พระสุเทพ ปภากโร หรือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติอนุญาตให้เพิ่มพยานตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีถูกกล่าวหาสั่งสลายการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มนปช.เมื่อปี 2553 ว่า ตนมองทุกอย่างตามความเป็นจริง ที่มีเหตุปัจจัย และพร้อมรับสถานการณ์ หาก ป.ป.ช.จะตัดสินใจส่งเรื่องให้สภาฯ ถอดถอน แบบเดียวกับที่ส่งเรื่องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตนเตรียมตัวพร้อมแล้วที่จะไปชี้แจงในสภาฯ และถ้า ป.ป.ช.จะส่งเรื่องไปให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนพร้อมที่จะไปสู้คดีในศาลอาญา โดยยืนยันว่า ไม่หนีไปไหน พร้อมพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรม
พระสุเทพ กล่าวต่อว่า เอกสารที่ยื่น ป.ป.ช.ไปนั้น เพื่อชี้ให้เห็นในข้อเท็จจริงว่าในปี 2553 เกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงต้องมีการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างนั้น และแต่ละคำสั่งมีเหตุผล มีความจำเป็นอย่างไร และ ป.ป.ช.ไม่ควรดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง ถ้าจะผิดก็ต้องมาเล่นงานคนออกคำสั่ง ซึ่งก่อนออกคำสั่ง ได้ไตร่ตรองระดมสมอง ถามและประเมินความเห็น ประมวลสถานการณ์ชัดเจนแล้วในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายมั่นคงต้องทำให้บ้านเมือง ประชาชนปลอดภัยมั่นคง เมื่อมีคนก่อการร้ายขึ้นเอาอาวุธสงครามมาฆ่าตำรวจ ทหาร ประชาชน
ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการอ้างพยานอื่น เพราะแต่ละคนมีภาระหน้าที่ต้องปฏิบัติงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง อย่าให้กระทบต่องานของผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมืองขณะนี้ และในวันที่ 21-22 เม.ย.2558 นี้ จะไปพบกับทาง ป.ป.ช. อีกครั้ง
พระสุเทพ กล่าวต่อว่า เอกสารที่ยื่น ป.ป.ช.ไปนั้น เพื่อชี้ให้เห็นในข้อเท็จจริงว่าในปี 2553 เกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงต้องมีการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างนั้น และแต่ละคำสั่งมีเหตุผล มีความจำเป็นอย่างไร และ ป.ป.ช.ไม่ควรดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง ถ้าจะผิดก็ต้องมาเล่นงานคนออกคำสั่ง ซึ่งก่อนออกคำสั่ง ได้ไตร่ตรองระดมสมอง ถามและประเมินความเห็น ประมวลสถานการณ์ชัดเจนแล้วในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายมั่นคงต้องทำให้บ้านเมือง ประชาชนปลอดภัยมั่นคง เมื่อมีคนก่อการร้ายขึ้นเอาอาวุธสงครามมาฆ่าตำรวจ ทหาร ประชาชน
ทั้งนี้ ตนไม่ต้องการอ้างพยานอื่น เพราะแต่ละคนมีภาระหน้าที่ต้องปฏิบัติงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง อย่าให้กระทบต่องานของผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อบ้านเมืองขณะนี้ และในวันที่ 21-22 เม.ย.2558 นี้ จะไปพบกับทาง ป.ป.ช. อีกครั้ง