พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึง กรณีที่ได้มีคำสั่งให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2556-2557 ว่า ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณากันอยู่ซึ่งตนก็ได้บอกไปว่า ก็ขอให้ดูแลเพราะมีนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาให้การเยียวยา ดังนั้นต้องไปพิจารณาว่าควรจะเยียวยาเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ อย่างไร ให้พิจารณาตัวเลข แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีคดีความอยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถึงเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาที่ผ่านมาว่าดำเนินการไปอย่างไม่มีหลักเกณฑ์ เพราะตามหลักเกณฑ์ ระบุจำนวนเพียงไม่กี่แสน แต่จ่ายไปหลายล้านบาทนั้นถูกต้องหรือไม่ กำลังเป็นคดีอยู่ ดังนั้นตนจึงให้คณะกรรมการของสปน.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาว่าหากรัฐบาลนี้จะอนุมัติก็ต้องอนุมัติในกรอบ และตนเองก็มีความเห็นใจอยู่แล้ว หากไม่เรียกร้องตนก็ต้องช่วยเหลือเพียงแต่ต้องมีระยะเวลาให้ตนได้ทำงาน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังสอบสวนติดตามว่าเยียวยาได้แค่ไหน
"เขากำลังสอบสวนติดตามว่าจะทำได้แค่ไหน ก็พันไปสู่ครั้งที่แล้วว่ามีการจ่ายเกิน ก็ว่ากันมาว่าผิดหรือถูก คงไม่ใช่ความผิดของคนรับเงินหรอก แต่คนตัดสินใจถูกหรือผิดผมไม่รู้ แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าสร้างนิสัยให้คนอยากได้อย่างเดียว แต่ต้องให้และรับด้วย คือให้ความทั่วถึง ให้ความเป็นธรรม ถ้าจะเอาก็เอาแต่พอเพียง อย่าเรียกร้องว่าต้องได้มากที่สุด ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะคนที่เหลือจะไม่ได้ ต้องสอนคนไทยว่าต่อไปต้องเป็นอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นต่อไป ก็จะร้องกันว่า คนนั้นได้มาก คนนี้ได้น้อย ก็จะขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้ และจะเป็นเครื่องมือของคนไม่ดี" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเยียวยาจะรวมถึง ผู้ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกคน เพราะทุกคนเป็นคนไทย รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลทุกคนไม่ได้แยก ไม่ว่าจะนปช.หรือใครที่เป็นนักโทษ คนไทยหรือเปล่า ถ้าคนไทยก็ต้องดูแล ถ้าคนไทยก็ดูหมด
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ต้องรอคดีความที่ค้างอยู่ในป.ป.ช.เสร็จก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าหากจะต้องจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ประทังความสูญเสีย เช่น พิการ ก็ต้องขอครม. เพื่อให้อยู่ในวงเงินที่ควรจะจ่ายไปก่อน สำหรับคนที่ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นจะไปจ่ายเท่าเดิมคงไม่ได้ ดังนั้นอย่ามาเรียกร้องตนในตรงนั้น ส่วนเรื่องที่ค้างอยู่ป.ป.ช.ก็เป็นเรื่องของคดีไป ซึ่งในส่วนของคดีเขาก็ต้องตรวจสอบว่าเกิดจากอะไร เหตุใด ใช่หรือไม่ เกิดจากทางไหนก่อนหลัง ทุกคนก็รู้ดีอยู่ เมื่อมีการทำร้ายก็ต้องมีการป้องกันตัวเองจากการถูกทำร้าย ถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานไม่ได้ ก็ต้องใช้กฎหมาย ก็ต้องเป็นอย่างนี้ และก็พร้อมจะเป็นอย่างนี้ต่อไปในอนาคต หากยังไม่แก้ไขกัน
"เขากำลังสอบสวนติดตามว่าจะทำได้แค่ไหน ก็พันไปสู่ครั้งที่แล้วว่ามีการจ่ายเกิน ก็ว่ากันมาว่าผิดหรือถูก คงไม่ใช่ความผิดของคนรับเงินหรอก แต่คนตัดสินใจถูกหรือผิดผมไม่รู้ แต่จำไว้อย่างหนึ่งว่า อย่าสร้างนิสัยให้คนอยากได้อย่างเดียว แต่ต้องให้และรับด้วย คือให้ความทั่วถึง ให้ความเป็นธรรม ถ้าจะเอาก็เอาแต่พอเพียง อย่าเรียกร้องว่าต้องได้มากที่สุด ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะคนที่เหลือจะไม่ได้ ต้องสอนคนไทยว่าต่อไปต้องเป็นอย่างนี้ ไม่อย่างนั้นต่อไป ก็จะร้องกันว่า คนนั้นได้มาก คนนี้ได้น้อย ก็จะขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้ และจะเป็นเครื่องมือของคนไม่ดี" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเยียวยาจะรวมถึง ผู้ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกคน เพราะทุกคนเป็นคนไทย รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลทุกคนไม่ได้แยก ไม่ว่าจะนปช.หรือใครที่เป็นนักโทษ คนไทยหรือเปล่า ถ้าคนไทยก็ต้องดูแล ถ้าคนไทยก็ดูหมด
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ต้องรอคดีความที่ค้างอยู่ในป.ป.ช.เสร็จก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าหากจะต้องจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ประทังความสูญเสีย เช่น พิการ ก็ต้องขอครม. เพื่อให้อยู่ในวงเงินที่ควรจะจ่ายไปก่อน สำหรับคนที่ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นจะไปจ่ายเท่าเดิมคงไม่ได้ ดังนั้นอย่ามาเรียกร้องตนในตรงนั้น ส่วนเรื่องที่ค้างอยู่ป.ป.ช.ก็เป็นเรื่องของคดีไป ซึ่งในส่วนของคดีเขาก็ต้องตรวจสอบว่าเกิดจากอะไร เหตุใด ใช่หรือไม่ เกิดจากทางไหนก่อนหลัง ทุกคนก็รู้ดีอยู่ เมื่อมีการทำร้ายก็ต้องมีการป้องกันตัวเองจากการถูกทำร้าย ถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานไม่ได้ ก็ต้องใช้กฎหมาย ก็ต้องเป็นอย่างนี้ และก็พร้อมจะเป็นอย่างนี้ต่อไปในอนาคต หากยังไม่แก้ไขกัน