เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ สภาธรรมาภิบาล และสภาปฎิรูปพลังงานไทย นำโดย พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี เป็นตัวแทนแกนนำเครือข่ายภาคประชาชน ยื่นข้อเสนอถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กรณีเกณฑ์การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องแบกรับภาระในการเอื้อประโยชน์ เอกชนมากเกินควร
โดยข้อเสนอของเครือข่ายฯ ประกอบด้วย 7 ข้อ ได้แก่ 1. ขอให้ยกเลิกมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องในการกำหนดราคาน้ำมันที่ขายในไทย โดยควบคุมค่าการกลั่นและค่าการตลาดให้ไม่เกิน 2 บาทต่อลิตร 2. ขอให้ออกมติใหม่ โดยจัดลำดับให้ครัวเรือนเป็นอันดับแรก ยานยนต์ เป็นอันดับที่ 2 ส่วนที่เหลือจึงให้อุตสาหกรรม และปิโตรเคมี จัดหา และรับผิดชอบราคาเอง นอกจากนี้ ให้ยกเลิกการมีมาตรการอุ้มธุรกิจปิโตรเคมี เช่น การไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตของก๊าซหุงต้ม เพื่อการจ่ายค่าไฟฟ้าน้อยกว่าของประชาชน
3. กำหนดให้ขายก๊าซหุงต้มให้ยานยนต์ และครัวเรือนในราคาไม่เกิน 18 บาทต่อกิโลกรัม จนกว่าจะตั้งคณะกรรมการศึกษาต้นทุนราคาก๊าซหุงต้มใหม่ทั้งหมด เพราะราคาที่ขายก๊าซธรรมชาติหน้าหลุมขุดเจาะในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงการลดราคาก๊าซ NGV ลง 5 บาท 4. ขอให้ลดเงินกองทุนน้ำมัน ในน้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 5 บาททันที ยังผลให้น้ำมันเบนซิน 95 ลดราคาลงทันที่ 5 บาทต่อลิตร และเปลี่ยนการเก็บเงินกองทุน ให้ไปเป็นภาษีสรรพสามิต
5. ลดราคาค่าไฟฟ้าลง 70 สตางค์ต่อหน่วย และ 6. ยุติการขุดเจาะก๊าซ น้ำมันที่สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสิ่งแวดล้อม โดยไม่ผ่าน EIA ที่ถูกต้อง จนกว่าจะร่างกฎหมาย หรือกฎกระทรวงเพื่อให้นายทุนรับผิดชอบต่อ วิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ และ 7. เสนอให้มีการทำไอโอดีเซลจากต้นกระถินยักษ์ เพื่อทดแทนการขุดเจาะพลังงานจากใต้ดิน
ทั้งนี้ เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศยืนยันจะรอคำตอบจากนายกรัฐมนตรี ที่สำนักงาน ก.พ.
โดยข้อเสนอของเครือข่ายฯ ประกอบด้วย 7 ข้อ ได้แก่ 1. ขอให้ยกเลิกมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องในการกำหนดราคาน้ำมันที่ขายในไทย โดยควบคุมค่าการกลั่นและค่าการตลาดให้ไม่เกิน 2 บาทต่อลิตร 2. ขอให้ออกมติใหม่ โดยจัดลำดับให้ครัวเรือนเป็นอันดับแรก ยานยนต์ เป็นอันดับที่ 2 ส่วนที่เหลือจึงให้อุตสาหกรรม และปิโตรเคมี จัดหา และรับผิดชอบราคาเอง นอกจากนี้ ให้ยกเลิกการมีมาตรการอุ้มธุรกิจปิโตรเคมี เช่น การไม่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตของก๊าซหุงต้ม เพื่อการจ่ายค่าไฟฟ้าน้อยกว่าของประชาชน
3. กำหนดให้ขายก๊าซหุงต้มให้ยานยนต์ และครัวเรือนในราคาไม่เกิน 18 บาทต่อกิโลกรัม จนกว่าจะตั้งคณะกรรมการศึกษาต้นทุนราคาก๊าซหุงต้มใหม่ทั้งหมด เพราะราคาที่ขายก๊าซธรรมชาติหน้าหลุมขุดเจาะในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 3 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงการลดราคาก๊าซ NGV ลง 5 บาท 4. ขอให้ลดเงินกองทุนน้ำมัน ในน้ำมันเบนซิน 95 ลิตรละ 5 บาททันที ยังผลให้น้ำมันเบนซิน 95 ลดราคาลงทันที่ 5 บาทต่อลิตร และเปลี่ยนการเก็บเงินกองทุน ให้ไปเป็นภาษีสรรพสามิต
5. ลดราคาค่าไฟฟ้าลง 70 สตางค์ต่อหน่วย และ 6. ยุติการขุดเจาะก๊าซ น้ำมันที่สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสิ่งแวดล้อม โดยไม่ผ่าน EIA ที่ถูกต้อง จนกว่าจะร่างกฎหมาย หรือกฎกระทรวงเพื่อให้นายทุนรับผิดชอบต่อ วิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ และ 7. เสนอให้มีการทำไอโอดีเซลจากต้นกระถินยักษ์ เพื่อทดแทนการขุดเจาะพลังงานจากใต้ดิน
ทั้งนี้ เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศยืนยันจะรอคำตอบจากนายกรัฐมนตรี ที่สำนักงาน ก.พ.
