สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดไนเม็กซ์ นิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในเยเมน
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ โอเปกออกรายงานประจำเดือนพ.ค.คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปรับเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลจากที่คาดการณ์ในเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ โอเปกยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันของโอเปกในปีนี้เช่นกัน อย่างไรก็ดี โอเปกคาดว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกในปีหน้าจะมากกว่าอุปสงค์ในตลาด
ขณะที่ราคาทองคำเมื่อวันอังคาร(12พ.ค.) ปิดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงและความผันผวนในตลาดพันธบัตรยุโรป กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,192.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากรมว.คลังกรีซได้ออกมายอมรับว่า กรีซอาจเผชิญปัญหาการขาดสภาพคล่อง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 12 พ.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 36.94 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 18,068.23 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 6.21 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 2,099.12 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 17.38 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,976.19 จุด
หุ้นสหรัฐฯดิ่งแรงตั้งแต่ช่วงต้นของการซื้อขาย จากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (bond yield) แต่ดัชนีเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนปิดตลาด เนื่องจากค่า bond yield ลดลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะปิดตลาดในแดนบวก
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ โอเปกออกรายงานประจำเดือนพ.ค.คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยปรับเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรลจากที่คาดการณ์ในเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ โอเปกยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันของโอเปกในปีนี้เช่นกัน อย่างไรก็ดี โอเปกคาดว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกในปีหน้าจะมากกว่าอุปสงค์ในตลาด
ขณะที่ราคาทองคำเมื่อวันอังคาร(12พ.ค.) ปิดสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงและความผันผวนในตลาดพันธบัตรยุโรป กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,192.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากรมว.คลังกรีซได้ออกมายอมรับว่า กรีซอาจเผชิญปัญหาการขาดสภาพคล่อง
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 12 พ.ค. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 36.94 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 18,068.23 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 6.21 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 2,099.12 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 17.38 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,976.19 จุด
หุ้นสหรัฐฯดิ่งแรงตั้งแต่ช่วงต้นของการซื้อขาย จากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (bond yield) แต่ดัชนีเพิ่มขึ้นในช่วงก่อนปิดตลาด เนื่องจากค่า bond yield ลดลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะปิดตลาดในแดนบวก