ขณะที่ชาวเนปาลและนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องนอนในที่โล่งเป็นคืนที่ 3 ติดต่อกันหลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อวันเสาร์(25เม.ย.) ความโกรธเคืองต่อการบรรเทาภัยที่ล่าช้าเริ่มปรากฎขึ้น ด้วยเจ้าหน้าที่รัฐบาลทำงานกันอย่างสะเปะสะปะสับสนอลหม่าน ส่วนทีมช่วยเหลือก็เจอปัญหาในการลำเลียงเบียงออกจากท่าอากาศยานกาฐมาณฑุ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากหนีกลับบ้านไปตามหาญาติๆและตรวจสอบบ้านเรือนของตนเองที่ได้รับความเสียหาย
ถนนหลวงสายหลักๆถูกปิดกั้นโดยดินที่ถล่มลงมา หมู่บ้านและชุมนุมหลายแห่งต้องอยู่โดยปราศจากน้ำสะอาดและไฟฟ้าใช้ โดยประชาชนอยู่รอดจากอาหารเหลือและไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโลกภายนอก
ในขณะที่ความช่วยเหลือเริ่มทยอยมาถึงเมืองหลวง ในนั้นรวมถึงเสบียงอาหาร ยา เตนท์และสุนัขดมกลิ่น ทว่าเจ้าหน้าที่กลับประสบปัญหาในการกระจายมันไปปลดเปลื้องทุกข์แก่พื้นที่ประสบภัย เนื่องจากการติดต่อทางโทรศัพท์ขัดข้อง สภาพท้องถนนที่เลวร้าย ขาดเครื่องไม้เครื่องมือ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นต่อเนื่อง
นักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่พักอาศัยอยู่รอบนอกกรุงกาฐมาณฑุ เผยว่าครอบครัวของเธอต้องอพยพไปพักพิงที่สนามเด็กเล่น ใช้แผ่นพลาสติกเป็นที่บังแดด ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีเหตุปล้นสะดมเกิดขึ้น "เราไม่ได้แม้แต่น้ำสักแก้วจากรัฐบาล" เธอบอก "ไม่มีเจ้าหน้าที่สักคนมาตรวจเช็กสุขภาพของเรา ที่นี่เราอยู่โดยตัวของเราเอง"
ชาวบ้านคนหนึ่งในภัคตปุระ เมืองมรดกทางวัฒนธรรมทางตะวันออกของกาฐมาณฑุ บอกว่าประชาชนที่พักอาศัยในค่ายพักพิงเริ่มหงุดหงิดและไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆต่อแนวทางการแจกจ่ายสเบียงของเจาหน้าที่ "มันเป็นการแจกจ่ายแบบส่งเดช แล้วแต่บุญแต่กรรม เสบียงจำเป็นเร่งด่วนที่สุดถูกส่งมาแค่ชุดเล็กๆ จากนั้นทุกคนก็เริ่มแย่งกันหยิบฉวย ไม่มีความร่วมมือไม้ร่วมมือใดๆ"
ในขณะที่ผู้โดยสารหลายร้อยคนยังออกันที่สนามบินนานาชาติของเนปาลในความพยายามให้ได้ตั๋วเครื่องบิน เหล่าเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ประสบปัญหานำเครื่องบินลงจอดและนำเสบียงเหล่านั้นออกจากรันเวย์ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากหนีกลับบ้านไปตามหาญาติๆและตรวจสอบบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย
ถนนหลวงสายหลักๆถูกปิดกั้นโดยดินที่ถล่มลงมา หมู่บ้านและชุมนุมหลายแห่งต้องอยู่โดยปราศจากน้ำสะอาดและไฟฟ้าใช้ โดยประชาชนอยู่รอดจากอาหารเหลือและไม่ได้รับความช่วยเหลือจากโลกภายนอก
ในขณะที่ความช่วยเหลือเริ่มทยอยมาถึงเมืองหลวง ในนั้นรวมถึงเสบียงอาหาร ยา เตนท์และสุนัขดมกลิ่น ทว่าเจ้าหน้าที่กลับประสบปัญหาในการกระจายมันไปปลดเปลื้องทุกข์แก่พื้นที่ประสบภัย เนื่องจากการติดต่อทางโทรศัพท์ขัดข้อง สภาพท้องถนนที่เลวร้าย ขาดเครื่องไม้เครื่องมือ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีอาฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นต่อเนื่อง
นักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่พักอาศัยอยู่รอบนอกกรุงกาฐมาณฑุ เผยว่าครอบครัวของเธอต้องอพยพไปพักพิงที่สนามเด็กเล่น ใช้แผ่นพลาสติกเป็นที่บังแดด ท่ามกลางรายงานข่าวที่ระบุว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีเหตุปล้นสะดมเกิดขึ้น "เราไม่ได้แม้แต่น้ำสักแก้วจากรัฐบาล" เธอบอก "ไม่มีเจ้าหน้าที่สักคนมาตรวจเช็กสุขภาพของเรา ที่นี่เราอยู่โดยตัวของเราเอง"
ชาวบ้านคนหนึ่งในภัคตปุระ เมืองมรดกทางวัฒนธรรมทางตะวันออกของกาฐมาณฑุ บอกว่าประชาชนที่พักอาศัยในค่ายพักพิงเริ่มหงุดหงิดและไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆต่อแนวทางการแจกจ่ายสเบียงของเจาหน้าที่ "มันเป็นการแจกจ่ายแบบส่งเดช แล้วแต่บุญแต่กรรม เสบียงจำเป็นเร่งด่วนที่สุดถูกส่งมาแค่ชุดเล็กๆ จากนั้นทุกคนก็เริ่มแย่งกันหยิบฉวย ไม่มีความร่วมมือไม้ร่วมมือใดๆ"
ในขณะที่ผู้โดยสารหลายร้อยคนยังออกันที่สนามบินนานาชาติของเนปาลในความพยายามให้ได้ตั๋วเครื่องบิน เหล่าเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ประสบปัญหานำเครื่องบินลงจอดและนำเสบียงเหล่านั้นออกจากรันเวย์ เนื่องจากพนักงานจำนวนมากหนีกลับบ้านไปตามหาญาติๆและตรวจสอบบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย