พระพุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมนึก สันติภาตะนันท์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.พหลโยธิน เพื่อให้ติดตามความคืบหน้ากรณีดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ฉ้อโกงประชาชน
พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนกรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ เนื่องจากขาดเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาตามที่ได้ร้องทุกข์ไว้ พร้อมกับนำเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดของวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยเอกสารดังกล่าวประกอบไปด้วย พระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จำนวน 6 ฉบับ ที่ได้ลิขิตให้พระธัมมชโยต้องปาราชิกขาดจากความเป็นสงฆ์ ซึ่งเอกสารดังกล่าวรับรองความถูกต้องจากสำนักงานเลขาธิการสมเด็จพระสังฆราช คำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 378/2542 และ 50612/2542 และบันทึกขอความเห็นขอบจับกุม หรือออกหมายจับ ของกองบังคับการปราบปราม ลงวันที่ 23 ส.ค. 2542 ซึ่งมีความเห็นสรุปชัดเจนว่า พระธัมมชโย มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งเจ้าอาวาส ยักยอกหรือลักเอาเงินของวัดพระธรรมกายไปโดยทุจริต และสำเนาคำฟ้องคดีอาญาหมายเลขดำที่ 11651 และ 14735/2542 ของศาลอาญา ซึ่งพนักงานอัยการได้ลงรายละเอียดในคำฟ้องอย่างชัดแจ้งแล้วว่าพระธัมมชโยกระทำความผิดอย่างไร
ทั้งนี้เอกสารทั้งหมดที่นำมาให้แสดงให้เห็นว่าพระธัมมชโยกระทำความผิดมาตั้งแต่ปี 2542 รวมทั้งวันนี้จะติดตามทวงถามความคืบหน้ากรณีที่พระมหาโชว์ ทสฺสนีโย แจ้งความเอาผิดว่าพุทธอิสระไปตบทรัพย์ ซึ่งคดีนี้ยังไม่มีการเรียกสอบปากคำอาตมา ซึ่งหากไม่มีการสอบปากคำก็จะแจ้งความกลับพระมหาโชว์ ว่าแจ้งความเท็จ อีกทั้งทวงถามว่าจะดำเนินคดีต่อไปอย่างไรซึ่งหากพนักงานสอบสวนเพิกเฉย จะแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.ท.สมนึก กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก อีกทั้งรอหนังสือตอบกลับจากทาง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถึงที่มาของเอกสารว่า ได้มีการปรากฏจริงตามที่พระพุทธอิสระได้กล่าวอ้างว่าหรือไม่
พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนกรณีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย แต่งกายเลียนแบบสงฆ์ เนื่องจากขาดเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนาตามที่ได้ร้องทุกข์ไว้ พร้อมกับนำเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดของวัดพระธรรมกาย และพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มามอบให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยเอกสารดังกล่าวประกอบไปด้วย พระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จำนวน 6 ฉบับ ที่ได้ลิขิตให้พระธัมมชโยต้องปาราชิกขาดจากความเป็นสงฆ์ ซึ่งเอกสารดังกล่าวรับรองความถูกต้องจากสำนักงานเลขาธิการสมเด็จพระสังฆราช คำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 378/2542 และ 50612/2542 และบันทึกขอความเห็นขอบจับกุม หรือออกหมายจับ ของกองบังคับการปราบปราม ลงวันที่ 23 ส.ค. 2542 ซึ่งมีความเห็นสรุปชัดเจนว่า พระธัมมชโย มีความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งเจ้าอาวาส ยักยอกหรือลักเอาเงินของวัดพระธรรมกายไปโดยทุจริต และสำเนาคำฟ้องคดีอาญาหมายเลขดำที่ 11651 และ 14735/2542 ของศาลอาญา ซึ่งพนักงานอัยการได้ลงรายละเอียดในคำฟ้องอย่างชัดแจ้งแล้วว่าพระธัมมชโยกระทำความผิดอย่างไร
ทั้งนี้เอกสารทั้งหมดที่นำมาให้แสดงให้เห็นว่าพระธัมมชโยกระทำความผิดมาตั้งแต่ปี 2542 รวมทั้งวันนี้จะติดตามทวงถามความคืบหน้ากรณีที่พระมหาโชว์ ทสฺสนีโย แจ้งความเอาผิดว่าพุทธอิสระไปตบทรัพย์ ซึ่งคดีนี้ยังไม่มีการเรียกสอบปากคำอาตมา ซึ่งหากไม่มีการสอบปากคำก็จะแจ้งความกลับพระมหาโชว์ ว่าแจ้งความเท็จ อีกทั้งทวงถามว่าจะดำเนินคดีต่อไปอย่างไรซึ่งหากพนักงานสอบสวนเพิกเฉย จะแจ้งข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.ท.สมนึก กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก อีกทั้งรอหนังสือตอบกลับจากทาง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถึงที่มาของเอกสารว่า ได้มีการปรากฏจริงตามที่พระพุทธอิสระได้กล่าวอ้างว่าหรือไม่