รายงานการเมือง
ในที่สุด “รัฐบาล คสช.” ก็เริ่มขยับเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง หลังจากเข้าสู่อำนาจมาครึ่งค่อนปี โดยสาเหตุที่เรื่องนี้ถูกทิ้งค้างไว้นานก็เป็นเพราะ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.คงไม่อยากขยายปมที่ถูกค่อนขอดว่า “มีวันนี้ เพราะ กปปส.ให้”
ตามสไตล์ของ “บิ๊กตู่” ที่ต้องการทำให้ตัวเอง “คลีน” พยายามทิ้งฉากหน้าของตัวเองออกมาจาก “กลุ่มสี” ให้มากที่สุด
เนื่องจากการเยียวยาเหยื่อการชุมนุมทางการเมืองรอบนี้ แม้จะเหมารวมการชุมุนุมตั้งแต่ปี2548 ถึงปี 2557 แต่กลุ่มที่ได้รับอานิสงค์มากที่สุดหนีไม่พ้น “ชาว กปปส.” ที่ลงทุนลงแรงปิดประเทศอยู่นานหลายเดือนก่อนจะมีการรัฐประหาร 22 พ.ค. 57
จึงไม่แปลกที่ “บิ๊กตู่” จะพยายามหลีกเลี่ยงและไม่อยากให้เรื่องเยียวยาหลุดออกมาสักเท่าไร เพราะจะถูก “ขั้วตรงข้าม” ย้อนศรว่าทำรัฐประหารตามใจ กปปส. แล้วยังมาให้เงินเยียวยาให้ กปปส.อีก
แต่ข่าวเรื่องกลับหลุดออกมาจากปาก “เอนก เหล่าธรรมทัศน์” สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่สวมหมวกประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้าง ความปรองดองของ สปช.อยู่ด้วยที่ออกมาให้ข่าวว่า “ประยุทธ์” สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปี 48-57
ตามเนื้อผ้าแล้ว “ฝ่ายบริหาร” ก็ต้องนำเรื่องนี้มาพิจารณาตามมาตรฐานรัฐบาลที่แล้วๆมาได้วางไว้ แต่ในยุค คสช.ต้องลับ-ลวง-พราง ไม่ให้ประเจิดประเจ้อจน “ฝ่ายสีแดง” ออกมาแสดงความไม่พอใจมากเกินควร
การตั้งเรื่องเยียวยาในยุค คสช. จึงมีคำสั่งให้เริ่มดำเนินการแบบลับพอสมควร
อีกทั้งมีข่าวลือหนาหูว่า “พระสุเทพ ปภากโร” หรือ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการ กปปส.ได้ทำหนังสือถึง “บิ๊กตู่” เพื่อให้เร่งพิจารณาการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ ผู้ได้รับบาดเจ็บ-เสียชีวิต จากเหตุการณ์การชุมนุมของ กปปส. ไม่เพียงเท่านั้นยังจัดแจงเสนอหลักเกณฑ์การเยียวยามาด้วย แต่ก็ถูกเก็บไว้ใน “ลิ้นชัก” เพราะหากเด้งรับลูกทันทีทันใดอาจจะดูไม่งาม ซึ่งโดยหลักเกณฑ์แล้วการอนุมัติจ่ายเงินเยียวยาลักษณะนี้จะต้องขอผ่าน “คณะรัฐมนตรี” และส่วนใหญ่จะเลือกหยิบใช้เงินจากงบของ “สำนักนายกรัฐมนตรี” ที่มีหลายส่วนถูกกันไว้เป็นงบกลางสำรองจ่ายเพื่อช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินอยู่แล้ว
หากรัฐบาล คสช.อยากไฟเขียวเงินเยียวยาจริงก็สามารถทำได้โดยทันที และสามารถพิจารณาหลักเกณฑ์การอนุมัติได้ด้วยตัวเอง เพราะ “อำนาจ” ที่มีอยู่ในฐานะรัฐบาล และ คสช.มีความชอบธรรมมากพอ
ล่าสุด “บิ๊กตู่” เลือกที่จะมอบหมายให้ “บิ๊กอ้อ-พล.อ.วิลาศ อรุณศรี” เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นคนดูแลการจ่ายเงินเยียวยาผู้ชุมนุมทางการเมือง และแก้เกมโยนเผือกร้อนให้กับ “เอนก ณ สปช.” โยนมาให้ โดย “บิ๊กอ้อ” ได้ทำหนังสือส่งถึง “เอนก” มีหัวเรื่องว่า การช่วยเหลือเยียวยาตามหลักมนุษยธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุทางการเมือง ปี 2556-2557 ไปแล้ว
