เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปรับลงในวันศุกร์ (1 พ.ค.) หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่วนทองคำปิดลบคาดอุปสงค์อ่อนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุด ขณะที่วอลล์สตรีทขยับขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 59.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 66.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกัดเซาะอุปสงค์ เนื่องจากน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
นักวิเคราะห์มองดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 9 สัปดาห์นี้ อาจเป็นสัญญาณเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังมีเสถียรภาพ
ปัจจัยนี้ทำให้อุปสงค์ต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำลดลง และส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) ขยับลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 7.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,174.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (1 พ.ค.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ภายใต้การนำของแอปเปิลและหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ เช่นเดียวกับภาคอุตสากรรมส่วนใหญ่
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 183.54 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,024.06 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.78 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,108.29 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 63.97 จุด (1.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,5005.39 จุด
แอปเปิล ที่หนึ่งวันก่อนหน้านี้ขยับลงร้อยละ 5.7 ฟื้นตัวกลับมาปิดบวกร้อยละ 3.0 ส่วนไกลีด ไซเอนซ์ ปิดบวกร้อยละ 4.5 หลังรายงานมีรายได้สุทธิในช่วงไตรมาสแรกเพิ่มเกือบ 2 เท่าเป็น 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านเอ็มเจน ปิดบวกร้อยละ 1.6 ไบโอเจน ปิดบวกร้อยละ 3.3 และ เซลจีน ปิดบวกร้อยละ 2.3
ส่วน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ปิดบวกร้อยละ 1.0 หลังรายงานมียอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 5.9 เป็น 269,056 คัน เช่นเดียวกับ ฟอร์ด มอเตอร์ ที่ขยับขึ้นร้อยละ 0.1 หลังมียอดขายเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เป็น 222,498 คัน