เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทและราคาน้ำมันวานนี้ (18 มี.ค.) พุ่งแรง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณอย่างระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยนี้ฉุดดอลลาร์อ่อนค่าลงและผลักให้ทองคำขยับขึ้นเล็กน้อย
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 227.11 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,076.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.22 จุด (1.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,099.50 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 45.39 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,982.83 จุด
แม้เฟดตัดคำว่า “จะยังอดทน” เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ย ส่งสัญญาณว่ายังมีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงกลางปี หลังจากคงในระดับใกล้ 0 เปอร์เซ็นต์มานานกว่า 6 ปี
แต่อีกด้านหนึ่งของถ้อยแถลงเฟดที่ย้ำว่าจะยังไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ได้กลายเป็นแรงสนับสนุนต่อวอลล์สตรีท
ด้านราคาน้ำมันในวันพุธ (18 มี.ค.) พุ่งขึ้นแรง หลังถ้อยแถลงระมัดระวังของเฟด กลบความกังวลต่อภาวะอุปสงค์อันอ่อนแอของสหรัฐฯ ที่พบว่าสต๊อกเชื้อเพลิงสำรองยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครั้งใหม่ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ถ้อยแถลงเฟดที่บอกว่าจะยังไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักให้ราคาน้ำมันวานนี้ ปิดบวกอย่างแรง
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (18 มี.ค.) มีขึ้นแม้กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลว่าในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 มีนาคม คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้นถึง 9.6 ล้านบาร์เรล ทำให้สต๊อกน้ำมันดิบของประเทศแตะระดับสูงสุดที่ไม่เคยพบเห็นมาอย่างน้อยๆ ก็ 80 ปี บ่งชี้ว่าอุปสงค์อ่อนแออย่างมาก
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ตามหลังคำแถลงของเฟด ผลักให้ราคาทองคำวานนี้ (18 มี.ค.) ปิดบวกเช่นกัน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,151.30 ต่อออนซ์