วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมนำเสนอร่างพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ปรับปรุงกฎหมายเดิม 2 ฉบับ ที่ใช้มา 22 ปี ให้ทันสมัยและทันกลยุทธ์การตลาดบริษัทบุหรี่ข้ามชาติ กำหนดอายุขั้นต่ำผู้ซื้อจาก 18 ปี เป็น 20 ปี และห้ามขายบุหรี่แบบแบ่งซอง โดยเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้สามารถลดจำนวนเด็กไทยสูบบุหรี่ได้ปีละ 100,000 คน
นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา กล่าวว่า วันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้มีคำขวัญรณรงค์ว่า "หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย" คาดว่าจะช่วยลดจำนวนเยาวชนไทยที่จะติดบุหรี่ใหม่ปีละ 100,000 คน ให้มีจำนวนลดลงได้
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้แก่ การปรับปรุงความหมายของผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ เช่น บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ กำหนดอายุขั้นต่ำผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบเพิ่มขึ้นจากเดิม 18 ปี เป็น 20 ปี และห้ามขายบุหรี่แบบแบ่งซอง ห้ามขายทางอินเทอร์เน็ต ห้ามแสดงราคาผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ จุดขายในลักษณะ จูงใจให้อยากสูบบุหรี่ ห้ามขายในสถานที่ต่างๆ เช่น วัด สถานบริการสาธารณสุข สถานศึกษา สวนสาธารณะ ห้ามโฆษณาและสื่อสารการตลาด เช่น ห้ามแสดงชื่อ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ยาสูบในสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ อินเทอร์เน็ต การประกวดหรือการแข่งขัน เป็นต้น
บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงก่อให้เกิดการเจ็บป่วยไม่ต่ำกว่า 25 โรค ทั้งคนสูบและผู้ที่สูดควัน และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 2 ของคนไทย เด็กเล็กที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง อาจเจ็บป่วยด้วยโรค หลอดลมอักเสบ และปอดบวม หญิงตั้งครรภ์ และทารกที่ได้รับควันบุหรี่มืออย่างต่อเนื่อง จะมีโอกาสเกิดครรภ์เป็นพิษ แท้ง คลอดก่อนกำหนด ในแต่ละปีมีผู้สูบบุหรี่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร 50,710 คน อายุสั้นกว่าคนทั่วไป 12 ปี และจะทนทุกข์ทรมานก่อนเสียชีวิต 2 ปี
นายแพทย์ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา กล่าวว่า วันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้มีคำขวัญรณรงค์ว่า "หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย" คาดว่าจะช่วยลดจำนวนเยาวชนไทยที่จะติดบุหรี่ใหม่ปีละ 100,000 คน ให้มีจำนวนลดลงได้
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้แก่ การปรับปรุงความหมายของผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ครอบคลุมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ เช่น บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ กำหนดอายุขั้นต่ำผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ยาสูบเพิ่มขึ้นจากเดิม 18 ปี เป็น 20 ปี และห้ามขายบุหรี่แบบแบ่งซอง ห้ามขายทางอินเทอร์เน็ต ห้ามแสดงราคาผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ จุดขายในลักษณะ จูงใจให้อยากสูบบุหรี่ ห้ามขายในสถานที่ต่างๆ เช่น วัด สถานบริการสาธารณสุข สถานศึกษา สวนสาธารณะ ห้ามโฆษณาและสื่อสารการตลาด เช่น ห้ามแสดงชื่อ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ยาสูบในสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ อินเทอร์เน็ต การประกวดหรือการแข่งขัน เป็นต้น
บุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงก่อให้เกิดการเจ็บป่วยไม่ต่ำกว่า 25 โรค ทั้งคนสูบและผู้ที่สูดควัน และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 2 ของคนไทย เด็กเล็กที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง อาจเจ็บป่วยด้วยโรค หลอดลมอักเสบ และปอดบวม หญิงตั้งครรภ์ และทารกที่ได้รับควันบุหรี่มืออย่างต่อเนื่อง จะมีโอกาสเกิดครรภ์เป็นพิษ แท้ง คลอดก่อนกำหนด ในแต่ละปีมีผู้สูบบุหรี่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร 50,710 คน อายุสั้นกว่าคนทั่วไป 12 ปี และจะทนทุกข์ทรมานก่อนเสียชีวิต 2 ปี
