ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พ.อ.สมหมาย” หน.ฝ่าย กม.ทภ.2 เผยพอใจคดีโบนันซ่ารุกป่าสงวน ทุกหน่วยเร่งทำงานตามหน้าที่มีความคืบหน้าทุกระยะ เผยหน่วยงานเกี่ยวข้องลงตรวจสอบที่ดิน-บ้านพิธีกรข่าวแล้ว พบหุบลำห้วยสาธารณะชัดเจน และเร่งตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินได้มาโดยชอบหรือไม่ เสนอใช้ ม.44 แก้ไขบุกรุกป่าเขาใหญ่ให้เสร็จสมบูรณ์ ชี้เรื้อรังมานานและทำเป็นขบวนการ ด้าน “มทภ. 2” ลั่นต้องเอาผืนป่าที่ถูกบุกรุกกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสนามแข่งขันรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของ นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจใหญ่และนักการเมืองชื่อดัง บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สรุปผลการตรวจสอบ พบบุกรุกพื้นที่ของรัฐทั้งหมดรวม 166 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่มีการออกเอกสารสิทธิ น.ส. 3 ก. ที่ทางโบนันซ่านำมาแสดงจำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 55 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา บุกรุกพื้นที่สวนป่า 35 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 12 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา พื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เนื้อที่ 57 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา และบุกรุกลำรางสาธารณะเนื้อที่ 4 ไร่ 43 ตารางวา ตามข่าวที่เสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กองทัพภาคที่ 2 พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารแผนที่และภาพถ่ายทางอากาศออกมาตรวจสอบพิกัดและตรวจสอบแนวเขตของสนามแข่งรถโบนันซ่ารวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงอย่างละเอียด ซึ่งเป็นแผนที่ “ผลการตรวจสอบแนวเขตการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน และพื้นที่ ส.ป.ก. กรณีสนามแข่งรถโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา” พร้อมได้กำหนดแผนและเป้าหมายที่เข้าดำเนินการตรวจสอบต่อไป
พ.อ.สมหมายกล่าวว่า การดำเนินคดีบุกรุกป่าของสนามแข่งรถโบนันซ่านั้นกำลังเดินหน้าไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่และอยู่ในชั้นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน จากการติดตามพบว่ามีความคืบหน้าทุกระยะเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งหากสิ่งใดผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ทรัพย์สมบัติของส่วนรวมก็ต้องนำกลับมาเป็นของส่วนรวม ซึ่งรายละเอียดต่างๆ แต่ละหน่วยงานมีข้อมูลของตัวเองอยู่แล้ว
สำหรับกรณีโครงการ “มูนแดนซ์” ถนนธนะรัชต์ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชีมา ซึ่งมีที่ดินและบ้านของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดังอยู่ด้วยนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอให้ฝ่ายทหารร่วมลงตรวจสอบพื้นที่จริงมาแล้วพบว่าโครงการดังกล่าวไม่ใหญ่มากนัก ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินขาย การได้มาซึ่งเอกสารสิทธิที่ดินมีลักษณะเดียวกันกับกรณีของโบนันซ่าคือได้มาจากการเดินสำรวจ ออกให้ในปี 2519 จากนั้นค่อยมาเปลี่ยนเป็นโฉนดภายหลัง
แต่สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่อง คือบริเวณหลังบ้านพิธีกรข่าวชื่อดัง ซึ่งเป็นลำห้วยสาธารณะที่ชาวบ้านเรียกว่า “ห้วยฟ้าผ่า” นั้น ถูกเปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม คือมีการขยายลำห้วยให้กว้างกว่าเดิมแล้วปิดกั้นเป็นเขื่อนใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งโดยปกติธรรมชาติลำห้วยดังกล่าวเป็นลำน้ำสาขาลำตะคอง เมื่อมีน้ำจะไหลลงสู่ลำตะคอง แต่ไม่รู้ว่าใครทำระหว่างโครงการกับเจ้าของบ้าน
ส่วนกรณีโฉนดที่ดินจะได้มาอย่างไร ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ต้องทำการตรวจสอบต่อไป และหลังลงพื้นที่แล้วได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และตอนนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเข้ามา อย่างไรก็ตาม หากดูตามแผนที่แล้ว ในบริเวณโครงการดังกล่าวถูกประกาศให้เป็นป่าไม้ถาวรครอบคลุมทั้งหมด แต่การได้มาซึ่งเอกสารสิทธิถูกต้องหรือไม่ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป
พ.อ.สมหมายกล่าวอีกว่า พื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง รวมเนื้อที่กว้างใหญ่มากประมาณ 280,000 ไร่ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่บางส่วนได้โอนไปให้ ส.ป.ก.
ส่วนที่ปรากฏว่ามีการออกโฉนดให้ในหลายโครงการนั้น เชื่อว่าคงจะมีขบวนการทำให้มันเกิดขึ้นมา ซึ่งนโยบายของผู้บังคับบัญชาจะพุ่งเป้าไปที่การครอบครองของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ เป็นหลัก หากเป็นราษฎรรายเล็กรายน้อยรายย่อยคงต้องดูแลทุกข์สุขเป็นรายๆ แต่ละกรณีไป ซึ่งรายใหญ่ที่เห็นชัดเจนที่เราดำเนินการตรวจสอบไปแล้วคือ โบนันซ่า และยังมีอีกหลายโครงการใหญ่ แต่ขณะนี้เราโฟกัสสนามแข่งรถก่อน ส่วนรายอื่นรวมทั้ง คีรีมายา รีสอร์ท เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบกันไป
ส่วนที่เป็นข่าวว่ากระทรวงยุติธรรมจะลงตรวจสอบพื้นที่คีรีมายา และโครงการอื่นๆ ในสัปดาห์หน้านั้น ตนยังไม่ทราบ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการประสานมา
“อย่างไรก็ตาม กรณีการบุกรุกป่าพื้นที่เขาใหญ่เป็นปัญหามาช้านานมาก ส่วนตัวเห็นว่าควรนำเอามาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 เข้ามาใช้กับกรณีดังกล่าวเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเดินหน้าและแล้วเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย” พ.อ.สมหมายกล่าว
ด้าน พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ในฐานะผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า การทวงคืนผืนป่าในภาคอีสาน โดยเฉพาะผืนป่าที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ดำเนินการเป็นรูปธรรมชัดเจน เพราะเราจะต้องเอาผืนป่าที่ถูกบุกรุกไปกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด เรื่องนี้ถือว่าละเอียดอ่อนมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำชับให้ดูแลป่าต้นน้ำเป็นความเร่งด่วนลำดับแรก และทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีระดับของการเข้าไปดูแลความเร่งด่วนอยู่ ตนอยากฝากให้ผู้ที่เข้าไปแล้วโดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่อยู่กับป่าช่วยกันดูแลป่า เพราะขณะนี้ต้องมองถึงผลกระทบที่จะตามมา หากไม่มีป่าไม้อุณหภูมิในประเทศ และน้ำจะเป็นอย่างไร