ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 27 เม.ย. ในแดนลบ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 42.17 จุด หรือ 0.23% ปิดที่ 18,037.97 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 8.77 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 2,108.92 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กลดลง 31.84 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 5,060.25 จุด
นักลงทุนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ขณะเฝ้ารอบริษัท แอปเปิล ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2015 ซึ่งจะเปิดเผยหลังปิดตลาดในวันจันทร์ โดยตลอด 8 ไตรมาสที่ผ่านมา แอปเปิล มีกำไรมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทุกครั้ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้ารอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบาลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะออกมาในวันพุธ โดยจับตาสัญญาณเรื่องเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 16 เซนต์ หรือ -0.28 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 56.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 64.83 ดอลลาร์
ภาวะราคาน้ำมันเป็นผลจากสถานการณ์ในเยเมน และคาดการณ์ว่าปริมาณคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. พุ่งขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 489 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 80 ปี จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 28.20 ดอลลาร์ หรือ +2.40 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1203.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.36% แตะที่ 96.61 เมื่อวานนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่งหากเฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ก็อาจจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
นักลงทุนเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ขณะเฝ้ารอบริษัท แอปเปิล ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2015 ซึ่งจะเปิดเผยหลังปิดตลาดในวันจันทร์ โดยตลอด 8 ไตรมาสที่ผ่านมา แอปเปิล มีกำไรมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทุกครั้ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเฝ้ารอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบาลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะออกมาในวันพุธ โดยจับตาสัญญาณเรื่องเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 16 เซนต์ หรือ -0.28 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 56.99 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ลดลง 45 เซนต์ ปิดที่ 64.83 ดอลลาร์
ภาวะราคาน้ำมันเป็นผลจากสถานการณ์ในเยเมน และคาดการณ์ว่าปริมาณคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 เม.ย. พุ่งขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 489 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 80 ปี จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน มิ.ย. พุ่งขึ้น 28.20 ดอลลาร์ หรือ +2.40 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1203.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวลง 0.36% แตะที่ 96.61 เมื่อวานนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ซึ่งหากเฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ก็อาจจะสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
