“ซีคอน” ยังไม่ผลีผลามลงทุนศูนย์การค้าใหม่ตามกระแส เหตุลงทุนสูงคืนทุนนาน พร้อมต้องการสร้างความแข็งแกร่งของเดิมก่อน เผย 4 เดือนแรกสองสาขาไปได้ดี ส่วนโรงแรมลูกค้ากลุ่มรัสเซียและยูเครนลดลง
นายตะติยะ ซอโสตถิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้า “ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์” และ “ซีคอน บางแค” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังไม่มีแผนงานที่จะลงทุนขยายศูนย์การค้าสาขาใหม่เพิ่มเติมในขณะนี้ แม้ว่าช่วงนี้จะมีผู้ประกอบการศูนย์การค้าหลายแห่งเริ่มประกาศแผนการลงทุนขยายสาขาใหม่ๆ กระจายทั่วประเทศแล้วก็ตาม เนื่องจากการพัฒนาศูนย์การค้าใหม่ๆ นั้นต้องใช้งบประมาณการลงทุนค่อนข้างสูงและมีระยะเวลาการคืนทุนที่นานไม่ต่ำกว่า 9-10 ปี ซึ่งนานกว่าในอดีตที่ใช้เวลาไม่เกิน 8 ปีเท่านั้น
อีกทั้งบริษัทฯ ต้องการสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจเดิมที่ดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว โดยจะเน้นการเติบโตจากการสร้างผลกำไรมากกว่าการพัฒนาศูนย์การค้าใหม่ ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2557 พบว่า ศูนย์การค้าทั้ง 2 สาขาคือ ซีคอนถนนศรีนครินทร และซีคอนบางแคยังเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าจะมีปัญหาทางด้านการเมืองอยู่ก็ตาม โดยสาขาบางแคมียอดขายเติบโต 20% แต่จำนวนลูกค้าลดลงเล็กน้อย
การเติบโตของศูนย์การค้านั้นมาจากทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการและการที่มีสายการบินราคาถูกจำนวนเพิ่มขึ้นทั้งสายการบินและไฟลต์ช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ทำให้ศูนย์การค้าเติบโตได้เช่นกัน สำหรับสาขาบางแคตอนนี้ต้องประคองตัวไปเรื่อยๆ รอเมื่อรถไฟฟ้าบางแคสร้างเสร็จยอดขายซีคอนบางแคจะโตแบบก้าวกระโดดแน่
ปีนี้คาดว่ารายได้ในส่วนของศูนย์การค้าจะยังเติบโตตามเป้าหมาย โดยศูนย์การค้าซีคอนสแควร์คาดว่าจะเติบโต 5.5% จากรายได้ปีที่แล้วที่มีประมาณ 1,386 ล้านบาท ส่วนศูนย์การค้าซีคอน บางแคคาดว่าจะเติบโตประมาณ 8.9% จากรายได้ปีที่แล้วที่มีประมาณ 530 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจโรงแรมเรเนซองส์ ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา ของบริษัทก็ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองแต่อย่างใด แต่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความขัดแย้งในประเทศยูเครนแทน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติแถบยุโรป โดยกระทบต่อจำนวนลูกค้าที่เป็นชาวรัสเซียในประเทศยูเครนและเป็นลูกค้าหลักด้วยนั้นงดการเดินทางมาท่องเที่ยว ทำให้อัตราการเข้าพักโรงแรมลดลงไปประมาณ 10% แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ก็ยังได้ตลาดอื่นเข้ามาทดแทนบ้าง เช่น เยอรมนี สิงคโปร์ และฮ่องกง จึงทำให้มั่นใจว่าทั้งปีนี้ในส่วนของโรงแรมน่าจะทำรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 11% จากรายได้รวมปีที่แล้วที่ทำได้ 362 ล้านบาท