ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,034.93 จุด พุ่งขึ้น 208.63 จุด หรือ +1.17% ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 19.22 จุด หรือ +0.92% ปิดที่ 2,100.40 จุด แนสแด็ก เพิ่มขึ้น 62.78 จุด หรือ+1.27% ปิดที่ 4,994.60 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการที่จีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1%
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ+1.15เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 56.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลหลังธนาคารกลางจีนลดข้อกำหนดการกันเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์
ด้านน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน คงที่ไม่เปลี่ยนแปลงเท่ากับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดที่ 63.45 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ ลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ -0.78 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,193.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนประกอบการรวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีนครั้งใหม่
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น พุ่งขึ้น 0.48% แตะที่ 97.97 เมื่อวานนี้ ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่ากรีซอยู่ระหว่างการเจรจากับ IMF และประเทศในยูโรโซนเกี่ยวกับการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่เจ้าหนี้ของกรีซกำหนดไว้เป็นเงื่อนไขในการที่กรีซจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่เร่งด่วน
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยตัดสินว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ขณะที่เขาคาดว่าจะมีการปรับขึ้นในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,034.93 จุด พุ่งขึ้น 208.63 จุด หรือ +1.17% ดัชนีเอสแอนด์พี500 เพิ่มขึ้น 19.22 จุด หรือ +0.92% ปิดที่ 2,100.40 จุด แนสแด็ก เพิ่มขึ้น 62.78 จุด หรือ+1.27% ปิดที่ 4,994.60 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการที่จีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1%
ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ หรือ+1.15เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 56.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลหลังธนาคารกลางจีนลดข้อกำหนดการกันเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์
ด้านน้ำมันเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน คงที่ไม่เปลี่ยนแปลงเท่ากับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดที่ 63.45 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ ลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ -0.78 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,193.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนประกอบการรวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีนครั้งใหม่
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น พุ่งขึ้น 0.48% แตะที่ 97.97 เมื่อวานนี้ ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ โดยบรรดาเจ้าหน้าที่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่ากรีซอยู่ระหว่างการเจรจากับ IMF และประเทศในยูโรโซนเกี่ยวกับการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่เจ้าหนี้ของกรีซกำหนดไว้เป็นเงื่อนไขในการที่กรีซจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่เร่งด่วน
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การปรับตัวของเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยตัดสินว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด ขณะที่เขาคาดว่าจะมีการปรับขึ้นในปีนี้