นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และการทำการประมงผิดกฎหมายเป็นวาระแห่งชาติ โดยให้ทุกส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ร่วมดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ตลอดจนให้ดำเนินการตามมาตรการในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงผิดกฎหมาย (IUU) ซึ่งรัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ขึ้นในส่วนกลาง และจัดตั้งศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่ จัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (PIPO) จำนวน 28 ศูนย์ และศูนย์ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่เรือประมงแบบเบ็ดเสร็จ ประจำในพื้นที่จังหวัดชายทะเลทั้ง 22 จังหวัด
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายตามนโยบายรัฐบาลและให้การปฏิบัติงานในระดับพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง จึงได้สั่งการให้ 22 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานในพื้นที่เพื่อสนับสนุนภารกิจต่างๆ ของ ศปมผ. และ ศรชล. โดยกำชับทุกหน่วยงานในบังคับบัญชาและหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลให้ความร่วมมือและประสานการปฏิบัติงานต่างๆ ที่ได้รับการร้องขอหรือสั่งการจากศูนย์บัญชาการฯ และศูนย์อื่นๆ ที่ตั้งขึ้นในพื้นที่ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมปฏิบัติหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก
ทั้งนี้ ให้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องติดตามรับฟังข้อมูลข่าวสาร ข้อสั่งการต่างๆ อย่างใกล้ชิด และให้เร่งประชาสัมพันธ์ ชี้แจง ทำความเข้าใจกับภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งเร่งรัดดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเลด้วยความรวดเร็ว และถูกต้อง ซึ่งจะสิ้นสุดไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน นี้
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทยจึงได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดชายทะเล ยึดถือปฏิบัติตามนโยบายและข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมร่วมสนับสนุนการดำเนินงานในทุกๆ ด้านร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาล
ดังนั้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายตามนโยบายรัฐบาลและให้การปฏิบัติงานในระดับพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง จึงได้สั่งการให้ 22 จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเล บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานในพื้นที่เพื่อสนับสนุนภารกิจต่างๆ ของ ศปมผ. และ ศรชล. โดยกำชับทุกหน่วยงานในบังคับบัญชาและหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลให้ความร่วมมือและประสานการปฏิบัติงานต่างๆ ที่ได้รับการร้องขอหรือสั่งการจากศูนย์บัญชาการฯ และศูนย์อื่นๆ ที่ตั้งขึ้นในพื้นที่ และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมปฏิบัติหน้าที่ ณ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก
ทั้งนี้ ให้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องติดตามรับฟังข้อมูลข่าวสาร ข้อสั่งการต่างๆ อย่างใกล้ชิด และให้เร่งประชาสัมพันธ์ ชี้แจง ทำความเข้าใจกับภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งเร่งรัดดำเนินการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเลด้วยความรวดเร็ว และถูกต้อง ซึ่งจะสิ้นสุดไม่เกินวันที่ 30 มิถุนายน นี้
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกระทรวงมหาดไทยจึงได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่ติดชายทะเล ยึดถือปฏิบัติตามนโยบายและข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด โดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมร่วมสนับสนุนการดำเนินงานในทุกๆ ด้านร่วมกับทุกหน่วยงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายบังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาล