น.ส.อังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายภาคีเครือข่ายมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พร้อมด้วยนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ และนักเรียนนักศึกษาจากเครือข่ายกว่า 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผ่านทาง พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการป้องปรามและบังคับใช้กฎหมายกรณีผู้หญิง เด็ก และเยาวชนถูกฉวยโอกาสลวนลาม คุกคามทางเพศในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ ซึ่งผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่มีอาการมึนเมา และเหตุเกิดในพื้นที่เล่นน้ำที่ไม่มีการห้ามขายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดย น.ส.อังคณา เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์กลายเป็นเทศกาลฉลองดื่มสุราก่อให้เกิดผลกระทบทั้งอุบัติเหตุบนท้องถนน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน การทะเลาะวิวาท การคุกคามทางเพศ ทั้งนี้ปีที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้สำรวจมุมมองวัยรุ่นชายต่อปัญหาล่วงละเมิดทางเพศช่วงสงกรานต์ อายุระหว่าง 15-25 ปี จำนวน 664 ตัวอย่าง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ 57 เห็นว่าการคุกคามทางเพศในช่วงสงกรานต์เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และเห็นว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดการคุกคามทางเพศเกิดจากการดื่มสุรา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการใหม่ เพื่อลดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว อาทิ กฎหมายที่ว่าด้วยการปฏิเสธการเป่าให้มีความผิดเท่ากับคนเมาแล้วขับ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง (ตาม พ.ร.บ.จราจร ซึ่งหมายรวมถึง ถนนทุกชนิด ไหล่ทาง และทางเดินเท้า) บริเวณสถานีขนส่ง และท่าเรือโดยสาร ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ร่วมกับกฎหมายที่มีอยู่เดิม ได้แก่ ห้ามดื่มสุราบนรถ จำกัดสถานที่ขายและดื่ม ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามส่งเสริมการขายลดแลกแจกแถม นอกจากนี้ยังมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา กำหนดให้พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ในปีนี้ต้องปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โดย น.ส.อังคณา เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์กลายเป็นเทศกาลฉลองดื่มสุราก่อให้เกิดผลกระทบทั้งอุบัติเหตุบนท้องถนน สูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน การทะเลาะวิวาท การคุกคามทางเพศ ทั้งนี้ปีที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้สำรวจมุมมองวัยรุ่นชายต่อปัญหาล่วงละเมิดทางเพศช่วงสงกรานต์ อายุระหว่าง 15-25 ปี จำนวน 664 ตัวอย่าง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผู้ตอบแบบสอบถามกว่าร้อยละ 57 เห็นว่าการคุกคามทางเพศในช่วงสงกรานต์เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และเห็นว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดการคุกคามทางเพศเกิดจากการดื่มสุรา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ออกมาตรการใหม่ เพื่อลดปัญหาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว อาทิ กฎหมายที่ว่าด้วยการปฏิเสธการเป่าให้มีความผิดเท่ากับคนเมาแล้วขับ ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทาง (ตาม พ.ร.บ.จราจร ซึ่งหมายรวมถึง ถนนทุกชนิด ไหล่ทาง และทางเดินเท้า) บริเวณสถานีขนส่ง และท่าเรือโดยสาร ซึ่งทั้งหมดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น ร่วมกับกฎหมายที่มีอยู่เดิม ได้แก่ ห้ามดื่มสุราบนรถ จำกัดสถานที่ขายและดื่ม ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามส่งเสริมการขายลดแลกแจกแถม นอกจากนี้ยังมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา กำหนดให้พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ในปีนี้ต้องปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
