันแล้วก็คิดว่าจะทำอะไรดี ไม่ใช่ใช้แล้วหายไปเลย ต้องสอนให้เกษตรกร ให้ประชาชนเรียนรู้ ท่านต้องมีส่วน ท่านต้องช่วยตัวเองด้วย อันที่หนึ่ง โดยที่ไม่ต้องใช้เงินมาก เงินน้อย ร่วมมือร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมคิด ร่วมทำ ตามนโยบาย อันที่ 2 ก็คือร่วมในการที่จะทำให้ภาคส่วนเกษตรกรทุกอย่างมันเข้มแข็งขึ้น ในลักษณะเป็นสหกรณ์ ถ้าไม่สหกรณ์ ผมก็มีแนวคิดว่าเมื่อสหกรณ์ไปรับซื้อของมา อะไรต่างๆ มันก็ต้องสร้างตัวเองขึ้นมาให้เป็นเหมือนกับเป็นโซเชียลบิซเนสด้วย คือขายต่อ เอามาขายต่อ ไปสู่วงจรของเอสเอ็มอี ไปสู่เศรษฐกิจพิเศษ ไปสู่การค้าขายชายแดนด้วย
วันนี้เรื่องกองทุนนั้น ก็มีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 17,146 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 21.63 ของกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ อันนี้ก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการจะเพิ่มคุณภาพชีวิตให้หมู่บ้านชุมชน ประชาชนมาโดยตลอด อาทิเช่น เป็นเงินทุนหมุนเวียนประชาชน เพื่อประชาชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชน ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ เสริมรายได้ ไม่ไปใช้หมดไปปล่าวๆ มันต้องเงินต่อเงินนะ อย่างน้อยไม่ทำความเดือดร้อนให้คนทำอาชีพในหมู่บ้าน ก็จัดระเบียบ จัดสัดส่วนให้มันดีชัดเจน ไม่ใช่ใช้สิ้นเปลืองทั้งหมด และจะทำให้เป็นศูนย์กลางอำนวยความสะดวกได้ ก็ออมเงิน เอาเงินไว้ใช้ยามแก่เฒ่า ยามเจ็บป่วย วันนี้ เงินประกันสังคม การจัดสวัสดิภาพชุมชน ความสะอาด ความแหล่งน้ำใช้ในหมู่บ้าน ต้องหาเงินเหล่านี้มาช่วยทำ ปีนี้ไม่เท่าไหร่ ปีหน้าก็ทำต่อ ทำไปเรื่อยๆ ปัจจุบัน กองทุนหมู่บ้านภาคเหนือมีสมาชิกร่วมกันเกือบ 3 ล้านคน มีเงินทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 41,519 ล้านบาท มีเงินออมไม่น้อยกว่า 5,638 ล้านบาท มีเงินสมทบเข้ากองทุนไม่น้อยกว่า 1,398 ล้านบาท และมีดอกผลจากกองทุนเพื่อจัดสวัสดิการไม่น้อยกว่า 323 ล้านบาท
ส่วนภาคอื่น รัฐกำลังเข้าไปตรวจสอบนะครับ และเร่งดำเนินการให้มีความก้าวหน้าเหมือนภาคเหนือ ผมอยากให้ประเทศไทย มีกิจการที่ผมกล่าวเป็นการที่เรียกว่า แบบธุรกิจเพื่อสังคม ที่ผมเรียกว่า โซเชียล บิสซิเนส มีหลายประเทศแล้วนะครับ ท่านศาสตราจารย์ มูฮัมหมัด ยูนุส Professor Muhammad Yunus เจ้าของรางวัลโนเบล ได้กล่าวไว้ว่า การทำธุรกิจที่มีกำไรแต่พอดี และลงทุนเพื่อสังคมนั้น จะเป็นการทำธุรกิจที่สอดรับกับการช่วยสังคมน่าอยู่ เช่น โครงการพัฒนาดอยตุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริของ สมเด็จย่า นะครับ และก็โครงการหลวงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นะครับ ให้ประชาชนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เพราะพระองค์ท่านเล็งเห็นว่า