นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจร(สนข.) เตรียมเสนอให้กทม.ปรับราคาค่าที่จอดรถในพื้นที่กรุงเทพฯ จากเดิมเก็บในราคาขั้นต่ำ 10 บาท เพื่อกระตุ้นไม่ให้ประชาชนนำรถเข้ามาในกรุงเทพฯและใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดของข้อเสนอดังกล่า วแต่แนวคิดดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่เมืองใหญ่ๆหลายแห่งในโลกนำมาใช้เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนแทนรถยนต์ส่วนตัว ส่วนกทม.ก็ต้องมาหารือถึงรายละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้กทม.ก็มีมาตรการให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้ว อาทิ โครงการจอดแล้วจรในการจัดหาที่จอดรถ 4 มุมเมือง ซึ่งได้ประสานเอกชนที่อยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนจัดพื้นที่ในอาคารจอดรถให้ประชาชนจอดฟรี ขณะนี้ได้นำร่องไปแล้วที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนบางแค ซึ่งทางห้างได้จัดรถตู้รับ-ส่งประชาชนไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้าอีกด้วย
ด้านนายกฤษฏา ศิริพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักการคลังกล่าวว่า กทม.ได้จัดเก็บค่าที่จอดรถบนถนน 66 สาย ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นรายได้ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบการจอดยานยนต์ในเขตเทศบาลและสุขาภิบาลพ.ศ.2503 ซึ่งจัดเก็บได้ประมาณปีละ 48 ล้านบาท โดยมีอัตราจัดเก็บ ดังนี้รถจักรยานยนต์ ชั่วโมงแรก 5 บาท รถยนต์ไม่เกิน 4 ล้อชั่วโมงแรก 10 บาท และรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป ชั่วโมงแรก 20 บาท
ที่ผ่านมาภาครัฐได้พยายามปรับปรุงกฎหมายฉบับดังกล่าวให้เหมาะสมกับปัจจุบันเนื่องจากมีการจัดเก็บในอัตรานี้มานานหลายปีอาทิ การเพิ่มอัตราค่าจอดการให้ท้องถิ่นสามารถจ้างเอกชนจัดเก็บให้ได้เป็นต้น
ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการจราจรและขนส่งกทม.กล่าวว่าหากจะลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลควรดำเนินมาตรการอื่นเสริมด้วย ซึ่งกทม.มองว่าก่อนจะเพิ่มอัตราจัดเก็บค่าจอดซึ่งถือเป็นมาตรการบังคับควรพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อเพิ่มทางเลือกในการเดินทางแก่ประชาชนให้มีความพร้อมก่อน ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย การก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล การเพิ่มที่จอดและทางจักรยาน การเปิดเดินเรือในคลองภาษีเจริญและการจัดหาจุดจอดแล้วจร ขณะนี้จึงยังไม่พร้อมที่จะเพิ่มอัตราค่าจอด
ทั้งนี้กทม.ก็มีมาตรการให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้ว อาทิ โครงการจอดแล้วจรในการจัดหาที่จอดรถ 4 มุมเมือง ซึ่งได้ประสานเอกชนที่อยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนจัดพื้นที่ในอาคารจอดรถให้ประชาชนจอดฟรี ขณะนี้ได้นำร่องไปแล้วที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนบางแค ซึ่งทางห้างได้จัดรถตู้รับ-ส่งประชาชนไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้าอีกด้วย
ด้านนายกฤษฏา ศิริพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักการคลังกล่าวว่า กทม.ได้จัดเก็บค่าที่จอดรถบนถนน 66 สาย ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นรายได้ท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบการจอดยานยนต์ในเขตเทศบาลและสุขาภิบาลพ.ศ.2503 ซึ่งจัดเก็บได้ประมาณปีละ 48 ล้านบาท โดยมีอัตราจัดเก็บ ดังนี้รถจักรยานยนต์ ชั่วโมงแรก 5 บาท รถยนต์ไม่เกิน 4 ล้อชั่วโมงแรก 10 บาท และรถยนต์ 6 ล้อขึ้นไป ชั่วโมงแรก 20 บาท
ที่ผ่านมาภาครัฐได้พยายามปรับปรุงกฎหมายฉบับดังกล่าวให้เหมาะสมกับปัจจุบันเนื่องจากมีการจัดเก็บในอัตรานี้มานานหลายปีอาทิ การเพิ่มอัตราค่าจอดการให้ท้องถิ่นสามารถจ้างเอกชนจัดเก็บให้ได้เป็นต้น
ด้านนายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ ผู้อำนวยการจราจรและขนส่งกทม.กล่าวว่าหากจะลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลควรดำเนินมาตรการอื่นเสริมด้วย ซึ่งกทม.มองว่าก่อนจะเพิ่มอัตราจัดเก็บค่าจอดซึ่งถือเป็นมาตรการบังคับควรพัฒนาระบบขนส่งมวลชนเพื่อเพิ่มทางเลือกในการเดินทางแก่ประชาชนให้มีความพร้อมก่อน ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย การก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล การเพิ่มที่จอดและทางจักรยาน การเปิดเดินเรือในคลองภาษีเจริญและการจัดหาจุดจอดแล้วจร ขณะนี้จึงยังไม่พร้อมที่จะเพิ่มอัตราค่าจอด
