xs
xsm
sm
md
lg

ขีดเส้น30วันรื้อทิ้ง"โบนันซ่า" บ้านพิธีกรดังรุกลำห้วย ยึดที่พี่ส.ส.เพื่อไทยคืนหลวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ทหารเผยคดี "โบนันซ่า"รุกป่าคืบหน้า ส่วนที่ดินบ้านพิธีกรข่าวชื่อดัง พบหุบลำห้วยสาธารณะชัดเจน เร่งตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ได้มาถูกต้องหรือไม่ พร้อมเสนอใช้ ม.44 แก้ปัญหารุกป่าเขาใหญ่ ป่าไม้โคราชแปะหนังสือแจ้งโบนันซ่าแสดงหลักฐานใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการจะเข้าไปรื้อทิ้งให้เอง ผู้ว่าฯ โคราชจ่อโอนคดีงาบป่าวังน้ำเขียวให้ตำรวจช่วยทำ ด้านป่าไม้พิษณุโลกนำกำลังยึดที่พี่อดีต ส.ส.เพื่อไทยเพชรบูรณ์คืนหลวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 เม.ย.) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กองทัพภาคที่ 2 พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำเอกสารแผนที่และภาพถ่ายทางอากาศออกมาตรวจสอบพิกัดและตรวจสอบแนวเขตของสนามแข่งรถโบนันซ่า รวมทั้งพื้นที่ใกล้เคียงอย่างละเอียด ซึ่งเป็นแผนที่ "ผลการตรวจสอบแนวเขตการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน และพื้นที่ ส.ป.ก.กรณีสนามแข่งรถโบนันซ่า ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา" พร้อมได้กำหนดแผนและเป้าหมายที่เข้าดำเนินการตรวจสอบ

พ.อ.สมหมาย กล่าวว่า การดำเนินคดีบุกรุกป่าของสนามแข่งรถโบนันซ่า กำลังเดินหน้าไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ และอยู่ในชั้นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน จากการติดตามพบว่ามีความคืบหน้าทุกระยะเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งหากสิ่งใดผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ทรัพย์สมบัติของส่วนรวมก็ต้องนำกลับมาเป็นของส่วนรวม ซึ่งรายละเอียดต่างๆ แต่ละหน่วยงานมีข้อมูลของตัวเองอยู่แล้ว

สำหรับกรณีโครงการ "มูนแดนซ์" ถนนธนะรัชต์ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง ซึ่งมีที่ดินและบ้านของนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดังอยู่ด้วยนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขอให้ฝ่ายทหารร่วมลงตรวจสอบพื้นที่จริงมาแล้ว พบว่าโครงการดังกล่าวไม่ใหญ่มากนัก ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินขาย การได้มาซึ่งเอกสารสิทธิ์ที่ดินมีลักษณะเดียวกันกับกรณีของโบนันซ่า คือ ได้มาจากการเดินสำรวจ ออกให้ในปี 2519 จากนั้นค่อยมาเปลี่ยนเป็นโฉนดภายหลัง

"สิ่งที่น่าสนใจอีกเรื่อง คือ บริเวณหลังบ้านพิธีกรข่าวชื่อดัง ซึ่งเป็นลำห้วยสาธารณะที่ชาวบ้านเรียกว่า "ห้วยฟ้าผ่า" นั้น ถูกเปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิม คือ มีการขยายลำห้วยให้กว้างกว่าเดิม แล้วปิดกั้นเป็นเขื่อนใช้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งโดยปกติธรรมชาติลำห้วยดังกล่าวเป็นลำน้ำสาขาลำตะคอง เมื่อมีน้ำจะไหลลงสู่ลำตะคอง แต่ไม่รู้ว่าใครทำระหว่างโครงการกับเจ้าของบ้าน

ส่วนกรณีโฉนดที่ดินจะได้มาอย่างไรชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องทำการตรวจสอบต่อไป และหลังลงพื้นที่แล้วได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และตอนนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเข้ามา อย่างไรก็ตาม หากดูตามแผนที่แล้ว ในบริเวณโครงการดังกล่าวถูกประกาศให้เป็นป่าไม้ถาวรครอบคลุมทั้งหมด แต่การได้มาซึ่งเอกสารสิทธิ์ถูกต้องหรือไม่ ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป

พ.อ.สมหมาย กล่าวอีกว่า พื้นที่ อ.ปากช่อง โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง รวมเนื้อที่กว้างใหญ่มากประมาณ 280,000 ไร่ และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่บางส่วนได้โอนไปให้ ส.ป.ก. ส่วนที่ปรากฏว่ามีการโฉนดออกให้ในหลายโครงการนั้น เชื่อว่าคงจะมีขบวนการทำให้มันเกิดขึ้นมา ซึ่งนโยบายของผู้บังคับบัญชาจะพุ่งเป้าไปที่การครอบครองของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ เป็นหลัก หากเป็นราษฎรรายเล็ก รายน้อย รายย่อยคงต้องดูแลทุกข์สุขเป็นรายๆ แต่ละกรณีไป ซึ่งรายใหญ่ที่เห็นชัดเจนที่เราดำเนินการตรวจสอบไปแล้ว คือ โบนันซ่า และยังมีอีกหลายโครงการใหญ่ แต่ขณะนี้เราโฟกัสสนามแข่งรถก่อน ส่วนรายอื่นรวมทั้ง คีรีมายา รีสอร์ท เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นๆ ที่ต้องรับผิดชอบกันไป

ส่วนที่เป็นข่าวว่ากระทรวงยุติธรรมจะลงตรวจสอบพื้นที่คีรีมายา และโครงการอื่นๆ ในสัปดาห์หน้านั้น ตนยังไม่ทราบ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับการประสานมา

อย่างไรก็ตาม กรณีการบุกรุกป่าพื้นที่เขาใหญ่เป็นปัญหามาช้านานมาก ส่วนตัวเห็นว่าควรนำเอา มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 เข้ามาใช้กับกรณีดังกล่าวเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเดินหน้าและแล้วเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย

***แม่ทัพภาค 2 ลั่นทวงคืนผืนป่า

พล.ท.ธวัช สุกปลั่ง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) กล่าวว่า การทวงคืนผืนป่าในภาคอีสาน โดยเฉพาะผืนป่าที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมและจะต้องชัดเจน เพราะจะต้องเอาผืนป่าที่ถูกบุกรุกไปเอากลับคืนมาให้ได้มากที่สุด ซึ่งเจ้าภาพใหญ่ในการทวงผืนป่า ก็คือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนกองทัพเป็นกำลังที่เข้าไปสนับสนุนช่วยเหลือในการที่จะนำเข้าไปตรวจพื้นที่ที่มีการบุกรุก จากนั้นจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมอุทยาน กรมป่าไม้ ที่ดิน ส.ป.ก.ต้องเข้าไปรับผิดชอบในการที่ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก โดยทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำชับให้ดูแลป่าต้นน้ำเป็นสิ่งเร่งด่วน

***ส่งหนังสือโบนันซ่านำหลักฐานมาแสดง

นายสุรวุฒิ ใจกิจสุวรรณ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีสนามแข่งขันรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ อ.ปากช่อง ของนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจใหญ่และนักการเมืองชื่อดังบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน ว่า จากการตรวจระวางล่าสุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขานกยูง เขาเสียดอ้า และเขาอ่างหิน ถูกโบนันซ่าบุกรุกรวม 166 ไร่ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ขณะนี้ นอกจากจะส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้แก่พนักงานสอบสวนแล้ว ยังจะเดินหน้าดำเนินการส่วนของป่าไม้ด้วย

"วันนี้จะมีการออกหนังสือของพนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ที่ครอบครองพื้นที่ได้นำหลักฐานมาแสดงการครอบครองภายใน 30 วัน โดยเอกสารดังกล่าวจะนำไปติดประกาศไว้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศาลาประชาคมในพื้นที่และมอบให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเจ้าของพื้นที่ดำเนินการประกาศให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน โดยมีกำหนด 30 วัน หากเอกสารหลักฐานที่นำมาแสดงไม่เป็นเอกสารสิทธิที่ได้มาโดยถูกต้องก็ต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป"

ก่อนหน้านี้ ได้มีการสรุปผลการตรวจสอบสนามแข่งรถโบนันซ่า พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ของรัฐทั้งหมดรวม 166 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่มีการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก.เป็นหลักฐานที่ทางโบนันซ่านำมาแสดง 5 แปลง รวมเนื้อที่ 55 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา บุกรุกพื้นที่สวนป่า 35 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 12 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา พื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร (ส.ป.ก.) เนื้อที่ 57 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา และบุกรุกลำรางสาธารณะเนื้อที่ 4 ไร่ 43 ตารางวา

***ไม่มีหลักฐานโชว์ต้องรื้อใน30วัน

นายสุรวุฒิกล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ครอบครองให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกำหนด 30 วันแล้ว หากยังไม่รื้อถอนเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการเองและจะเรียกค่าเสียหายพร้อมคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ด้วย ส่วนการดำเนินคดีนั้นเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการ และสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งทางป่าไม้ได้นำผู้ต้องหาส่งมอบให้ในวันเกิดเหตุแล้ว 1 คน คือ ผู้จัดการสนามแข่งรถโบนันซ่า

***รับ "คีรีมายา"แตกต่างจากโบนันซ่า

ส่วนกรณีของ คีรีมายา รีสอร์ท อ.ปากช่องนั้น นายสุรวุฒิ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่แตกต่างจากของโบนันซ่า เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีเอกสารสิทธิที่ดินทั้งหมด ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบว่าเอกสารดังกล่าวได้มาโดยถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบ แต่กรณีของโบนันซ่าชัดเจนแล้วว่าบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ แต่มีเอกสารสิทธิที่ดินเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้สามารถเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติได้ทันทีไม่ต้องรอหน่วยงานอื่นใด แต่ของคีรีมายา ต้องมีหลายหน่วยงานเข้าพื้นที่พร้อมกัน ซึ่งขณะนี้ได้ให้หน่วยป่าไม้ในพื้นที่เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลอยู่

***ที่ดินพิธีกรดังต้องตรวจเอกสารก่อน

นายสุรวุฒิกล่าวว่า ขณะที่กรณีที่ดินและบ้านพักหรูของพิธีกรรายการข่าวชื่อดังในหมู่บ้านโครงการ "มูนแดนซ์" ถนนธนะรัชต์ หลักกิโลเมตรที่ 21-22 ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง ก็เช่นเดียวกัน เบื้องต้นต้องให้ความสำคัญต่อเอกสารสิทธิที่ดินก่อนเพราะเป็นสิทธิของเขา จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบว่าเอกสารสิทธิดังกล่าวออกโดยมิชอบหรือไม่อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นคือพื้นที่ อ.ปากช่องนั้นเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ป่าถาวรทั้งหมด

***"บิ๊กต๊อก"ย้ำที่ดินผิดกฎหมายต้องยึดคืน

ที่กระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีผู้ที่ประมูลซื้อที่ดินจากกรมบังคับคดีไปแล้วพบว่าอาจมีที่มาของการออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ว่า ต้องมีการเยียวยา เพราะเงินในส่วนนั้นเข้าไปสู่รัฐแล้ว หากที่ดินได้จากการประมูลของกรมบังคับคดี และพบภายหลังว่าที่ดินได้มาโดยมาไม่ถูกต้อง หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับที่ดิน ต้องไปยึดคืนมาเป็นของรัฐ โดยความคิดส่วนตัวเพื่อความเป็นธรรมต้องคืนเงินให้กับคนที่มาประมูล

***เปิดทางโอนคดีงาบป่าวังน้ำเขียวให้ สตช.

นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า คดีการบุกรุกป่าในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ทั้งป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง และอุทยานแห่งชาติทับลาน มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ไม่น้อยกว่า 300-400 คดี และพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสรุปสำนวนส่งอัยการพิจาณาฟ้องศาลแล้วไม่น้อยกว่า 40-50 คดี เพียงแต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ทำงานตลอดไม่ได้นิ่งนอนใจ

ส่วนการเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการนั้น ตนและ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้เร่งรัดมาโดยตลอด แม้การไปตั้งศูนย์สอบสวนร่วมขึ้นโดยใช้ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอวังน้ำเขียว ก็ดำเนินการมาแล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น พนักงานสอบสวนที่มีจำนวนน้อย เพราะคดีป่าไม้ โดยเฉพาะแค่คดีการจับกุมไม้พะยูงในพื้นที่ อ.เสิงสาง อ.ครบุรี อ.วังน้ำเขียว มีมากกว่า 300-400 คดี ขณะที่พนักงานสอบสวนมีเท่าเดิม และการสั่งสำนวนคดีซึ่งพยานหลักฐานค่อนข้างหายากนั้น ตนเข้าใจและเห็นใจพนักงานสอบสวน เช่น จะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องในกรณีที่จะต้องวินิจฉัยว่าขาดเจตนาหรือไม่ขาดเจตนา ฉะนั้น ต้องให้เวลากับตำรวจได้ทำงานด้วย แต่ล่าสุดพนักงานสอบสวนยืนยันกับตนแล้วว่า ภายในปีนี้จะดำเนินการให้แล้วเสร็จทุกคดีอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะขอโอนคดีบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว ทั้งหมดไปให้ สตช.ดำเนินการ พร้อมระบุว่าได้ทำหนังสือไปถึง สตช.แล้วเนื่องจากตั้งแต่ปี 2554 คดี ไม่คืบหน้านั้น นายธงชัย กล่าวว่า โอนได้ทั้งนั้น โอนไปไหนไม่มีปัญหา เราพร้อมอยู่แล้ว หากเห็นว่าทำให้การสอบสวนคดีมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ ทำได้หมดไม่มีขัดข้อง

***ตำรวจยันคดีไม่คืบเหตุมีความไม่ชัดเจน

พ.ต.อ.กิตติ กองแสงศรี ผกก.สภ.วังน้ำเขียว เจ้าของท้องที่คดีบุกรุกป่าวังน้ำเขียว กล่าวว่า ปัญหาการสอบสวนและทำให้คดีล่าช้าไม่คืบหน้านั้น เนื่องมาจากความไม่ชัดเจนของพื้นที่ ซึ่งแต่ละหน่วยไม่ยืนยันชัดเจน เช่น เมื่อไปสอบสวนปรากฏว่าบางคดีเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. แต่เป็นพื้นที่ภูเขา เป็นต้น แต่ถ้าหากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมีความชัดเจนในแนวเขตพื้นที่ขอยืนยันว่าการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวนจะไม่ล่าช้าแน่นอน

สำหรับกรณีการจะโอนย้ายคดีการบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียวนั้น ตนขอตั้งข้อสังเกตว่า คดีดังกล่าวนี้ตามระเบียบปฏิบัติของทางราชการมีการแต่งตั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งหากจะโอนย้ายคดีก็ต้องไปแก้กฎหมายเพราะระเบียบปฏิบัติให้ดำเนินการเช่นนั้น

***บุกยึดที่พี่อดีต ส.ส.เพื่อไทยเพชรบูรณ์

ที่ จ.เพชรบูรณ์ นายมานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้สนธิกำลังบุกเข้าตรวจยึดผืนป่าถูกบุกรุกบริเวณบ้านโนนสาวเอ้ ม.7 ต.บ้านหวาย และ ม.11 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ในเขตป่าไม้ถาวรจำนวน 49-1-08 ไร่ คิดเป็นค่าเสียหายแก่รัฐ 3.36 ล้านบาท พร้อมกับตรวจยึดไม้กระยาเลยได้อีก 7 ท่อน ปริมาตร 0.175 ม.ใช้ดวงตรา ต.9320 และประทับตรายึด ย.1932 ปี 2558 จากนั้นได้มอบหมายให้นายสมชาย ครุฑเกษ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 8 (น้ำเดื่อ) เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ทำไม้หวงห้ามและมาตรา 54 แผ้วถาง ยึดถือครอบครอง กระทำการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า และมาตรา 69 มีไม้หวงห้ามยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่บุกรุกยึดถือครอบครองป่าไม้ถาวรผืนนี้คือนายปณิธาร ชวาลสันตติ อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 5 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เป็นพี่ชายอดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทย

เบื้องต้นทราบว่า นายปณิธาร ซื้อที่ดินผืนป่าดังกล่าวต่อจากคนในพื้นที่เมื่อปี 2553 ซึ่งอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร แปลงหมายเลข 10 และอยู่นอกแนวเขต ส.ป.ก.ในราคาหลายล้านบาท และป่าผืนนี้ยังทับซ้อนกับพื้นที่ที่กองพลทหารม้าที่ 1 ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ (อยู่ในขั้นตอนพิจารณาอนุญาตจากกรมป่าไม้) และพื้นที่บริเวณนี้ก็ไม่ได้รับการผ่อนผันตามมติ ครม.30 มิ.ย.2541 และใช้ใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ ใบ ภ.บ.ท.5 หน้าสำรวจ 420/41 มาแจ้งยืนยันเท่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้นำหลักฐานดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายมานพ กล่าวว่า การยึดพื้นที่ป่าคืน เป็นนโยบายของกรมป่าไม้ที่จะขอพื้นที่คืนทั่วประเทศ 4 ล้านกว่าไร่ และกรมอุทยานฯอีก 2 ล้านกว่าไร่ ซึ่งการยึดผืนป่านายทุนที่ อ.หล่มสักครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธการเพชรบูรณ์ยั่งยืนขอคืน 2 หมื่นไร่ ส่วนปฏิบัติการของพิษณุโลกจะเริ่ม 29 เม.ย.นี้ ใช้ชื่อยุทธการแควน้อยยั่งยืนยึดคืน 2 หมื่นไร่ ก็ขอวิงวอนนายทุนอย่าไปซื้อที่ป่า ขอให้ยุติ ถ้าเราขาดป่า เราก็อยู่ไม่ได้ เราไม่ได้กลั่นแกล้งนายทุนใดๆ เราทำตามหน้าที่เท่านั้น ไม่มีการเลือกปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น