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สอบถามคณะกรรมการกฤษฎีกา” ว่าสามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้ชุมนุมได้ในระดับไหน และสามารถนำข้อกฏหมายใดหรือเทียบเคียงข้อกฎหมายใดมาบังคับใช้ได้ และให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปหามาตรการเยียวยาด้านจิตใจให้กับเหยื่อผู้ชุมนุมด้วย
พ่วงด้วยการจี้ให้ “กระทรวงยุติธรรม” เร่งติดตามความคืบหน้าด้านคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548-2557 ของทุกฝ่ายด้วย
หนังสือที่ “บิ๊กตู่” สั่งผ่านทาง “บิ๊กอ้อ” ให้ประสาน “เอนก ณ สปช.” เหมือนส่งสัญญาณว่าจะเร่งเอาจริงเอาจังกับการเยียวยาเหยื่อผู้ชุมนุม “กปปส.” แล้ว หลังโดนกดดันมาหลายทาง โดยเฉพาะสารจาก “พระสุเทพ”
แต่ “บิ๊กตู่” ที่ระยะหลังมีบรรดา “กุนซือ” เดินกันให้เต็มตึกไทยคู่ฟ้า ก็ไม่เลือกที่โผงผางให้รัฐบาลเป็นเป้านิ่ง โยนลูกกลับไปให้คณะกรรมการปรองดองฯของ “เอนก” พิจารณาหลักเกณฑ์เสนอมาด้วย นัยว่าจะหาข้ออ้างว่าฝ่าย สปช.โดยคณะกรรมการปรองดองฯเป็นผู้เสนอมา
เหมือนเมื่อครั้งที่ “รัฐบาลปูแดง” พยายามฟอกตัวเองจากการจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อผู้ชุมนุม “คนเสื้อแดง” ปี 2552-2553 โดยอาศัยโอกาสที่ “คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ” (คอป.) เสนอให้เยียวยาเหยื่อผู้ชุมนุมทุกกลุ่ม และ “รัฐบาลปูแดง” ก็ถือโอกาสเอาใจ “คนเสื้อแดง” อนุมัติเงินแบบจัดหนักให้เต็มถึงรายละ 7.5 ล้านบาท กรณีที่เสียชีวิต ส่วนคนที่บาดเจ็บยังได้รับการเยียวยาหลักแสนบาท
แม้ “รัฐบาลปูแดง” จะกางเเคมเปญเยียวยาให้ครอบคลุมการชุมนุมของ “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ด้วย แต่มติของ “กลุ่มพันธมิตรฯ” ชัดเจนว่าไม่ขอรับเงินเยียวยาที่ “รัฐบาลปูแดง” อนุมัติให้โดยเด็ดขาด
การจ่ายเงินเยียวยาเป็นเรื่องที่สังคมรับได้ เพราะหัวใจของผู้ที่ได้รับความบาดเจ็บ หัวใจของผู้สูญเสียเขาได้รับความเดือดร้อน แต่เกณฑ์การเยียวยาต้องไม่เอาอกเอาใจกันมากเกินไป เพราะอย่าลืมว่าเงินเยียวยาที่ใช้จ่ายไปเป็นเงินภาษีของประชาชนทุกคนในประเทศนี้ หากคิดจะนำเงินภาษีของคนทั้งประเทศไปเอาใจ “กลุ่มการเมือง” เพื่อรักษาฐานเสียงเอาไว้ ถือว่าไม่ยุติธรรมกับ “ประชาชน” ทั้งประเทศ
ตรงนี้ต้องวัดใจ “บิ๊กตู่” ว่าจะยอมจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อผู้ชุมนุม กปปส.ตามที่ “พระสุเทพ” ทำหนังสือเรียกร้องมาในจำนวนเท่าไร เพราะหากจ่ายเยอะกว่าที่ “รัฐบาลปูแดง” จ่ายให้กับ “คนเสื้อแดง” มีหวังโดนจับไปเป็นประเด็นปลุกเร้ากันได้อีก ครั้นจะจ่ายให้น้อยกว่า “รัฐบาลปูแดง” มีหวังโดน กปปส.ตั้งแง่
โดยว่ากันว่ายอดเงินที่ “พระสุเทพ” ยื่นข้อเสนอมาคือควรได้เท่ากับที่ “รัฐบาลปูแดง” จ่ายให้กับ “คนเสื้อแดง” คือ 7.5 ล้านบาท
เมื่อไฟล์บังคับให้ “บิ๊กตู่” ต้องงัดงบรัฐจ่ายเงินเยียวยา งานนี้วัดใจ “บิ๊กตู่” ว่าจะกล้าได้-กล้าเสีย-กล้าช่วย “มวลชน” มากน้อยแค่ไหน