งบประมาณจากรัฐบาลอย่างเดียวนั้น ไม่เป็นการยุติธรรมกับประชาชนชาวไทยที่ไม่ได้อยู่ตามดอย ตามพื้นที่เหล่านั้น ทุกคนรัฐต้องดูแลทั้งหมดนะครับ ไม่ใช่เฉพาะเกษตรกร ไม่ใช่คนบนดอยอย่างเดียว ท่านทรงคิดแบบนั้นนะครับ เพราะงั้น ท่านต้องสร้างความเข้มแข็ง พระราชทานเงินส่วนพระองค์เบื้องต้นให้ วันนี้ ก็มีการพัฒนาอย่างกว้างขวางและสร้างธุรกิจ ผลกำไรจากพื้นที่เหล่านั้นมาให้ชุมชนได้ใช้ ได้กิน ได้อยู่ มีความเข้มแข็ง มีความรู้ด้วย ได้ทั้งประสบการณ์ และรู้จักกันเผื่อแผ่แบ่งปัน และเข้าร่วมการพัฒนาท้องถิ่น ผลผลิตจริงจังต่อเนื่อง ผลผลิตเพื่อสังคมเหล่านี้ ต้องการสนับสนุนให้ได้โดยเร็ว โดยอาจเริ่มจากพื้นที่ที่รวมกลุ่มเป็นชุมชนอยู่แล้ว หรือเป็นสหกรณ์อยู่แล้ว มีอยู่หลายพื้นที่แล้วหละ มีความพร้อม สหกรณ์การเกษตรมีเยอะมากนะ ผมอยากให้เริ่มจากสหกรณ์การเกษตรก่อนได้ไหม ทำยังไงมันจะเข้าไปในส่วนของธุรกิจการค้า ผลิตผลการเกษตรด้วย แปรรูปอะไรก็ว่าไป มันจะได้เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่เหล่านี้มันน่าจะดูแลคนในประเทศนี้ได้เพียงพอ ผลิตเอง ขายเอง แล้วก็รับประทานเอง บริโภคเอง ที่เหลือก็ ในส่วนของบริษัทใหญ่ๆ ก็ว่าไป ข้ามชาติอะไรก็ว่าไปอีกทาง แต่อย่ามารบกวนซึ่งกันและกันมากนัก ทางโน้นใหญ่ ก็ทำเองบ้างอะไรบ้าง contact farming บ้าง หรือจะเลี้ยงครบวงจรก็ว่าไป แต่ส่วนผมอยากให้ซื้อจากตรงนี้ โซเชียบบิซเนสของผมเนี่ย ที่มาจากสหกรณ์ มาจากชุมชน ส่วนหนึ่งด้วย
เรื่องของการวางรากฐานเศรษฐกิจไทย วันนี้เราได้มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น อันนี้มันเป็นคลัสเตอร์นะ ต้องอีกทางหนึ่ง มันมีเริ่มตั้งแต่เอาข้างนอกมาข้างในก่อนแล้วกัน ข้างนอกก็เป็นตลาด เป็นตลาดค้าชายแดนอะไรก็ตาม มันคงไม่ได้ผลิตตรงนั้น จากนั้นก็ถอยหลังเข้ามาในฝั่งไทย ก็มีเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น อันนี้เป็นคลัสเตอร์ มีตั้งหลายกิจการนะ ผมบอกไปแล้วตั้ง 13 กิจการมั้ง ให้มันตรงกับความต้องการของพื้นที่ มันอาจจะเหลือ 5-6 แห่ง 5-6 อย่าง เพราะบางอย่างมันต้องผสม กำหนดรวมไว้ 13 อย่าง บางอันก็มี 5 อย่าง บางอันก็มี 6 อย่าง แต่ถ้าอยากจะทำก็เสนอมา ก็มีคณะกรรมการพิจารณาให้อยู่แล้ว นี่คือในเขตที่เป็นพื้นที่การผลิตที่นอกจากนิคมอุตสาหกรรม แล้วก็มีนิคมอุตสาหกรรมด้วยในนี้ มันมีสองอย่าง เขตเศรษฐกิจพิเศษผมให้ทำสองอย่าง คือ หนึ่ง คือนิคมอุตสาหกรรมเข้าไปทำ สอง คือเอกชนเข้าไปทำ ตรงนี้เป็นศูนย์การผลิตที่ตรงความต้องการของพื้นที่ ตรงความต้องการของประเทศในเวลานี้ เทคโนโลยี ความทันสมัย การใช้แรงงาน การพัฒนาฝีมือแรงงานต้องทำตรงนี้
