ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมขีดเส้น 7 วันเห็นผล จนท.เพิ่มความเข้มข้นเร่งคลี่คลายวิกฤตหมอกควัน 10 จังหวัดภาคเหนือ เผยจำเป็นต้องนำมาตรการกฎหมายมาบังคับใช้ลงโทษจริงจังมากกว่าเดิม หลังพบต้นเหตุหลักเผาป่ามาจากราษฎรหาของป่า สั่งทุกจังหวัดจัดทำบัญชีรายชื่อเจ้าของไร่ข้าวโพดและคนหาของป่าเพื่อขอความร่วมมืองดเผาและให้ง่ายต่อการติดตามตัว
วันนี้ (16 มี.ค. 58) พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยหลังการเป็นประธานประชุมตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าพื้นที่ภาคเหนือและการบริหารจัดการน้ำ ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และภาคเหนือตอนบนที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ว่า ตามข้อมูลที่มีการตรวจสอบและได้รับรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุสำคัญเนื่องมาจากการเผาป่า โดยที่พบด้วยว่า 59% ของการเผาป่ามาจากการที่ราษฎรเข้าไปหาของป่า รวมทั้งการเผาพื้นที่เกษตร ทั้งพื้นที่ราษฎรถือครองและพื้นที่บุกรุกป่า
ทั้งนี้ สถานการณ์ปัญหาหมอกควัน ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือนั้น นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยอย่างมาก และสั่งการให้เร่งรัดแก้ไขปัญหา ซึ่งจากการประชุมในครั้งนี้เบื้องต้นทำให้ทราบรายละเอียดต่างๆ ของปัญหามากขึ้น รวมทั้งต้นตอสำคัญของปัญหาด้วย โดยจากนี้มีการกำหนดเบื้องต้นว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะต้องร่วมมือกันทำงานอย่างหนักมากขึ้น
โดยในส่วนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะมีการจัดกำลังชุดดับไฟป่าจากจังหวัดอื่นจำนวน 35 ชุด รวมกว่า 400 นาย ให้มากระจายกำลังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควัน ไฟป่าใน 10 จังหวัดภาคเหนือ ส่วนกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะมีการนำรถบรรทุกน้ำและฉีดพ่นน้ำแบบต่างๆ มาประจำพร้อมปฏิบัติงานอีกกว่า 70 คัน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เฝ้าติดตามสภาพอากาศพร้อมทำฝนหลวง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมย้ำว่า ต้องยอมรับว่าปัญหาหมอกควัน ไฟป่าที่เกิดขึ้นมีสาเหตุเนื่องมาจากน้ำมือมนุษย์ ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจำเป็นที่จะต้องมีการนำมาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้ลงโทษอย่างเข้มงวดจริงจังมากกว่าที่ผ่านมา แม้ว่าจะไม่อยากทำเพราะเข้าใจดีว่าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตราษฎร อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องทำเพื่อให้การแก้ไขปัญหาประสบผล
โดยหากพบการเผาในพื้นที่เกษตรก็ต้องดำเนินการที่ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดว่าด้วยการห้ามเผา และหากเป็นการเผาในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรืออุทยานก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายอุทยานหรือป่าไม้ด้วย โดยให้แต่ละจังหวัดจัดทำบัญชีทะเบียนรายชื่อเกษตรเจ้าของไร่ข้าวโพดและราษฎรที่เข้าป่าเก็บของป่า เพื่อทำความเข้าใจขอความร่วมมือให้งดการเผาในช่วงนี้และง่ายต่อการติดตามตัวหากเกิดการเผาขึ้น
นอกจากนี้ พลเอก ดาว์พงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานกับทางกระทรวงสาธารณสุขไว้แล้ว ให้เตรียมพร้อมด้านการรักษาพยาบาลเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบสุขภาพจากภาวะหมอกควัน ไฟป่าที่น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
พร้อมย้ำว่า มาตรการต่างๆ จะต้องเห็นผลในแง่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เข้มงวดจริงจังมากขึ้นภายใน 7 วัน ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเผาที่เกิดขึ้นมากในพื้นป่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่เพื่อหวังงบประมาณนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง