ขุนคลังย้ำ พ.ร.บ.ภาษีบ้านฯ จำเป็น อ้างช่วยให้ท้องถิ่นมีรายได้เพิ่ม

นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติภาษีบ้านและที่ดิน มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูประบบการคลังและการหารายได้ของภาครัฐ เพื่อรองรับการใช้จ่ายในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐในอนาคต โดยภายใน 2 สัปดาห์นี้ จะมีการปรับปรุงร่างกฎหมายใหม่ก่อนนำร่างที่แก้ไขส่งให้นักวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้แสดงความคิดเห็นในอัตราภาษี ทั้ง 4 อัตรา คือ ที่ดินสำหรับการเกษตร ที่อยู่อาศัย ที่ใช้เชิงพาณิชย์ และที่รกร้างว่างเปล่า และเมื่อรัฐบาลมีความพร้อมจึงนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ การจัดเก็บภาษีที่ดิน หากไม่ดำเนินการจะส่งผลให้รัฐบาลมีความเสี่ยงด้านการคลัง เนื่องจากที่ผ่านมามีการทำงบประมาณแบบขาดดุลมานาน อีกทั้งการเก็บภาษีดังกล่าวจะช่วยสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจาก 2 หมื่นล้านบาทต่อปี เป็น 2 แสนล้านบาท ด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่า ภาษีที่ดินที่จะจัดเก็บสำหรับที่อยู่อาศัย ในหลักการต้องการให้ผู้ที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเพิ่มอัตราลดหย่อน จากเดิมอัตราจัดเก็บที่ร้อยละ 0.1 ของราคาประเมิน โดยเก็บล้านละ 1 พันบาท ให้ยกเว้นเป็น 1-2 ล้านบาทแรก เสียภาษี ร้อยละ 25 ของอัตรา 0.1 จากราคาประเมิน หรือล้านละ 250 บาท บ้านราคา 2 ล้านบาท เสีย 500 บาทต่อปี โดยบ้านราคาที่ 3-4 ล้านบาท เสียภาษีร้อยละ 50 ของอัตรา 0.1 จากราคาประเมิน หรือล้านละ 500 บาท ดังนั้น ถ้าบ้านไม่เกิน 4 ล้านบาท จะเสียภาษีไม่เกิน 1,500 บาทต่อปีเท่านั้น ถือว่าไม่เป็นภาระมาก