พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนและผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับประชาชน ตามแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5 ยุทธศาสตร์ คือ สงวน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างบูรณาการที่ตอบสนองต่อการพัฒนาและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและเป็นธรรม, บริหารจัดการน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ, รักษาและฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างมีส่วนร่วม, การป้องกันการลดผลกระทบและการปรับตัว เพื่อรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งหมด 11 เรื่อง เช่น แผนปฏิบัติการพื้นที่เป้าหมายป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้หรือ (AO) เน้นพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลุกสวนยางพารา ซึ่งสามารถทวงคืนผืนป่าได้กว่า 90,000 ไร่ นับเป็นผลงานที่มีความชัดเจนและก้าวหน้าในการปฏิบัติการ ขณะที่แผน 6 เดือนต่อจากนี้ จะเน้นการทวงคืนผืนป่า ซึ่งมีเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 3 ล้านไร่ หลังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่กำหนดเป้าหมายเชิงพื้นที่เพื่อยึดคืนที่ดินถูกบุกรุกในเขตป่าของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังดำเนินงานป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย 9 ล้านตัน การจัดที่ดินทำกินแก่ผู้ยากไร้ที่ดินทำกินนำร่อง 53,697 ไร่ การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ 1,228 คดี เนื้อที่ 42,881ไร่ การใช้ประโยชน์ที่ดินในป่าสงวนแห่งชาติ การแก้ปัญหางาช้างตามมติไซเตสแจ้งครอบครอง 38,003 ราย น้ำหนักรวม 200 ตัน การแก้ปัญหาตัดไม้พะยูงและไม้มีค่าปริมาตรไม้ 195.5 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่า 97 ล้านบาท การแก้ปัญหาปะการังในแหล่งท่องเที่ยวและฐานข้อมูลการกัดเซาะชายฝั่ง การแก้ปัญหาภัยแล้งและหาแหล่งน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร การทำโมบายแอพพลิเคชั่นด้านทรัพยากรสิ่งแวดล้อม 13 รายการ และการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและระบบเตือนภัย
นอกจากนี้ ยังดำเนินงานป้องกันและแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย 9 ล้านตัน การจัดที่ดินทำกินแก่ผู้ยากไร้ที่ดินทำกินนำร่อง 53,697 ไร่ การปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ 1,228 คดี เนื้อที่ 42,881ไร่ การใช้ประโยชน์ที่ดินในป่าสงวนแห่งชาติ การแก้ปัญหางาช้างตามมติไซเตสแจ้งครอบครอง 38,003 ราย น้ำหนักรวม 200 ตัน การแก้ปัญหาตัดไม้พะยูงและไม้มีค่าปริมาตรไม้ 195.5 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่า 97 ล้านบาท การแก้ปัญหาปะการังในแหล่งท่องเที่ยวและฐานข้อมูลการกัดเซาะชายฝั่ง การแก้ปัญหาภัยแล้งและหาแหล่งน้ำ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร การทำโมบายแอพพลิเคชั่นด้านทรัพยากรสิ่งแวดล้อม 13 รายการ และการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำและระบบเตือนภัย