สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 25 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลยอดค้าปลีกที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐ ฉุดให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และเพิ่มความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะเลื่อนแผนขึ้นดอกเบี้ยออกไป ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 25.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,218.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนเม.ย. ออกมาตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์คาดว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้นด้วย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานที่ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐทรงตัวในเดือนเม.ย. อันเป็นผลมาจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 13 พ.ค. แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 7.74 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 18,060.49 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.64 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 2,098.48 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 5.5 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 4,981.69 จุด
การซื้อขายในวันพุธผันผวนอย่างมากหลังจาก กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเผยว่า ยอดขายภาคค้าปลีกและการบริการของสหรัฐฯประจำเดือนเม.ย. อยู่ที่ 4.368 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อเดือนมี.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) หรือไลต์สวีตครูด ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้แรงหนุนในระหว่างวันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 60.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 66.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 484.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งตรงข้ามกับนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 25.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,218.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนเม.ย. ออกมาตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์คาดว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวได้ฉุดสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้นด้วย
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อรายงานที่ว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐทรงตัวในเดือนเม.ย. อันเป็นผลมาจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่าย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 13 พ.ค. แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 7.74 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 18,060.49 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.64 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 2,098.48 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 5.5 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 4,981.69 จุด
การซื้อขายในวันพุธผันผวนอย่างมากหลังจาก กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเผยว่า ยอดขายภาคค้าปลีกและการบริการของสหรัฐฯประจำเดือนเม.ย. อยู่ที่ 4.368 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อเดือนมี.ค.
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) หรือไลต์สวีตครูด ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้แรงหนุนในระหว่างวันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 60.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 66.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 484.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งตรงข้ามกับนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล