กาฬสินธุ์ - กรรมการชมรมป่าโคกดินแดง อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ เต้น! ทวงคืนผืนป่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง ป่าสาธารณะแหล่งผลิตอาหารชุมชน ถูกบุกรุกลักลอบตัดไม้ใหญ่แปรรูปสร้างกุฏิ เผาถ่านขาย ทำเป็นสำนักสงฆ์กว่า 400 ไร่ ระบุผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จี้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ และฝ่ายปกครองตรวจสอบด่วน
วันนี้ (17 เม.ย. 58) ที่บริเวณโคกดินแดง เขตรอยต่อป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง ต.คำเหมือดแก้ว อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน เลขานุการชมรมป่าโคกดินแดงและกรรมการชมรม พร้อมตัวแทนชาวบ้าน นำสื่อมวลชนลงพื้นที่เข้าสำรวจผืนป่าโคกดินแดง หลังพบถูกบุกรุกเป็นบริเวณกว้าง แผ้วถาง ตัดต้นไม้ใหญ่แปรรูปสร้างกุฏิ และจัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ พร้อมปลูกสร้างถาวรวัตถุจำนวนมาก
นายพูนพิพัฒน์ เรืองแสน เลขานุการชมรมป่าโคกดินแดง กล่าวว่า มีผู้บุกรุกผืนป่าโคกดินแดงเรื้อรังมาเกือบปี เมื่อราวเดือนมิถุนายน 2557 คณะกรรมการชมรมอนุรักษ์โคกดินแดง พร้อมฝ่ายปกครอง เคยเข้าตรวจสอบความเสียหาย และทำหนังสือร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอให้ตรวจสอบ และผลักดันพระสงฆ์ที่เข้ามาสร้างที่พำนักออกจากพื้นที่ พร้อมคืนผืนป่าให้อยู่ในสภาพเดิม
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นป่าสาธารณสมบัติของส่วนรวม จะปล่อยให้กลุ่มบุคคลเข้ายึดครองและตัดไม้ไม่ได้ โดยคณะกรรมการฯ กำหนดข้อบังคับและบทลงโทษผู้บุกรุกและฝ่าฝืนไว้ชัดเจน แต่ไม่สามารถเอาผิดใครได้
คณะกรรมการชมรมป่าโคกดินแดงติดตามความคืบหน้าการพิจารณาข้อร้องเรียนจากศูนย์ดำรงธรรม อ.ห้วยเม็ก ทราบว่ามีคำสั่งให้ผู้นำท้องถิ่น ร่วมกับคณะกรรมการชมรมอนุรักษ์โคกดินแดงทำประชาคมชาวบ้านทั้งตำบลและรายงานทางอำเภอ แต่ที่ผ่านมาไม่ดำเนินการใดๆ ยังปล่อยให้มีพระสงฆ์อยู่ในผืนป่า มีการบุกรุก และฉวยโอกาสตัดต้นไม้ขนาดใหญ่แปรรูปสร้างกุฏิ ศาลา ห้องสุขา สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ และเผาถ่าน
ทั้งนี้ ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่ามีพระสงฆ์บางรูปเป็นเครือญาติของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เอื้อประโยชน์ในการสร้างสำนักสงฆ์และบุกรุก นอกจากนี้ยังพบว่ามีพระต่างถิ่นแวะเวียนมาพำนักครั้งละ 3-4 รูปอีกด้วย
นายชูสอน ศรีเมือง ชาวบ้านโนนศิลาอาสน์ หมู่ 9 ต.คำเหมือดแก้ว กล่าวว่า ผืนป่าโคกดินแดงอยู่ในแนวเขตติดต่อกับเขตป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง พื้นที่ประมาณ 2,250 ไร่ ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงหลายตำบล เช่น ต.กุดโดน ต.คำเหมือดแก้ว ต.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก และ ต.โนนสูง ต.คลองขาม ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อดีตเคยมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตอาหารชุมชน ตลอดฤดูฝนและฤดูแล้ง มีอาหารป่าให้ชาวบ้านเก็บไปบริโภคและจำหน่ายตลอดปี
ทั้งยังช่วยลดภาวะโลกร้อน และป้องกันน้ำป่าไหลหลากในฤดูฝน แต่ปัจจุบันกลับโล่งเตียน เนื่องจากถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อสร้างสำนักสงฆ์ อยากเรียกร้องให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบผู้บุกรุกและผู้อยู่เบื้องหลังจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่ปล่อยปละให้บุกรุกอย่างนี้
จากการสำรวจพบพื้นที่ถูกบุกรุกประมาณ 400 ไร่ ขณะเดินสำรวจไม่พบพระรูปใดอยู่ภายในบริเวณที่ถูกบุกรุก เชื่อว่าไหวตัวหลบหนี พบเพียงศาลา 1 หลัง กุฏิ 4 หลัง เครื่องอัฐบริขาร ห้องสุขา สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ รวมทั้งไม้แปรรูป ร่องรอยเผาถ่าน อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่เตรียมเดินสายไฟ และมีถนนบดอัดลูกรังในป่า ซึ่งจะรายงานความเสียหาย แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์
คณะกรรมการและชาวบ้านได้เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเพื่อเอาผิดผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งผู้บุกรุกและตัดไม้ทำลายป่าโคกดินแดงให้เฉียบขาด ตามนโยบาย คสช. เพื่อคืนพื้นที่ป่าและความอุดมสมบูรณ์ให้ชุมชนต่อไป