จากกรณีตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บุกทลาย บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด เครือข่ายแชร์ลูกโซ่ข้ามชาติรายใหญ่ หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนในธุรกิจขายตรง ในระบบ อี-คอมเมิร์ส เพื่อรับผลกำไรสูง จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อทั่วอาเซียนกว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยตำรวจจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้ 5 คน ล่าสุดจับกุม น.ส.ณมนพรรณ์ ธาราบัณฑิต หรือเจ๊ตาล เศรษฐินีคนดัง อายุ 41 ปี ผู้ถือหุ้นใหญ่ 9,000 หุ้น มูลค่า 9 แสนบาท ของเครือข่ายดังกล่าว ขณะเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ โดยจับได้ที่ด่านพรมแดนมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ยังมีผู้ร่วมขบวนการหลบหนีอยู่อีก 7 คน ซึ่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับทั้งหมดแล้ว
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. นำกำลังตำรวจ ปคบ. เข้าตรวจค้นยึดทรัพย์ของเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน 3 จุด จุดแรกนำหมายค้นศาลจังหวัดธัญญบุรี ที่ 352/2558 เข้าตรวจค้นที่หมู่บ้านอภิญญา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เลขที่ 40/10 หมู่ที่ 5 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บ้านของ น.ส.หรรษา ธาราบัณฑิต อายุ 36 ปี น้องสาว น.ส.ณมนพรรณ์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ โดย น.ส.หรรษา เป็นหนึ่งในแม่ข่ายของแชร์ลูกโซ่ดังกล่าว เนื่องจากพบว่า เคยโอนเงินเข้าบริษัทยูฟัน พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด กว่า 6 ล้านบาท และทราบว่าเอกสารส่วนหนึ่งในคดี ที่เป็นในส่วนของ น.ส.ณมนพรรณ์ ถูกขนย้ายมาเก็บไว้ภายในบ้านหลังนี้ ตรวจค้นพบบ้านถูกปิดล็อค ต้องประสานช่างกุญแจมาเปิดประตู เบื้องต้นพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ทะเบียน ชบ 7430 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 3218 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ภายในบ้านพบฮาร์ดดิสคอมพิวเตอร์ ตู้เซฟ พาสสปอร์ต เอกสารการโอนเงิน กล้องถ่ายรูปบัญชีรายรับรายจ่าย ปืนอัดลม 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.อังกูร เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของ น.ส.หรรษา น้องสาว น.ส.ณมนพรรณ์ 1 ใน 12 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่ข่าย แต่ขณะเข้าตรวจค้นไม่พบเจ้าตัวอยู่ภายในบ้าน ทราบว่าได้หลบหนีไปตั้งแต่ก่อนเทศกาลสงกรานต์ พร้อมรถหรูอีก 1 คัน ซึ่ง น.ส.หรรษา เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทยูฟัน 500 หุ้น ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 742/2558 ลงวันที่ 15 เม.ย. ข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4,5,12,15 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ประกอบมาตรา 83
จากนั้นเวลา 13.00 น. ตำรวจได้ไปตรวจค้นบ้านจุดที่ 2 ที่บ้านเลขที่ 1/36 ในหมู่บ้านคาซ่ารีเจนท์ ซอยรามอินทรา 14 แยก 11/1 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เป็นทรัพย์สิน น.ส.ณมนพรรณ์ พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าบ้านหลังนี้ เป็นทรัพย์สินที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เป็นบ้านในโครงการหรูราคากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งมีการโอนกรรมสิทธิ์จากทางโครงการมายังผู้ต้องหา เมื่อช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 14.00 น. ตำรวจพา น.ส.ณมนพรรณ์ ผู้ต้องหา ไปตรวจค้นทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นจุดที่ 3 เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา บ้านเลขที่ 688/75 หมู่บ้านหลักสี่สแควร์ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงและเขตบางเขน กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบภายในสำนักงานดังกล่าว ยังไม่พบเอกสารใดๆ มีเพียงห้องชั้นบน ที่ทำไว้เป็นห้องจัดบรรยาย สำหรับลูกข่ายยูโทเคน และห้องเก็บของชั้น 1 พบรองเท้าสำหรับเล่นกีฬากอล์ฟ ถูกเก็บไว้ ซึ่งรองเท้าที่พบ น.ส.ณมนพรรณ์ อ้างว่า เป็นรองเท้าที่ใช้เงินส่วนตัวซื้อ เพื่อนำมาลงขายในเว็บไซด์ยูฟัน เพราะบริษัทจะมีเว็บไซด์กลางไว้ให้ลูกข่ายนำสินค้าของตัวเองมาลงประกาศขายได้
