ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (11-15พ.ค.) เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนี SET ปรับเพิ่มขึ้น โดยได้อานิสงส์จากหุ้นกลุ่มพลังงาน และแรงซื้อของกองทุนในประเทศ
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 33.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปีครั้งใหม่ ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่ได้รับแรงกระตุ้นจากการปรับลดดอกเบี้ยของจีน และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ
นอกจากนี้ แรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติก็กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์หลังมีแรงขายเงินดอลลาร์บางส่วนจากผู้ส่งออก ขณะที่เงินดอลลาร์ก็มีปัจจัยลบจากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวัง ซึ่งมีผลทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังมีความไม่แน่นอน
สำหรับในวันศุกร์ (15 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 33.57 เทียบกับระดับ 33.47 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 พ.ค.)
ขณะที่สัปดาห์ถัดไป (18-22 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.30-33.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยในประเทศที่ตลาดรอจับตา คือ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/58 ของไทย ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพฤษภาคม ยอดขายบ้านมือสอง ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเมษายน และบันทึกการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 28-29 เมษายน นอกจากนี้ ตลาดอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่การเจรจาของกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ และการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคม เบื้องต้น ของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน
สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 33.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปีครั้งใหม่ ท่ามกลางแรงขายสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่ได้รับแรงกระตุ้นจากการปรับลดดอกเบี้ยของจีน และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ
นอกจากนี้ แรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติก็กดดันให้เงินบาทอ่อนค่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เงินบาทดีดตัวกลับมาแข็งค่าขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์หลังมีแรงขายเงินดอลลาร์บางส่วนจากผู้ส่งออก ขณะที่เงินดอลลาร์ก็มีปัจจัยลบจากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวัง ซึ่งมีผลทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังมีความไม่แน่นอน
สำหรับในวันศุกร์ (15 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 33.57 เทียบกับระดับ 33.47 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (8 พ.ค.)
ขณะที่สัปดาห์ถัดไป (18-22 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.30-33.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยปัจจัยในประเทศที่ตลาดรอจับตา คือ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/58 ของไทย ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญประกอบด้วย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนพฤษภาคม ยอดขายบ้านมือสอง ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้าง ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเมษายน และบันทึกการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 28-29 เมษายน นอกจากนี้ ตลาดอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมที่การเจรจาของกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ และการรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพฤษภาคม เบื้องต้น ของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน
