คณะทำงานเศรษฐกิจเพื่อไทย แนะรัฐออกพันธบัตรแทนรีดภาษี ชี้ทุกวันนี้เงินล้นแบงค์พาณิชย์ ต้องหาทางนำออกมาเพิ่มสภาพคล่องของประเทศ ควรใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เหน็บต้องไม่ละลายแม่น้ำเหมือนโครงการไทยเข้มแข็ง ปชป.
วันนี้ (16 มี.ค.) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน และคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า ส่วนตัวเข้าใจดีว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณในหลายด้าน และปัจจุบันรายได้เข้ารัฐไม่เพียงพอจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ อย่างไรก็ตาม มองว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บภาษีใหม่หรือขึ้นภาษีเพิ่มเติม ทั้งภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีมรดก เป็นต้น เพราะจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน และเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วให้ทรุดมากขึ้น
ทั้งนี้ ขอเสนอไปยัง ม.ร.ว ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ถึงการพิจารณาออกพันธบัตรรัฐบาล เพื่อดูดซับสภาพคล่องในประเทศที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะตามรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ขณะนี้มีเงินล้นธนาคารพาณิชย์วันละกว่า 7 - 9 แสนล้านบาท การออกพันธบัตรจะเป็นช่วยแก้ปัญหากับดักสภาพคล่องของประเทศด้วย โดยปัจจุบันหนี้สาธารณะต่อรายได้ประชาชาติมีสัดส่วนเพียง 46% เท่านั้น และหากสามารถใช้เงินแล้วรายได้ประชาชาติเพิ่ม สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ก็จะไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ห่วงแค่หากใช้เงินไม่ถูกทางจะทำให้หนี้เพิ่มแต่รายได้ไม่เพิ่ม ซึ่งจะเป็นภาระกับลูกหลานได้ จึงอยากให้พิจารณาให้ดี
“เงินที่รัฐบาลได้มา จะต้องใช้เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต ไม่ใช่การแจกเงินหรือหรือใช้เงินโดยไม่เกิดประโยชน์อย่างเช่น โครงการไทยเข้มแข็งในสมัยพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้เงินไปมากแต่ไม่เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจเลย แต่ควรใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และจะเป็นการเพิ่มรายได้ประชาชาติในอนาคต และลูกหลานในอนาคตก็ยินดีที่จะร่วมชำระหนี้” นายพิชัย ระบุ