“บิ๊กต๊อก” เชิญ ศปมผ. ประชุม ถกปัญหาประมงผิดกฎหมาย พร้อมทำงานร่วมกัน เพื่อสนับสนุนข้อมูลการทำงาน
วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เป็นประธานการประชุมหารือเกี่ยวกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง้ข้าร่วมประชุม อาทิ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และ กองทัพเรือ เป็นต้น ซึ่งใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งให้ ศอตช. ตรวจสอบการกระทำความผิดเรื่องการค้าแรงงานผิดกฎหมาย ซึ่งเชื่อมโยงกับเรื่องการค้ามนุษย์ แต่เป็นการแก้ปัญหาการทำประมงโดยผิดกฎหมาย ดังนั้น ศอตช. จึงเชิญ ศปมผ. ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ มาชี้แจงและให้ข้อมูล เพื่อหาช่องทางในการประสานงานและขอข้อมูลมาสนับสนุนการทำงานของ ศอตช. เนื่องจาก ศปมผ. เป็นศูนย์ที่แก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในภาพรวม
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาในปัจจุบันมีหน่วยงานหลักอย่าง ดีเอสไอ และ ปปง. ที่ดูแลและมีกฎหมายเฉพาะในการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับปัญหาการค้าแรงงานประมงบนเกาะอำบล ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ 4 คดี อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ปปง. ได้ชี้แจงข้อมูลว่ามีการขึ้นบัญชีอายัดเรือประมงไว้จำนวนหลายลำ แต่ไม่ทราบว่า หลังจากมีคำสั่งอายัดแล้ว เรืออยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งขณะนี้ ศปมผ. กำลังรวบรวมข้อมูลเรือทุกลำ โดยให้เจ้าของเรือทุกลำมาขึ้นทะเบียนเรือ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบเมื่อมีการกระทำผิด เช่น กรณีการขึ้นทะเบียนรถยนต์ หากพบว่ากระทำผิด เพียงทราบทะเบียนรถก็สามารถอายัดรถที่วิ่งบนท้องถนนได้ รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินด้วย
