สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... ในวาระที่ 3 โดยมีมติเห็นชอบ 183 คะแนน ไม่เห็นด้วย 1 คะแนน งดออกเสียง 3 คะแนน และไม่มีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน ทำให้ พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านการเห็นชอบให้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว คือ การจัดตั้งการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. เพื่อเป็นองค์กรกลางในการรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการเกี่ยวกับยางพาราของประเทศ รวมถึงผลิตผลจากยางพาราให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะต้องโอนบรรดากิจการ เงิน ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน ภารผูกพัน และงบประมาณของกองทุนสงเคราะห์ทำสวนยาง (สกย.) องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) และสถาบันวิจัยยาง เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ กยท. เพื่อความเป็นเอกภาพและเป็นระบบอย่างครบวงจร
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังกำหนดให้จัดตั้ง "กองทุนพัฒนายางพารา" ใน กยท. ซึ่งจะต้องถูกจัดสรรตามหลักเกณฑ์ ประกอบด้วย 1. ไม่เกิน 10% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกิจการของ กยท. 2. ไม่เกิน 20% เป็นการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อการปลูกแทน 3. ไม่เกิน 35% เป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยาง 4. ไม่เกิน 5% เป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนด้านการเงิน วิชาการการศึกษาวิจัย 5. ไม่เกิน 7% เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง และ 6. ไม่เกิน 3% เป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว คือ การจัดตั้งการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. เพื่อเป็นองค์กรกลางในการรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการเกี่ยวกับยางพาราของประเทศ รวมถึงผลิตผลจากยางพาราให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะต้องโอนบรรดากิจการ เงิน ทรัพย์สิน สิทธิ หนี้สิน ภารผูกพัน และงบประมาณของกองทุนสงเคราะห์ทำสวนยาง (สกย.) องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) และสถาบันวิจัยยาง เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ กยท. เพื่อความเป็นเอกภาพและเป็นระบบอย่างครบวงจร
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังกำหนดให้จัดตั้ง "กองทุนพัฒนายางพารา" ใน กยท. ซึ่งจะต้องถูกจัดสรรตามหลักเกณฑ์ ประกอบด้วย 1. ไม่เกิน 10% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกิจการของ กยท. 2. ไม่เกิน 20% เป็นการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อการปลูกแทน 3. ไม่เกิน 35% เป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุน และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางและผู้ประกอบกิจการยาง 4. ไม่เกิน 5% เป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนด้านการเงิน วิชาการการศึกษาวิจัย 5. ไม่เกิน 7% เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง และ 6. ไม่เกิน 3% เป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง
