xs
xsm
sm
md
lg

ขนส่งฯ จ่ออบรม 15 ชม.ปรับข้อสอบใบขับขี่ให้ยากขึ้นหวังลดอุบัติเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมกำลังศึกษาและจัดทำเนื้อหาวิชาหลักสูตรการอบรมภาคทฤษฎีสำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ (ใบขับขี่) รายใหม่ ให้มีความรู้ด้านกฎหมายจราจรและการขับรถที่ปลอดภัยเข้มข้นขึ้น โดยเพิ่มจาก 3 หัวข้อ เป็น 15 หัวข้อ และเพิ่มเวลาการอบรมจาก 4 ชั่วโมง เป็น 15 ชั่วโมง โดยเนื้อหาใหม่จะช่วยปลูกฝังให้เกิดวินัยการขับขี่อย่างปลอดภัย และลดอุบัติเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้ามาขอทำใบขับขี่ในช่วงนี้ ยังใช้กรอบเวลาอบรมและเนื้อหาเดิมอยู่ แต่หากการปรับปรุงเนื้อหาใหม่เสร็จ ขนส่งทางบกจะประกาศเป็นทางการ โดยขนส่งทางบกตั้งใจปรับปรุงเนื้อหาทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ ตลอดจนสมรรถภาพร่างกายและจิตใจให้เข้มข้นขึ้น เพื่อให้พร้อมตามหลักสากลก่อนเข้าทดสอบ รวมทั้งหลังจากนี้จะมีแนวปฏิบัติสำหรับกำกับดูแลพฤติกรรมหลังได้รับใบขับขี่เพิ่มอีกด้วย

นายธีระพงษ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันแนวทางปฏิบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถยังคงดำเนินการอบรมตามหลักสูตรที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดโดยผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถใหม่ต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกายผ่านอบรมหลักสูตรจำนวน 4 ชั่วโมง ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 ชั่วโมง การขับรถอย่างปลอดภัยจำนวน 1 ชั่วโมง และมารยาทในการขับรถจำนวน 1 ชั่วโมง ทดสอบข้อเขียนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ 50 ข้อ เกณฑ์ผ่าน 45 ข้อ และการทดสอบขับรถในสนามสอบมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก รวมระยะเวลาการดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 2 วันทำการ ซึ่งส่วนราชการในสังกัดกรมการขนส่งทางบกทุกแห่งได้ถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบกได้เพิ่มทางเลือกให้ประชาชนสามารถเข้ารับการอบรมที่โรงเรียนสอนขับรถที่กรมการขนส่งทางบกรับรองซึ่งมีกว่า 50 แห่ง หรืออบรมกับสถาบันการศึกษาที่ทำ MOU ร่วมกับกรมการขนส่งทางบกจำนวน 44 แห่ง ซึ่งประชาชนสามารถนำใบรับรองการผ่านการอบรมมาเป็นหลักฐานเพื่อทดสอบขับรถภาคปฏิบัติและได้รับใบอนุญาตขับรถภายใน 1 วัน

ทั้งนี้ การออกใบอนุญาตขับรถให้แก่ประชาชน กรมการขนส่งทางบกดำเนินการอยู่บนพื้นฐานแนวคิดที่ต้องการผลิตนักขับขี่ที่มีคุณภาพและใส่ใจความปลอดภัยของทั้งตัวเองและผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นจากตัวผู้ขับขี่เองเป็นสำคัญการเพิ่มความเข้มข้นของหลักสูตรหรือเพิ่มเกณฑ์แบบทดสอบจึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือเพื่อการปลูกฝังจิตสำนึกเท่านั้นส่วนสำคัญอยู่ที่ผู้ขับขี่ซึ่งต้องตระหนักถึงความปลอดภัยอยู่เสมอ
กำลังโหลดความคิดเห็น