นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เข้าใจดีว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้เงินในหลายด้าน และรายได้เข้ารัฐไม่เพียงพอจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ แต่ขอแนะนำ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บภาษีใหม่หรือขึ้นภาษี ทั้งภาษีบ้านละที่ดิน ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีมรดก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน และเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้ทรุดมากขึ้น แต่ให้รัฐบาลออกพันธบัตรเพื่อดูดซับสภาพคล่องในประเทศที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ แม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังประกาศว่ามีเงินล้นธนาคารพาณิชย์วันละ 7-9 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นการช่วยแก้ปัญหากับดักสภาพคล่องของประเทศด้วย แต่จะต้องใช้เงินเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต ไม่ใช่การแจกเงิน หรือใช้เงินโดยไม่เกิดประโยชน์ เช่น โครงการไทยเข้มแข็ง ในสมัยพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้เงินไปมากแต่ไม่เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจเลย แต่ควรใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และจะเป็นการเพิ่มรายได้ประชาชาติในอนาคต และลูกหลานในอนาคตก็ยินดีที่จะร่วมชำระหนี้
ปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อรายได้ประชาชาติมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 46 และหากสามารถใช้เงิน แล้วรายได้ประชาชาติเพิ่มสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ก็จะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ห่วงแค่หากใช้เงินไม่ถูกทางจะทำให้หนี้เพิ่มแต่รายได้ไม่เพิ่ม ซึ่งจะเป็นภาระกับลูกหลานได้ จึงอยากให้พิจารณาให้ดี
ทั้งนี้ แม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย ยังประกาศว่ามีเงินล้นธนาคารพาณิชย์วันละ 7-9 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นการช่วยแก้ปัญหากับดักสภาพคล่องของประเทศด้วย แต่จะต้องใช้เงินเพื่อสร้างรายได้ในอนาคต ไม่ใช่การแจกเงิน หรือใช้เงินโดยไม่เกิดประโยชน์ เช่น โครงการไทยเข้มแข็ง ในสมัยพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้เงินไปมากแต่ไม่เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจเลย แต่ควรใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และจะเป็นการเพิ่มรายได้ประชาชาติในอนาคต และลูกหลานในอนาคตก็ยินดีที่จะร่วมชำระหนี้
ปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อรายได้ประชาชาติมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 46 และหากสามารถใช้เงิน แล้วรายได้ประชาชาติเพิ่มสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ก็จะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ห่วงแค่หากใช้เงินไม่ถูกทางจะทำให้หนี้เพิ่มแต่รายได้ไม่เพิ่ม ซึ่งจะเป็นภาระกับลูกหลานได้ จึงอยากให้พิจารณาให้ดี
