นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากสถิติของผู้เข้ารับการบำบัดรักษาที่สถาบันธัญญารักษ์ปี 2557 พบว่ามีผู้ป่วยทั้งหมด 7,071 ราย แบ่งเป็นเพศชายคิดเป็นร้อยละ 84.84 เพศหญิงร้อยละ 15.16 มีอายุช่วง 30-34 ปีมากที่สุด จำนวน 1,239 คน คิดเป็นร้อยละ 17.52 ส่วนใหญ่พบในผู้ว่างงาน คิดเป็นร้อยละ 39.97 และยาเสพติดที่ใช้มากที่สุดคือยาบ้า คิดเป็นร้อยละ 52.93 สาเหตุที่เสพยามากที่สุด เพื่อนชวนเสพยาเสพติด คิดเป็นร้อยละ 53.53 รองลงมาคืออยากทดลองเสพยา คิดเป็นร้อยละ 38.76 จะเห็นได้ว่า ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญต่อประชาชนไทยและประชาคมโลกมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และระดมพลังแผ่นดินทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการแก้ไข ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษา ซึ่งในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ย่อมมีผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติด เนื่องจากมีผลต่อการย้ายถิ่นฐานของประชากร สภาพสังคม วัฒนธรรม ภาวะเศรษฐกิจ การเมืองที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลต่อปัญหายาเสพติด จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการเตรียมวางแผนเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และโดยเฉพาะการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
กรมการแพทย์โดยสถาบันธัญญารักษ์และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาค ถือเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทหน้าที่ด้านการพัฒนาวิชาการการบำบัดรักษายาเสพติด จึงได้จัดทำโครงการความร่วมมือเพื่อจัดการอบรมหลักสูตรการบำบัดรักษายาเสพติดแบบสากลระดับพื้นฐาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์นานาชาติเพื่อการรับรองและการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญด้านการติดยาเสพติด แผนโคลัมโบ (ICCE) และสถาบันธัญญารักษ์ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งจากประเทศไทย ประเทศอาเซียน รวมถึงประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาวิชาการ สร้างผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดรักษายาเสพติด เทียบเท่าระดับสากล ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และนำความรู้และทักษะไปใช้ในการปฏิบัติงานดูแลบำบัด รักษาผู้ติดยาเสพติดอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพและมีความเท่าเทียมให้กลับเป็นคนดีของสังคมและกำลังในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป
สำหรับประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และระดมพลังแผ่นดินทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการแก้ไข ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัดรักษา ซึ่งในปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ย่อมมีผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติด เนื่องจากมีผลต่อการย้ายถิ่นฐานของประชากร สภาพสังคม วัฒนธรรม ภาวะเศรษฐกิจ การเมืองที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งมีผลต่อปัญหายาเสพติด จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีการเตรียมวางแผนเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม และโดยเฉพาะการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
กรมการแพทย์โดยสถาบันธัญญารักษ์และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาค ถือเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทหน้าที่ด้านการพัฒนาวิชาการการบำบัดรักษายาเสพติด จึงได้จัดทำโครงการความร่วมมือเพื่อจัดการอบรมหลักสูตรการบำบัดรักษายาเสพติดแบบสากลระดับพื้นฐาน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์นานาชาติเพื่อการรับรองและการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญด้านการติดยาเสพติด แผนโคลัมโบ (ICCE) และสถาบันธัญญารักษ์ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งจากประเทศไทย ประเทศอาเซียน รวมถึงประเทศภูฏาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาวิชาการ สร้างผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดรักษายาเสพติด เทียบเท่าระดับสากล ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และนำความรู้และทักษะไปใช้ในการปฏิบัติงานดูแลบำบัด รักษาผู้ติดยาเสพติดอย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพและมีความเท่าเทียมให้กลับเป็นคนดีของสังคมและกำลังในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป