ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ โคราช เผยลงนามถอน น.ส.3 ก. “โบนันซ่า” รุกป่าสงวนฯแห่งชาติแล้ว ลั่นใครผิดต้องยอมรับผิดและทำใจ พร้อมลุยตรวจสอบที่ดิน อ.ปากช่อง ทั้งหมดหากเป็นนโยบายจากหน่วยเหนือ ชี้ผู้เกี่ยวข้องต้องทำใจ ด้าน ตร.เรียกหลักฐานเพิ่มระบุคดีมีความชัดเจนมากขึ้น คาดสรุปสำนวนได้ในเดือน พ.ค.ด้านป่าไม้เร่งส่งหลักฐานพร้อมประเมินความเสียหาย อธิบดีกรมบังคับคดีแจงปี 45 ขายที่ดิน นส.3 ก. บริเวณปากช่องกว่า700ไร่ หลังถูกธนาคารนครธน ยึดทรัพย์ แต่ไม่ยืนยันเป็นพื้นเดียวกับ "คีรีมายา" หรือไม่ ด้าน"กิตติ ธนากิจอำนวย" เผย คีรีมายา งดให้ข่าว รอจนท.ตรวจสอบอย่างเพียงพอ “เกษตร”สอบย้อนหลังบ้าน”สรยุทธ”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสนามแข่งขันรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ของนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจใหญ่และนักการเมืองชื่อดัง บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน ซึ่งล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สรุปผลการตรวจสอบ พบมีการบุกรุก พื้นที่ของรัฐทั้งหมดรวม 166 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก.เป็นหลักฐานที่ทางโบนันซ่า นำมาแสดงจำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 55 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา บุกรุกพื้นที่สวนป่า 35 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 12 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา พื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร (ส.ป.ก.) เนื้อที่ 57 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา และบุกรุกลำรางสาธารณะเนื้อที่ 4 ไร่ 43 ตารางวานั้น
ต่อมาวานนี้ (21 เม.ย.) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ตนได้ลงนามในคำสั่งการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. จำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่กว่า 55 ไร่ของ สนามแข่งรถโบนันซ่า ที่ออกโดยมิชอบเรียบร้อย ตามที่ที่ดินจังหวัดนครราชสีมาได้เสนอเรื่องขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปก็เป็นขั้นตอนที่ทางกรมที่ดินจะดำเนินการให้เสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมาย และพื้นที่ที่ถูกเพิกถอนนั้นเป็นของหน่วยงานใด ก็ต้องเข้าไปดำเนินการต่อไป
สำหรับนโยบายของทางจังหวัดนครราชสีมา ในเรื่องการดำเนินการกับผู้บุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่สาธารณะนั้น อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ก็ต้องทำใจ เมื่อมันผิดก็ต้องยอมรับผิด และว่ากันไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ผิดถูกใครเป็นผู้วินิจฉัยนั้น ประการที่หนึ่งต้องถามว่าการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องนั้นเข้าไปรับรู้แต่แรกหรือไม่อย่างไร ก็ต้องแยกออกมาให้ชัดเจน ส่วนที่อื่น ๆ ต่อจากนี้ตนไม่ขอตอบเป็นของแต่ละหน่วยที่จะต้องดำเนินการ
ต่อข้อถามจะดำเนินการตรวจสอบที่ดิน ในพื้นที่ อ.ปากช่อง เพื่อให้เกิดความชัดเจนทั้งหมดหรือไม่ นายธงชัย กล่าวว่า ต้องรอนโยบายจากหน่วยเหนือด้วยว่าจะเอาอย่างไร ในส่วนของจังหวัดก็พร้อมปฏิบัติตาม
ด้านนายสุนทร กัณหาจันทร์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่านครราชสีมา 1 (ปากช่อง) เปิดเผยว่า จากการสำรวจในส่วนของพื้นที่ป่าพบว่า โบนันซ่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน รวมถึงส่วนป่า รวมเนื้อที่กว่า 105 ไร่ ซึ่งได้จับกุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสวน สภ.ปากช่องจำนวน 1 ราย ตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว (31 มี.ค.) ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารต่างๆ เป็นลายลักษณ์อักษรรวมถึงการประเมินค่าความเสียหายซึ่งจะต้องส่งให้ส่วนกลางเป็นผู้ประเมิน เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการทางคดี ส่วนจะมีการจับกุมใครเพิ่มนั้น ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน
"ส่วนพื้นที่ป่าที่ถูกโบนันซ่าบุกรุกได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปักป้ายประกาศเพื่อให้รู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตป่าเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปตรวจสอบเพิ่มเติมว่าป้ายที่ปักยังอยู่ที่เดิมหรือถูกทำลายหรือไม่" นายสุนทร กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมาในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้ามาก และเริ่มมองเห็นความชัดเจนแล้ว โดยขณะนี้ได้ประสานขอให้หน่วยงานต่างๆ ส่งเอกสารหลักฐานยืนยันแนวเขตที่ชัดเจนพร้อมประเมินความเสียหาย เพื่อประกอบสอบสวนคดี และดูว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ซึ่งได้เร่งรัดพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการให้เรียบร้อยเพื่อสรุปสำนวนคดีส่งอัยการพิจารณาฟ้องศาล ภายในเดือน พ.ค.นี้
****บังคับคดีแจงที่ดินนส. 3 ก.ปากช่อง 700 ไร่
วานนี้ ( 21 เม.ย.) น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบข้อมูลการขายทอดตลาดทรัพย์สิน ในช่วงปี 2545 ซึ่งเป็นที่ดินนส.3 ก.บริเวณ ต.หมู่สี อ.ปากช่อง ถนนธนะรัตน์ จ.นครราชสีมา จำนวน 36 แปลง เนื้อที่ 763 ไร่ 1 งาน 81 ตารางวา โดย ขายทอดตลาด เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2545 ซึ่งมีธนาคารนครธน เป็นเจ้าหนี้ มีบริษัท เขาใหญ่เนอเชอรัล เป็นลูกหนี้ ส่วนบริษัทที่ประมูลซื้อ คือ บริษัท ร้อยแก้ว จำกัด จากนั้นมีการขายต่อ และบริษัท กลอฟ์ โอม คันทรีคลับ แอนด์รีสอร์ท ทั้ง 36 แปลง มีการโอนส่งมอบจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ในคราวเดียว แต่กรมบังคับคดีไม่ทราบรายละเอียดว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของสนามกลอฟ์และรีสอร์ท คีรีมายา หรือไม่ และไม่สามารถยืนยันได้ว่า ที่ดินมีการบุกรุกป่าสงวนด้วยหรือไม่ เพราะกรมบังคับคดีทำหน้าที่เพียงยึดทรัพย์ ตามที่โจทก์ส่งเอกสารหลักฐานให้ยึดเท่านั้น ซึ่งภายหลังเรื่องเข้าสู่ระบบบังคับคดี และมีเอกสารหลักฐานทางราชการถูกต้อง กรมบังคับคดีก็ขายทอดตลาดตามระเบียบขั้นตอน
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับ ที่ดินที่กรมบังคับคดีขายทอดตลาดเมื่อปี 2545 บริเวณ ต.หมู่สี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จำนวจ 36 แปลง ประกอบด้วย ที่ดิน นส 3 ก.เลขที่ 865 2515 2520 2521 2530 829 835 898 895 896 55 820 821 822 823 824 836 847 854 879 881 866 877 2516 2513 827 830 845 855 819 2523 และ 5056 รวม 36 แปลง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จังหวัดนคราชสีมา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง เนื้อที่ 763 ไร่ 1 งาน 81 ตารางวา มีชื่อบริษัท เขาใหญ่ เนชอรัลปาร์ค จำกัด เป็นผู้ถือสิทธิครอบครอง
***"คีรีมายา"งดให้ข่าว รอจนท.ตรวจสอบอย่างเพียงพอ
นายกิตติ ธนากิจอำนวย ประธานที่ปรึกษา บริษัท คีรีมายา จำกัด ชี้แจงว่าขณะนี้ต้องการให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างเพียงพอ และไม่ต้องการให้ข่าวในช่วงเวลานี้ เพราะจะเป็นการทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก ทั้งนี้บริษัทฯมั่นใจในข้อเท็จจริงว่าที่ดินในโครงการของคีรีมายาเป็นไปอย่างถูกต้องทุกประการ
***ยธ.ตรวจสอบที่ดินคีรีมายา 1,400 ไร่
พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดิน คีรีมายา รีสอร์ท อ.ปาก ช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ภายหลัง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบที่ดินของคีรีมายา นำไปสู่การชี้แจงจากเจ้าของคีรีมายาว่า ซื้อที่ดินมาจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี ตนจึงสั่งการให้กรมบังคับคดีตรวจสอบเอกสารการขายทอดตลาด และที่มาทรัพย์ดังกล่าว รวมถึงขั้นตอนในการประมูลขายที่ดินว่ามีการสู้ราคาซื้อขายกันอย่างไร และปิดประมูลขายทรัพย์ด้วยราคาเท่าใดสอดคล้องกับความเสียหาย ที่เกิดขึ้นกับบีบีซีหรือไม่ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า คีรีมายาซื้อที่ดินจากกรมบังคับคดีรวม 36 แปลง เนื้อที่กว่า 1,400 ไร่ แต่พบว่าเอกสารสิทธิ ที่นำมาขายทอดตลาดเป็นทรัพย์สิน ที่มีความเกี่ยวข้องกับคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด หรือ บีบีซี ซึ่งมี นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ และนายราเกซ สักเสนา ร่วมเป็นจำเลย
" ในสัปดาห์หน้า ตนจะลงพื้นที่ตรวจสอบคีรีมายา รีสอร์ท เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน เพราะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเจ้าของเดิม นอกจากนี้ จะตรวจสอบกรณีการออกเอกสารสิทธิ์ให้กับคีรีมายาและสนามแข่งรถโบนันซ่าสปีดเวย์ ว่าแผนประทุษกรรมเป็นรูปแบบเดียวกันหรือไม่ กลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ หากเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวกันคาดว่าจะมีที่ดินหลายแปลงที่มีการกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน"
ด้าน นายสมปอง อินทร์ทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา เร่งเจรจากับเจ้าของรีสอร์ทโบนันซ่า ให้ออกจากพื้นที่
ส่วนกรณีบ้านพักพิธีกรชื่อดัง ที่มีการออก นส.3 ก.ในพื้นที่ ส.ป.ก.ขณะนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าก่อนจะครอบครองเอกสารสิทธิ นส.3 ก.ก่อนที่จะซื้อมานั้น เป็นที่ดินที่มีปัญหา ต้องพิสูจน์กันทางกฎหมายหรือไม่
“หากพบว่าน่าจะมีปัญหา แล้วยังไปซื้อมา แสดงว่ามีเจตนา แต่หากไม่ทราบแล้วซื้อ แสดงว่าผิดโดยไม่เจตนา ทั้งนี้ต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง”.