ถึงคิว! “คีรีมายา รีสอร์ต” สัปดาห์หน้า ทีมงาน “ดุษฎี อารยวุฒิ” นำทีม ทภ.2 - ส.ป.ก.- ที่ดิน ตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดิน 1,400 ไร่ ในเขต อ.ปากช่อง นครราชสีมา เผยเป็นที่ดิน ที่ “กรมบังคับคดี” ยึดมาจากคดียักยอกบีบีซี เน้นดูการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3ก. ทั้ง 36 แปลง ที่นำไปจำนองกับบีบีซี ระบุ ชั้นคดีพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิมิชอบในเขตป่า ภูเขา ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ ก่อนนำไปจำนองเพื่อกู้เงินบีบีซี ด้าน “กระทรวงเกษตรฯ”สั่งตรวจสอบย้อนหลังบ้าน “สรยุทธ” ส่วน “กรมที่ดิน” ตั้งทีมสอบ ปม “โบนันซ่า” รุกที่หลวง ต้องจบใน 6 เดือน
วันนี้ (21 เม.ย.) นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยถึงการดำเนินการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของโบนันซ่า รีสอร์ต เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากสำนักงานที่ดิน สาขาปากช่อง จ.นครราชสีมา รายงานผลการตรวจสอบมา ซึ่งในชั้นต้นอยู่ระหว่างการนำเสนอจังหวัด ซึ่งผู้ทำผิดมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ ซึ่งการตั้งกรรมการสอบสวนชุดนี้ คาดว่า จะได้ข้อยุติภายใน 6 เดือน หรือเร็วกว่านั้น
ด้าน นายสมปอง อินทร์ทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา เร่งเจรจากับเจ้าของรีสอร์ตโบนันซ่า ให้ออกจากพื้นที่
สว่นกรณีบ้านพักพิธีกรชื่อดัง ที่มีการออก น.ส.3 ก. ในพื้นที่ ส.ป.ก. ขณะนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าก่อนจะครอบครองเอกสารสิทธิ นส.3 ก. ก่อนที่จะซื้อมานั้น เป็นที่ดินที่มีปัญหา ต้องพิสูจน์กันทางกฎหมายหรือไม่
“หากพบว่าน่าจะมีปัญหา แล้วยังไปซื้อมา แสดงว่ามีเจตนา แต่หากไม่ทราบแล้วซื้อ แสดงว่าผิดโดยไม่เจตนา ทั้งนี้ต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง”
ขณะเดียวกัน ต้องตรวจสอบว่าพื้นที่ดังกล่าวก่อนจะออก น.ส.3 เจ้าของเดิมได้ครอบครองมาก่อนปี 2497 หรือไม่ และทำการเกษตรอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หากไม่ทำถือว่าผิดเงื่อนไขตามกฎหมายกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน ซึ่งจะต้องตรวจสอบและเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป
นายสมปอง กล่าวว่า ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. บริเวณรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้ครองครองที่ดิน ไม่ใช่เกษตรกร และใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ ต่อจากนี้จะต้องใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ให้มีการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขต จ.เชียงราย เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ และ จ.เลย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มนายทุนสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องนี้ได้สั่งการให้ ส.ป.ก.ส่งทีมเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้าไปตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อเพิกถอนการถือครองที่ดินโดยเร็ว และนำกลับมาให้เกษตรกร
ทั้งนี้ ในส่วนผู้ถือครองที่ดินมีการอ้างการออกโฉนด น.ส.3ก. ในพื้นที่ ส.ป.ก. นั้น ยืนยันว่า สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างกรมป่าไม้ กรมที่ดิน และ ส.ป.ก. โดยเฉพาะในส่วน ส.ป.ก. ที่สามารถออก น.ส.3 ได้นั้น จะต้องมีการถือครองโดยชาวบ้านในพื้นที่มาก่อนปี 2497 เท่านั้น และต้องมีเอกสาร ส.ค.1 ยืนยันชี้แจงก่อนจะประกาศเป็นพื้นที่เขต ส.ป.ก. ด้วย ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเป็นเงื่อนไขเดียวกับที่ประกาศพื้นที่ป่าสงวน โดยกำหนดว่าหากประชาชนอยู่มาก่อนประกาศเขตป่า ก็สามารถแสดงสิทธิในการขอออก น.ส.3 ได้ตามกฎหมาย
อีกด้าน พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดิน คีรีมายา รีสอร์ต อ.ปาก ช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ภายหลัง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบที่ดินของคีรีมายา นำไปสู่การชี้แจงจากเจ้าของคีรีมายา ว่า ซื้อที่ดินมาจากการขายทอดตลาดของกรมบังคับคดี ตนจึงสั่งการให้กรมบังคับคดีตรวจสอบเอกสารการขายทอดตลาด และที่มาทรัพย์ดังกล่าว รวมถึงขั้นตอนในการประมูลขายที่ดินว่ามีการสู้ราคาซื้อขายกันอย่างไร และปิดประมูลขายทรัพย์ด้วยราคาเท่าใดสอดคล้องกับความเสียหาย ที่เกิดขึ้นกับบีบีซีหรือไม่ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า คีรีมายาซื้อที่ดินจากกรมบังคับคดีรวม 36 แปลง เนื้อที่กว่า 1,400 ไร่ แต่พบว่าเอกสารสิทธิ ที่นำมาขายทอดตลาดเป็นทรัพย์สิน ที่มีความเกี่ยวข้องกับคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด หรือ บีบีซี ซึ่งมี นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทน์ และ นายราเกซ สักเสนา ร่วมเป็นจำเลย
“ที่ดินดังกล่าว กรมบังคับคดียึดมาจากคดียักยอกบีบีซี ดังนั้น จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงที่มาในการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3ก. ทั้ง 36 แปลง ก่อนที่จะนำไปจำนองกับบีบีซี เพราะในชั้นการดำเนินคดีกับบีบีซีก่อนหน้านี้ พบว่า มีการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบในเขตป่า ภูเขา ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้แล้วนำไปจำนองเพื่อกู้เงินจากบีบีซี แต่ไม่ชำระเงินกู้จนเป็นเหตุให้ธนาคารต้องปิดกิจการ แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยมิชอบ หากตรวจสอบพบว่าการขายทอดตลาดเอกสารสิทธิที่ดินให้กับคีรีมายามีที่มาไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการเพิกถอน พร้อมขยายผลตรวจสอบไปยังที่ดินแปลงอื่นๆ ที่ยึดมาจากบีบีซีด้วย” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้า ตนจะลงพื้นที่ตรวจสอบคีรีมายา รีสอร์ต เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน เพราะมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเจ้าของเดิม นอกจากนี้ จะตรวจสอบกรณีการออกเอกสารสิทธิให้กับคีรีมายา และ สนามแข่งรถโบนันซ่าสปีดเวย์ ว่า แผนประทุษกรรมเป็นรูปแบบเดียวกันหรือไม่ กลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ หากเป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มเดียวกันคาดว่าจะมีที่ดินหลายแปลงที่มีการกระทำผิดในลักษณะเดียวกัน