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวต่อว่า จากนี้ตำรวจจะอายัดทรัพย์สินและส่งมอบให้ ปปง. ดำเนินการ เพื่อนำเงินมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งตำรวจจะพิสูจน์ความจริงให้ประชาชนทราบว่าบริษัท ยูฟัน ทำธุรกิจอะไรกันแน่ ตรงกับที่จดทะเบียนไว้หรือไม่ เพราะจดทะเบียนว่า เป็นบริษัทขายเครื่องดื่ม 2 ตัว และ อาหารเสริม 1 ตัว หลังจากนี้จะออกหมายจับเพิ่มแน่นอน แต่ต้องรอตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดก่อน สำหรับตัว น.ส.ณมนพรรณ์ จะนำไปสอบปากคำเพิ่มเติม และเตรียมนำตัวไปฝากขังศาลอาญารัชดาฯ ในวันที่ 18 เม.ย. โดยไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
อีกด้าน ที่ จ.ขอนแก่น เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเข้าตรวจค้น บริษัทยูฟัน สาขาขอนแก่น ตั้งอยู่เลขที่ 670/94 ภายในโครงการพัฒนาสแควร์ ซอยกลางเมือง 5 ถนนกลางเมือง อ.เมือง หลังมีกลุ่มผู้เสียหาย 6 ราย เข้าแจ้งความว่าได้ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน จนได้รับความเสียหาย พบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปิดล็อคประตูไว้ หน้าสาขาปิดใบกระดาษติดไว้ว่า หยุดวันที่ 12-17 เม.ย. ตำรวจจึงประสานมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ นำเครื่องตัดถ่างมางัดประตูเหล็กหน้าร้านออก แล้วเข้าไปทำการตรวจค้น พบหนังสือแนะนำการสมัครเป็นสมาชิกยูฟัน รวมทั้งรายชื่อใบสมาชิก 60 ราย และนามบัตรจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบเอกสาร พบผู้เช่าอาคาร คือ เป็นข้าราชการบำนาญ อดีตครูโรงเรียนใน จ.ขอนแก่น เบื้องต้นตำรวจจึงเก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดไปตรวจสอบ ก่อนประสานเรียก เจ้าตัวมาให้ปากคำ ตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า คดีเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน สโตร์" ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องได้แล้ว 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ณมนพรรณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ว่าที่ ร.ต.ฤทธิเดช วรงค์ อายุ 39 ปี ผู้ถือหุ้นบริษัท นายไชธร ทองหล่อเลิศ อายุ 41 ปี คนขับรถและมีหน้าที่ประสานงาน นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณรัตน์ อายุ 34 ปี และนายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า อายุ 40 ปี ทั้งคู่เป็นแม่ทีมหาลูกค้าระดับต้นๆของบริษัท โดยยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ยังจับกุมไม่ได้อีก 7 คน ประกอบด้วย นายอาทิตย์ ปานแก้ว นายเท คิมเลง นายลี ควนมิง นายวอน ชิงหัว ทั้งหมดสัญชาติมาเลเซีย พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน นางจิราภิมณช์ สุ่นปาน และ น.ส.หรรษา น้องสาว น.ส.ณมนพรรณ์
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. นำกำลังตำรวจ ปคบ. เข้าตรวจค้นยึดทรัพย์ของเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟัน 3 จุด จุดแรกนำหมายค้นศาลจังหวัดธัญญบุรี ที่ 352/2558 เข้าตรวจค้นที่หมู่บ้านอภิญญา บ้านเดี่ยว 2 ชั้น เลขที่ 40/10 หมู่ที่ 5 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บ้านของ น.ส.หรรษา ธาราบัณฑิต อายุ 36 ปี น้องสาว น.ส.ณมนพรรณ์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ โดย น.ส.หรรษา เป็นหนึ่งในแม่ข่ายของแชร์ลูกโซ่ดังกล่าว เนื่องจากพบว่า เคยโอนเงินเข้าบริษัทยูฟัน พร้อพเพอร์ตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ในเครือ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด กว่า 6 ล้านบาท และทราบว่าเอกสารส่วนหนึ่งในคดี ที่เป็นในส่วนของ น.ส.ณมนพรรณ์ ถูกขนย้ายมาเก็บไว้ภายในบ้านหลังนี้ ตรวจค้นพบบ้านถูกปิดล็อค ต้องประสานช่างกุญแจมาเปิดประตู เบื้องต้นพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ ทะเบียน ชบ 7430 กรุงเทพมหานคร และรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 3218 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ ภายในบ้านพบฮาร์ดดิสคอมพิวเตอร์ ตู้เซฟ พาสสปอร์ต เอกสารการโอนเงิน กล้องถ่ายรูปบัญชีรายรับรายจ่าย ปืนอัดลม 1 กระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.อังกูร เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของ น.ส.หรรษา น้องสาว น.ส.ณมนพรรณ์ 1 ใน 12 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแม่ข่าย แต่ขณะเข้าตรวจค้นไม่พบเจ้าตัวอยู่ภายในบ้าน ทราบว่าได้หลบหนีไปตั้งแต่ก่อนเทศกาลสงกรานต์ พร้อมรถหรูอีก 1 คัน ซึ่ง น.ส.หรรษา เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทยูฟัน 500 หุ้น ทั้งนี้ได้แจ้งข้อหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 742/2558 ลงวันที่ 15 เม.ย. ข้อหา ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4,5,12,15 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 ประกอบมาตรา 83
จากนั้นเวลา 13.00 น. ตำรวจได้ไปตรวจค้นบ้านจุดที่ 2 ที่บ้านเลขที่ 1/36 ในหมู่บ้านคาซ่ารีเจนท์ ซอยรามอินทรา 14 แยก 11/1 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เป็นทรัพย์สิน น.ส.ณมนพรรณ์ พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าบ้านหลังนี้ เป็นทรัพย์สินที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เป็นบ้านในโครงการหรูราคากว่า 30 ล้านบาท ซึ่งมีการโอนกรรมสิทธิ์จากทางโครงการมายังผู้ต้องหา เมื่อช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 14.00 น. ตำรวจพา น.ส.ณมนพรรณ์ ผู้ต้องหา ไปตรวจค้นทรัพย์สินเพิ่มเติมเป็นจุดที่ 3 เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา บ้านเลขที่ 688/75 หมู่บ้านหลักสี่สแควร์ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงและเขตบางเขน กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบภายในสำนักงานดังกล่าว ยังไม่พบเอกสารใดๆ มีเพียงห้องชั้นบน ที่ทำไว้เป็นห้องจัดบรรยาย สำหรับลูกข่ายยูโทเคน และห้องเก็บของชั้น 1 พบรองเท้าสำหรับเล่นกีฬากอล์ฟ ถูกเก็บไว้ ซึ่งรองเท้าที่พบ น.ส.ณมนพรรณ์ อ้างว่า เป็นรองเท้าที่ใช้เงินส่วนตัวซื้อ เพื่อนำมาลงขายในเว็บไซด์ยูฟัน เพราะบริษัทจะมีเว็บไซด์กลางไว้ให้ลูกข่ายนำสินค้าของตัวเองมาลงประกาศขายได้
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวต่อว่า จากนี้ตำรวจจะอายัดทรัพย์สินและส่งมอบให้ ปปง. ดำเนินการ เพื่อนำเงินมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งตำรวจจะพิสูจน์ความจริงให้ประชาชนทราบว่าบริษัท ยูฟัน ทำธุรกิจอะไรกันแน่ ตรงกับที่จดทะเบียนไว้หรือไม่ เพราะจดทะเบียนว่า เป็นบริษัทขายเครื่องดื่ม 2 ตัว และ อาหารเสริม 1 ตัว หลังจากนี้จะออกหมายจับเพิ่มแน่นอน แต่ต้องรอตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดก่อน สำหรับตัว น.ส.ณมนพรรณ์ จะนำไปสอบปากคำเพิ่มเติม และเตรียมนำตัวไปฝากขังศาลอาญารัชดาฯ ในวันที่ 18 เม.ย. โดยไม่คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
อีกด้าน ที่ จ.ขอนแก่น เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเข้าตรวจค้น บริษัทยูฟัน สาขาขอนแก่น ตั้งอยู่เลขที่ 670/94 ภายในโครงการพัฒนาสแควร์ ซอยกลางเมือง 5 ถนนกลางเมือง อ.เมือง หลังมีกลุ่มผู้เสียหาย 6 ราย เข้าแจ้งความว่าได้ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน จนได้รับความเสียหาย พบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปิดล็อคประตูไว้ หน้าสาขาปิดใบกระดาษติดไว้ว่า หยุดวันที่ 12-17 เม.ย. ตำรวจจึงประสานมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ นำเครื่องตัดถ่างมางัดประตูเหล็กหน้าร้านออก แล้วเข้าไปทำการตรวจค้น พบหนังสือแนะนำการสมัครเป็นสมาชิกยูฟัน รวมทั้งรายชื่อใบสมาชิก 60 ราย และนามบัตรจำนวนหนึ่ง ตรวจสอบเอกสาร พบผู้เช่าอาคาร คือ เป็นข้าราชการบำนาญ อดีตครูโรงเรียนใน จ.ขอนแก่น เบื้องต้นตำรวจจึงเก็บรวบรวมเอกสารทั้งหมดไปตรวจสอบ ก่อนประสานเรียก เจ้าตัวมาให้ปากคำ ตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า คดีเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน สโตร์" ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องได้แล้ว 5 คน ประกอบด้วย น.ส.ณมนพรรณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท ว่าที่ ร.ต.ฤทธิเดช วรงค์ อายุ 39 ปี ผู้ถือหุ้นบริษัท นายไชธร ทองหล่อเลิศ อายุ 41 ปี คนขับรถและมีหน้าที่ประสานงาน นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณรัตน์ อายุ 34 ปี และนายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า อายุ 40 ปี ทั้งคู่เป็นแม่ทีมหาลูกค้าระดับต้นๆของบริษัท โดยยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ยังจับกุมไม่ได้อีก 7 คน ประกอบด้วย นายอาทิตย์ ปานแก้ว นายเท คิมเลง นายลี ควนมิง นายวอน ชิงหัว ทั้งหมดสัญชาติมาเลเซีย พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน นางจิราภิมณช์ สุ่นปาน และ น.ส.หรรษา น้องสาว น.ส.ณมนพรรณ์