นอกจากนั้น ก็มีพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพ อาจจะต้องหลังเขตเศรษฐกิจเข้ามา เขตเศรษฐกิจพิเศษมันต้องการดูเรื่องแรงงานด้วย พอเข้ามาข้างในมากๆ แรงงานมันก็ต้องมีปัญหา ก็อยู่ตรงนั้น ชายแดน ใกล้ๆ ชายแดนหน่อยมันก็โอเคนะ ที่เราตั้งไว้ 6 แห่ง ปีนี้ ปีหน้าก็อีก 5-6 แห่ง ถ้าทำต่อก็จะเป็นอย่างนี้ แล้วพื้นที่อื่นที่มีศักยภาพ ที่จำเป็นต้องต่อเชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน CMLV มีอีกมั้ย จังหวัดไหนอีก ตรงนั้นมันก็สามารถไปจัดตั้งขึ้นได้อีก ทั้งนี้ มันจะได้เกิดการจ้างงาน และคนก็อยู่ในพื้นที่ แรงงานก็ไม่ขาด แล้วก็เชื่อมต่อกับสหกรณ์ เชื่อมต่อกับโซเชียลบิซเนสที่ว่านี้ได้
ในส่วนกำหนดพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษระยะที่ 2 ใน 5 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย นราธิาส เชียงราย นครพนม กาญจนบุรี นั้น มันเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้ชายแดน มีความเหมาะสม เชื่อมโยงอยู่แล้ว รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้เดี๋ยวชี้แจงต่อไปนะครับ วันนี้ก็มีการเดินหน้าไปเยอะนะ มีคนสนใจเยอะแยะไปหมด เรื่องชุมชนเข้มแข็งที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ เราต้องทำให้มันเกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ผมบอกแล้วเป้าหมายของเรามีทั้ง 3 ระดับ คนรวยมากๆ มาทำธุรกิจข้ามชาติได้ อันที่ 2 คือปานกลาง ขนาดกลางบ้าง ระดับเงินเดือนอะไรก็แล้วแต่ แต่ในส่วนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือ คนที่มีรายได้น้อย ซึ่งมีถึงประมาณ 50-60% ข้างล่าง หลายอาชีพ หลายการทำงาน เพราะฉะนั้นเขารายได้เป็นวันบ้าง เป็นกะบ้าง เป็นเดือนบ้าง มันน้อย 9,000 12,000 มันอยู่ได้ไหวไหม มีภรรยามีลูกด้วย ต้องทำอย่างไรให้เขาอยู่ได้ แต่ต้องอยู่ได้ด้วยความพอเพียง จะให้เท่ากับคนรวยมันก็ไม่ได้ ลูกหลานต้องเข้าใจพ่อแม่ บัญชีครัวเรือนน่าจะต้องทำ สำหรับผู้มีรายได้น้อย จะได้รู้ว่า ใช้เงินมีเหตุผลหรือเปล่า มันพอประมาณกับตัวเองหรือไม่ ไม่ใช่ผมต้องการจะจำกัดให้คนรวยก็รวยไป คนจนก็จนไป ผมต้องการให้ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมันลดลง แต่ลดลงมันด้วยอะไร ด้วยรัฐกับด้วยประชาชนต้องร่วมมือกันด้วย เกษตรกรคงต้องช่วยกัน นึกถึงคนอื่นเขาด้วย เกษตรกรก็หลายอย่างนะครับ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว ได้เปรียบนานาประเทศอยู่แล้ว รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้าน ก็อยากให้เข้าใจนะครับ วันนี้เราต้องสร้างความเข้มแข็งให้อาเซียน ให้อาเซียนเข้มแข็ง ไทยเข้มแข็งด้วยอยู่แล้วแหละ แต่ต้องพึ่งพาอาเซียนด้วยปีหน้า เศรษฐกิจวันนี้ เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอยู่ หลายประเทศใหญ่ๆ ยังมีปัญหาอยู่ ที่ว่าจะดีขึ้นก็ดีไม่เท่าที่คาดไว้ ของเรามันต้องพึ่งคนอื่นอยู่แบบนี้ จนกว่าที่เราจะเข้มแข็ง ถ้าเราดีมานด์ ซัพพลาย ไม่เกินกันมากจนเกินไป มันก็ไม่ได้พอเพียง พอเพียงราคามันอาจจะควบคุมได้บ้าง ขายข้างนอกไม่ได้ก็ขายกินในประเทศนี่แหละ ดีกว่าไปขายข้างนอกเขาถูกๆ วันนี้การค้าขายในประเทศมันเกิดจากบริษัททั้งสิ้น ถ้ามันเกิดจากบริษัทที่เป็นโซเชียล บิซิเนส บ้าง สหกรณ์บ้าง อย่างที่บางสหกรณ์เขาทำอยู่ขณะนี้ จะทำอย่างไรเขาจะขยายให้ใหญ่ขึ้นไปอีก โดยที่ต้องมั่นคงนะครับ ต้องไม่พลั้งพลาดไปอีกทีที่หลังมันก็เสียดาย หลายชุมชน หลายสหกรณ์เข้มแข็งอยู่แล้ว เช่น แหล่งปลูกข้าวที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่ทุ่งกุลาร้องไห้ใช่ไหม ตรงนั้นก็น่าจะปลูกข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดของประเทศไทยได้ไหมทั้งพื้นที่เลย ที่ไหนที่ดินอาจจะดีไม่เท่า น้ำน้อยกว่านั้นก็ปลูกข้าวรอง ข้าวขาว ข้าวคุณภาพนะ ตรงไหนที่มันมีพื้นที่เหมาะสมปลูกไรซ์เบอร์รี่ ก็ปลูกไรซ์เบอร์รี่ แยกเป็นอย่างนี้มันใช้น้ำต่างกัน ใช้ดินต่างกัน และเอาไปผลิตสินค้าที่ต่างกัน มันก็แยกกันขาย ถ้าทุกคนมองเห็นอันนี้ดีก็ปลูก เฮโลกันหมด มันราคามันก็ตก เพราะมันเยอะ มันต้องแข่งขันกันเอง ไปคิดเรื่องของการตลาดด้วย ถึงบอกว่า ชาวไร่ ชาวนา หรือเกษตรกรต้องเรียนรู้การตลาด การเงินการทองด้วยนะ
เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญหาคือ ผู้ที่ประชาชนที่ขาดรายได้จากกลุ่มแรกคือ กลุ่มที่เสียประโยชน์ จากการที่รัฐบาลบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดระเบียบ วางรากฐาน การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม พูดง่ายๆ คือ เงินที่จากการเกิดจากธุรกิจสีเทาๆ นะ ประชาชนไม่ทราบหรอกครับ บางคนไม่ทราบหรอกว่า ผิด หรือถูกด้วยซ้ำไป เห็นเขาขายได้ ก็ขายด้วย ทำนองนี้ เยอะๆๆ ตามถนนหนทางเต็มไปหมด ถูกเปล่า บางคนไม่ทราบ ขายก็ขาย พอไปจับ ก็บอกรังแกประชาชน มันก็ไม่ใช่นะ ต่างประเทศเขาก็มีระเบียบนะ เราต้องช่วยกันหาที่อยู่ให้เขา รัฐก็พยายามหาที่อยู่ไป และมันจะยังไง มันจะอยู่อย่างนี้ วงจรอยู่อย่างนี้ ผมต้องขอโทษ ถ้าบางครั้ง ผู้ปฏิบัติข้างล่างทำไปเกิดความเดือดร้อน บางครั้งทำแรงเกินไป อะไรไม่รู้หล่ะ ผมไม่ได้ลงปฏิบัติเอง แต่นโยบายเป็นเรื่องของผม ความคิดที่ผมสั่งการลงไป และเป็นมติของ ครม. แต่อยู่ที่การปฏิบัติจะทำยังไงให้พี่น้องเข้าใจ และดูแลเขาอย่างไร อันนี้ ผมฝากถึงข้าราชการทุกกระทรวงนะครับ ถึงระดับล่าง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เหล่านี้ ต้องชี้แจงประชาชนให้เข้าใจว่า ถ้ามันจะเกิดตรงนี้ กระทบตรงไหน จะทำยังไง กฎหมายฉบับนี้เขาเขียนมาเพื่ออะไร ใครได้ประโยชน์ ไม่ใช่เป็นกฎหมายที่เขียนออกมาเพื่อบังคับประชาชน มันไม่ใช่ เขียนมาให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข กฎหมายเขามีไว้ให้จัดระเบียบสังคม ให้คนหมู่มากอยู่ร่วมกันได้ ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน และประชาชนต้องไม่ได้รับความเดือดร้อนสำหรับกฎหมายฉบับนั้น ถ้าทำถูกต้อง อันนี้พอทุกคนเดือดร้อน เพราะเคยทำไม่ถูกต้องมาตลอด มันก็เป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐ เจ้าหน้าที่ ประชาชน ทำยังไง รัฐก็ต้องแก้ ประชาชนต้องแก้ไขตัวเองกันทั้งคู่
เพราะฉะนั้น ต้องดูแลนะครับ ชาวไร่ ชาวนา ผู้ใช้แรงงาน ผู้ด้อยโอกาสในสังคม รัฐบาลต้องช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนนะครับ สนับสนุนด้วยการสร้างโอกาส สร้างความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับตนเองและชุมชนให้ได้ ที่ผ่านมา ผมคิดว่ามันขาดโอกาสนะ ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงทรัพยากร ทุกอย่างเลย ขาดโอกาส รัฐต้องทำตรงนี้ ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะ อปท. สำคัญที่สุดนะ อย่าเลือกพวก อย่าเลือกกลุ่ม อย่าเลือกพี่น้อง อย่าเลือกกลุ่มผลประโยชน์ ต้องดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมนะ อปท. ไม่อย่างนั้นจะเรียกร้องกระจายอำนาจแล้วทำไม่ได้ วันนี้ต้องกระจายอำนาจก่อน ดูแลที่ไหนได้ก็รับไป เรื่องไหนทำได้ดีก็รับไป ตรงไหนที่ทำไม่ได้ต้องบอก จะได้ให้ส่วนไหนเขาทำไป วันนี้ต้องยอมรับว่า ยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ มีไม่กี่แห่งที่เข้มแข็งพอ ก็ว่ากันต่อไปในเรื่องการปฏิรูป
ฉะนั้นก็ขอให้ทุกคนมีความสุขอย่างพอเพียงพอก่อน เอาแนวทางพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมา แก้ไขทุกอย่าง เช่น เกษตรกรที่ปลูกข้าวมากว่า 30 ปี ขาดทุนมาตลอด รายรับไม่เพียงพอในการเลี้ยงดูครอบครัว ก็เปลี่ยนมาทำแปลงมะลิบ้าง หารายได้เป็นการเพิ่มเติม หรือปลูกพืชอะไรก็แล้วแต่ พบว่ามีรายได้ที่มีกว่าการทำนา เช่น ดอกมะลิ ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 100 บาท โดยเฉลี่ยวันหนึ่งขายได้ประมาณ 8- 10 กิโลกรัม รายได้ต่อวัน 800 บาท เก็บผลได้ทุกวัน ราคาขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท ก็ได้ 1,600 บาท ก็มีการอบรมเกษตรกรในตำบลประมาณ 5 ครอบครัว เป็นตัวอย่างที่ดีต่อเกษตรกร ไม่ใช่ปลูกมะลิตามกันหมดนะ เดี๋ยวก็ราคาตกอีก ไปทำอย่างอื่น เช่น ปลูกผัก ปลูกมะนาว มีคนต่อว่า ว่าแก้ปัญหาโดยการให้ชาวบ้านขุดบ่อเอง บางอย่างท่านต้องช่วยตัวเอง รัฐไปทำให้ท่านไม่ได้หรอก เพราะเป็นกติกาการค้าเสรี เราเป็นประเทศประชาธิปไตย วันนี้ผมก็ใช้ประชาธิปไตยขับเคลื่อนอยู่ ประชาธิปไตยบังคับใครไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องการค้าขาย ต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ก่อน แบ่งปัน ค้าขาย ตั้งบริษัท ตั้งห้างหุ้นส่วน มีขั้นตอนอยู่แล้ว
ขอชมเชยทุกกลุ่ม ทุกสหกรณ์ และเกษตกร ที่เห็นในทีวีมีทุกวัน ช่อง 11 ก็มี ช่อง 5 ก็เอามาออก ไทยพีบีเอสก็มี อย่าดูละครกันอย่างเดียว ดูสิ่งที่เป็นประโยชน์นี้บ้าง เอาตัวอย่างเขาไป อปท.ก็ต้องพัฒนาตัวเอง หากระบวนการเรียนรู้ว่าที่ไหนมี พาลูกบ้านไปดูเขา คิดอย่างนี้บ้าง ก็จะเปิดโลกทัศน์ของตัวเอง คิดว่าทำอย่างไรพื้นที่เราจะเป็นอย่างนี้ มันอยู่ไม่ได้หรอกวันหน้าเพราะค่าครองชีพสูงขึ้น โลกเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยี แล้วท่านจะไปอยู่กับสิ่งที่เป็นเกษตรกรอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ ท่านต้องทำทั้ง 2 อย่างด้วย ไม่งั้นก็ต้องรอขายผลิตผลปีละไม่กี่ครั้ง แล้วราคาก็ตก ต้องมีงานเสริม มีอาชีพ มีรายได้ให้ลูกหลานท่าน ท่านต้องเตรียมการแต่ละครอบครัว
เรื่องการจัดงานไม้ดอกไม้ประดับ ปลาสวยงาม ที่ตลาดเก่าของเรา ตลาดคลองผดุงฯ มีทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ และปลาสวยงาม มีทั้งการจัดแจกัน มีทั้งพันธุ์ดอกไม้ กระถาง ราคาถูก จากวันนี้ถึงวันที่ 28 มิถุนายน 10.00 น.-19.00 น. เชิญชวนผที่รักธรรมชาติ รักการทำสวนเป็นงานอดิเรก แลาไทยสวยงามเยอะ วันนี้ปลากัดเป็นสิ้นค้าส่งออก ปลากัดไทย ปลากัดจีน เราเพาะพันธุ์เก่งมาก ก็ให้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะหาความรู้ในการดูแลต้นไม้ เลี้ยงปลา อยากให้เป็นตลาดแห่งความรู้ด้วย ไม่ใช่การค้าขายอย่างเดียว ให้ กทม.เร่งเรื่องพาคนมาเที่ยว น้ำจะน้อยก็พร่องน้ำไว้ไง ไม่เป็นไร เรือลอยน้ำอยู่แล้ว น้ำจะมากน้อยเรือก็มาได้ จะมารอน้ำมากๆ ก็รอกันไปเรื่อย ทุกเรื่องก็รอกันหมด ก็ไม่ทันที่สั่งไปแล้ว ที่สั่งไปแล้วคิดใคร่ครวญแล้วต้องทำ ถือว่าเป็นโยบาย เป็นคำสั่ง ถ้าไม่ทำก็มีปัญหา ทำให้ได้ ไม่ใช่สั่งไปแล้วก็ติดนู่นนี่ ถ้าไม่ได้เอาเรือกินน้ำลึกมา มันติดตรงไหนก็ไปแก้ตรงนั้น แค่นั้นเอง คิดแบบนี้จะไปได้ ให้เร่งทำภายในเดือนนี้
เรื่องงานถนนสายวัฒนธรรมเช่นเดียวกัน ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีความสำเร็จอย่างดี รายได้สุทธิประมาณ 25 ล้าน และคืนนี้จะมีการเริ่มมหกรรมกีฬาของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 28 มีสิงคโปร์ จะมีตั้งแต่วันที่ 5-16 มิถุนายน วันนี้จะมีการถ่ายทอดพิธีเปิด ช่อง 3 หลังรายนี้ผมเลื่อนขึ้นมาก่อน อยากให้พี่น้องได้ดู ได้ส่งแรงใจ เวลา 18.30 น.-22.00 น.ให้ร่วมกันส่งแรงใจ กำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทย ผมพบเขามาแล้ว เขามีใจเต็ม 100 ผมบอกทุกคนต้องตั้งใจเป็นที่ 1 หมด แต่ผลการแข่งขันเป็นอย่างไร ผมก็ให้กำลังใจเขาอยู่แล้ว ต้องเรียกว่าเป็นสู้ศึกกีฬานะ และในประเทศก็สู้ศึกกับความยากจนอยู่ขณะนี้ กับเศรษฐกิจ ทุกคนอยู่ในท่ามกลางศึกทั้งสิ้น ผมขอนำแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชทานไว้ กับคนไทย ประเทศไทยมาใช้ ประโยชน์อย่าให้คนอื่นเขาเอาไปใช้มาก มากกว่าเราใช้เองเลย ขอบคุณนะครับ สวัสดีครับ สำหรับวันนี้ ขอบพระคุณครับ